ชวนย้อนรอย!!! นัยแห่งซูเปอร์ฮีโร่ ก่อนรวมทีมไป “เผด็จศึก” มหากาพย์ภาพยนตร์

  • 71
  •  
  •  
  •  
  •  

Marvel 10 Year Anniversary

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างภาพยนตร์ให้ผู้ชมสามารถติดตามได้ยาวนานถึง 10 ปี แต่ซูเปอร์ฮีโร่ก็มีนัยแฝงที่หลายคนมองข้าม หากมาลองพินิจพิเคราะห์จะเห็นว่าอะไรที่ทำให้ซูเปอร์ฮีโร่อยู่มาอย่างยาวนานถึงขนาดนี้

The Avengers: End Game

หลายคนแทบจะอดใจรอไม่ไหวกับบทสรุปแห่งมหากาพย์ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ติดตามมายาวนานกว่า 10 ปี ภายใต้สังกัด Marvel ที่แม้แต่ผู้ให้กำเนิดซูเปอร์ฮีโร่ดังๆ หลายตัวอย่าง Stanley Martin Lieber หรือที่เรารู้จักในชื่อปู่สแตน ลี (Stan Lee) จะเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่เหล่าซูเปอร์ฮีโร่จะยังคงเป็นอมตะอยู่ในโลกภาพยนตร์พร้อมๆ กับการปรากฎตัวของปู่สแตน ลีแบบแวบๆ ในภาพยนตร์

Stan Lee
Credit: IGN.com

ความดังของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ก่อให้เกิดรูปแบบการตลาดอิงกระแสซูเปอร์ฮีโร่ ตั้งทั้งในหมวดแต่ของกินจนถึงของใช้ บางแบรนด์ถึงขนาดจัดเป็นคอลเลคชั่นพิเศษเพื่อสะสม ไม่เพียงเท่านี้แบรนด์ที่ไม่มีลิขสิทธิ์ของ Marvel ก็ยังสามารถใช้การตลาดแบบ Ambush Marketing ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวละครซูปอร์ฮีโร่มาร่วมแจม แต่อาจใช้สีเป็นการสื่อสารแทน หรือโลเคชั่นที่ชวนให้นึกถุงเหล่าซูเปอร์ฮีโร่

แต่รู้หรือไม่ว่าการปรากฎตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มีนัยแฝงเร้นอยู่ เพราะตั้งแต่ซูเปอร์ฮีโร่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกดาวเคราะห์สีน้ำเงินใบนี้และใน Cinematic Universe มักจะมีเหตุการณ์หรือวิกฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ ในทางกลับกันเมื่อไหร่ที่โลกสงบสุขไร้ซึ่งสถานการณ์พิเศษใดๆ ซูเปอร์ฮีโร่ก็แทบไม่ได้รับความสนใจ

 

ยุคกำเนิด Super Hero

Mandrake the Magician เป็นที่ยอมรับว่านี่คือซูเปอร์ฮีโร่คนแรกของโลก โดยเป็นที่รู้จักในวันที่ 11 มิถุนายน 1934 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นยุคที่ทั่วดลกประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง อันเป็นผลพวงมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่แม้สงครามจะสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายมหาอำนาจกลาง แต่ฝ่ายที่ชนะสงครามอย่างฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้รับผลพวงทางเศรษฐกิจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

Mandrake the Magician
Super Hero คนแรกของโลก

เมื่อสินค้านำเข้าที่จำเป็นราคาสูงปรี๊ด ส่วนสินค้าส่งออกก็แทบขายไม่ได้ คนจนจึงเพิ่มขึ้นและเป็นต้นเหตุของปัญหาทางสังคมอย่างลักวิ่งชิงปล้น รุนแรงถึงขนาดคดีฆาตกรรมจากการปล้นเพิ่มสูงขึ้นมาก จนแม้แต่ตำรวจเองก็แทบจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซูเปอร์ฮีโร่จึงถือกำเนิดเพื่อช่วยชะดลมบรรเทาจิตใจให้รู้สึกดีขึ้นกับโลกใบนี้

ซูเปอร์ฮีโร่ในยุคนี้จึงเป็นแค่เพียงคนธรรมดาที่ไม่ได้เหาะเหิรเดินอากาศได้ หรือปล่อยลำแสง มีอาวุธมหาประลัย ที่สำคัญไม่ต้องใส่หน้ากากปิดบังโฉมหน้าแต่อย่างใด หากแต่อยู่ในเงามืดคอยช่วยเหลือผู้คนด้วย ด้วยความสามารถที่คนทั่วไปไม่มี เช่น การสะกดจิต เป็นต้น

 

ยุคเฟื่องฟู Super Hero

Superman เป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ต่างดาวที่มีพลังเหนือคนธรรมดาเล็กน้อย ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้คนในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำและปัญหาทางอาขญากรรมยังพุ่งสูงอยู่ โดยโลกได้รู้จักกับ Superman ในวันที่ 18 เมษายน 1938 หลังจาก Superman ถือกำเนิดมาได้ปีเดียว สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อุบัติขึ้นโดยกองทัพนาซีที่มี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นผู้บัญชาการ

Superman Comic
Superman VS Adolf Hitler

นั่นทำให้ Superman ค่อยๆ มีพลังพิเศษเพิ่มขึ้นตามตำนานเทพกรีกโบราณ ตั้งแต่พลังกำลังเหนือมนุษย์ เหาะเหิรเดินอากศ ตาเลเซอร์ ลมเป่าพายุน้ำแข็ง เป็นต้น เพื่อให้ Superman เป็นตัวแทนในการต่อกรกับกองทัพนาซี แต่นั่นคือการ์ตูน ซึ่งในความเป็นจริงไม่มี Superman เหาะไปถล่มกองทัพนาซี

Captain America Comics
Captain America VS Adolf Hitler

ในช่วงที่กองทัพสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้าร่วมสงครามหลังถูกโจมตีที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) ซูเปอร์ฮีโร่ในตำนานอีกคนก็ปรากฎตัวขึ้นภายใต้สัญลักษณ์ของสหรัฐฯ อย่าง Captain America ที่มาในรูปของทหารนักสู้ในชุดสีน้ำเงินแดงพร้อมด้วยโลห์ที่มีดาว ซึ่ง Captain America ถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความใกล้เคียงคนปกติทั่วไปมากที่สุด

 

ยุคตกต่ำ Super Hero

หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอีกครั้ง แต่เป็นการถดถอยแบบมีเสถียรภาพความสงบสุข ซูเปอร์ฮีโร่จึงค่อยๆ ถูกลดความสำคัญลงและตกต่ำอย่างสุดขีดเมื่อสงครามเย็น (Cold War) เริ่มต้นขึ้น ขณะที่สายลับถูกให้ความสำคัญมากขึ้น และดูเหมือนจะมากกว่าซูเปอร์ฮีโร่ที่คอยช่วยเหลือผู้คน จึงไม่แปลกที่ธุรกิจหนังสือการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่จะเริ่มประสบปัญหา

ทางออกหนึ่งคือการแปลงภาพนิ่งให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่ง Superman ถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ซูเปอร์ฮีโร่หลายตัวเริ่มทะยอยถูกปล่อยออกมาในรูปของภาพยนตร์ แต่ใช่ว่าทุกเรื่องจะประสบความสำเร็จเอง แม้แต่ตัว Superman เองก็ไม่รอด เมื่อซูเปอร์ฮีโร่เสื่อมศรัทธาลง

Superman-The-Movie
ภาพยนตร์ Superman ในปี 1978

หลายค่ายพยายามที่จะเข็นเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ทั้งการออกตอนใหม่หรือการสร้างซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่ทั้งฝั่งผู้ร้ายและฝั่งพระเอก แต่ก็ไม่สามารถกู้ชื่อเสียงซูเปอร์ฮีโร่มาได้ เพราะโลกอยู่ในยุคที่ปัญหาเศรษฐกิจลดน้อยลง สงครามใหญ่ที่เหลืออยู่คือสงครามเย็น ซึ่งแทบจะไม่มีการประหัตประหารมีแต่การข่มขู่และการจารกรรมข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม

ซูเปอร์จึงถูกลืมเลือนไปพร้อมกับธุรกิจการ์ตูนที่ซบเซาลง หนึ่งในค่ายที่เรียกว่าตกอับขีดสุดคือ Marvel เมื่อถูกศาลฟ้องล้มละลายจะภาระหนี้ในบริษัทที่ Marvel เข้าไปถือหุ้น จนทางออกเดียวคือการส่งลิขสิทธิ์ซูเปอร์ฮีโร่ไปยังค่ายภาพยนตร์ต่างๆ เพื่อสร้างภาพยนตร์แล้วนำส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์มาแก้ปัญหาทางการเงินที่กำลังประสบอยู่

 

ยุคทองของ Super Hero

ดูเหมือนว่าซูเปอร์ฮีโร่ที่ทั่วโลกรักอย่าง Spider-Man จะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริงของ Marvel เพราะรายได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2002 แทบจะช่วยปลดภาระหนี้สินของ Marvel จากหนักหนาสาหัสให้กลายเป็นเบา จนส่งผลให้ Marvel คิดการใหญ่หันมาเป้นผู้ผลิตหนังเอง ภายใต้ซูเปอร์ฮีโร่ของตัวเอง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว Iron Man

เมื่อย้อนกลับไปในเวลาที่ Spider-Man เข้าฉาย เป็นช่วงหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั่วเอเชียหรือที่เรารู้จักในชื่อ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ในปี พ.ศ. 2540 หรือปี 1997 ซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจดังกล่าวเริ่มที่เอเชียแล้วกระทบไปทั่วภูมิภาคเอเชียก่อนจะส่งผลไปทั่วโลก และถือเป็นชนวนเหตุให้ให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจอื่นๆ เป็นผลกระทบปฏิกิริยาลูกโซ่ (Chain Reaction) ตามมาอีกในภายหลัง

ซูเปอร์ฮีโร่จึงเป็นเสมือนความหวังที่จะช่วยให้วิกฤติต่างๆ ดีขึ้น ประกอบกับในปี พ.ศ. 2534 หรือปี 1991 สหภาพโซเวียตในฐานะขั้วตรงข้ามกับสหรัฐฯ ในการทำสงครามเย็น ยกเลิกการเป็นสหภาพโซเวียตส่งผลให้สงครามเย็นที่มีมายาวนานยุติลง เหล่าสายลับต่างๆ ถูกยกเลิกภาระกิจและยกเลิกการตรึงกำลังพลเพื่อเตรียมพร้อมรบ นั่นช่วยให้ความต้องการซูเปอร์ฮีโร่กลับมาอีกครั้งหนึ่ง

 

เฝ้าดูการเติบโตของ Super Hero

เรียกได้ว่าเป้นแผนอับแยบยลของ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ที่มีเป้าหมายในการรวมซูเปอร์ฮีโร่เป็นกลุ่มเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ก่อนออกไปทำภาระกิจกอบกู้โลก แน่นอนว่าการรวมกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่จำเป็นต้องมีการเล่าเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัว นั่นจึงก่อให้เกิดเส้นเวลา (Time Line) ของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัว ก่อนจะมารวมกันสู้ศึกสุดท้ายใน End Game

Marvel Studios’ Avengers: Endgame
Marvel Studios’ Avengers: Endgame

เพราะแผนของไฟกีที่ให้ติดตาม ตั้งแต่ที่มาที่ไปของตัวละครซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัว ไปจนถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่บ้านแตกสาแหรกขาด คนรักจากไป ไปจนถึงความสิ้นหวัง เป็นต้น ช่วยให้แต่ละคนรู้จักซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัวมากขึ้น และเห็นจุดเด่นจุดด้อยของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัว ยิ่งช่วยให้คนที่ติดตามอินและกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลมาร์เวล

กระแส Marvel Studios’ Avengers: Endgame มาแรง ซื้อตั๋วล่วงหน้าแล้วกว่า 300,000 ใบ
กระแส Marvel Studios’ Avengers: Endgame มาแรง ซื้อตั๋วล่วงหน้าแล้วกว่า 300,000 ใบ

จึงไม่แปลกที่เมื่อรู้ว่า The Avengers: End Game เตรียมเข้าฉาย การจองตั๋วก็ถูกจองจนแทบจะไม่เหลือที่นั่งให้จอง ชนิดที่นั่งแถวหน้าสุดก็ยอม และเมื่อยิ่งมีการโหนเชื้อไฟว่านี่คือจุดสิ้นสุดของซูเปอร์ฮีโร่เฟสแรก ก่อนจะเตรียมตัวเข้าสู่เฟสสอง คนที่ติดตามมาตั้งแต่ Iron Man เข้าฉายมีหรอที่จะยอมพลาด

 

© Marketing Oops!


  • 71
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา