[opinion] ทำไมพวกคนฉลาดถึงเป็นเจ้าของกิจการที่ไม่ดี

  • 25
  •  
  •  
  •  
  •  

why-smart-people-make-bad-entrpreneurs

ยากจะเชื่อแต่ทักษะหนึ่งที่ทำลายเจ้าของกิจการมานักต่อนักแล้วคือความฉลาด! ใช่แล้วล่ะ…ยิ่งคุณประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่และยิ่งคุณมีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ คุณยิ่งเป็นเจ้าของกิจการยากขึ้นเท่านั้น

แปลกใจล่ะสิว่าทำไมคนฉลาดที่น่าจะคิดอะไรเป็นขั้นตอน มีตรรกะที่ดี และมีความคิดสร้างสรรค์ถึงเป็นเจ้าของกิจการที่แย่ เรามี 3 คำตอบมาให้คุณช่วยกันถกเถียงดูครับ

1.คนเก่งจะพยายามเก่งในทุกๆ เรื่อง

ลองคิดถึงสมัยทำงานกลุ่มกับคนเก่งสิ สุดท้ายแล้วงานกว่า 80% มักจะไปตกอยู่กับพวกเก่งๆ ที่ไม่เคยพอใจผลงานคนอื่นและเหมาไปทำเองคนเดียวทั้งหมดเนื่องจากไม่อยากเอาเกรดตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับเพื่อนหัวขี้เลื่อยทั้งหลาย

แม้จะดูดี แต่พฤติกรรมนี้ทำให้พวกคนฉลาดเป็นคนที่ไม่รู้จักใช้คนและไม่รู้จักการแบ่งงานกันทำเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ผลงานดีขึ้น เมื่อเขาไม่รู้จักใช้หรือเชื่อใจคนอื่นเลยก็ Game Over ธุรกิจไม่มีวันโต

2.พวกจอมโดดเรียนมักเป็นผู้ประกอบการที่เจ๋งไปเลย

น่าสนใจมากว่าพวกจอมโดดเรียนทั้งหลายนี่แหละที่จะเป็นเจ้าของกิจการชั้นดี เพราะคิดในมุมกลับ เขาเป็นคนที่พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางพวกฉลาดเพื่อให้ตัวเองพัฒนาและไม่ต้องทำงานยากๆ ให้เหนื่อย เรียกง่ายๆ ว่าพวกขี้เกียจนี่แหละที่รู้จักการ “ใช้คน” และรู้ว่าสถานการณ์ไหนตนเองได้เปรียบ (ได้เกรดน้อยไปก็ไม่รู้สึกอะไร)

3.คุณฉลาดกับเรื่องที่คุณทำได้นั้นแหละ

ก็ด้วยนิสัยที่ชอบทำอะไรเองคนเดียวทั้งหมด พวกเขาเลยไม่รู้จักการพัฒนาระบบและแบ่งย่อยงานเพื่อให้คนอื่นมารับช่วงต่อไปได้ นอกจากนี้คนฉลาดมักจะสร้างระบบให้ “คนฉลาด” ด้วยกันใช้ ซึ่งแน่นอน คนงานหรือพนักงานของพวกเขาไม่ได้รู้เรื่องกับสิ่งที่คนฉลาดสร้างขึ้นสักนิดเดียว

4.ฉลาดเกินไปก็ไม่ดี

คนฉลาดไม่ชอบทำเรื่องอะไรง่ายๆ เพราะมันไม่ท้าทายเอาเสียเลย ดังนั้นพวกเขามักจะสร้างอะไรพิศดารและลึกล้ำโดยไม่ทันคิดว่าคนที่มาทำธุรกิจให้พวกเขาจะรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า หาก CEO ของ McDonald คิดเช่นนี้ธุรกิจของเขาก็คงไม่รุ่งเรื่องมาจนปัจจุบัน จำไว้ว่าระบบหรือนวัตกรรมที่ดีต้องทำงานได้ไม่ว่า “ไอ้งั่งที่ไหนจะมาคุมเครื่อง” ก็ตามที

5.มีเรื่องให้เสียมาก

พวกคนฉลาดมักจะมีงานการดี มีอนาคตสดใสและมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิ่งที่ต้องสละไปมากมายหากตกลงใจมาเป็นผู้ประกอบการ หากคิดตามหลักเศรษฐศาสตร์คุณก็มีค่าเสียโอกาสที่แพงลิบลิ่วเมื่อเทียบกับพวกไม่เก่งที่ไม่ค่อยมีตัวเลือกให้เลือกได้มากเท่าไหร่นัก

สุดท้ายคนเก่งก็เลยได้แต่นั่งอยู่หน้าคอมฯ และทำงานรับใช้พวกไม่เก่งต่อไป

Source


  • 25
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง