ไอเดีย “โครงการที่อยู่อาศัย” ทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่าแข่งขันกันหลากหลาย แต่ละโจทย์ล้วนหยิบ Insights จากความต้องการของผู้อยู่อาศัยมาเป็นเกณฑ์ ไม่ได้ใส่น้ำหนักแค่เพียงประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง ต้องการจากที่อยู่อาศัยมีมากกว่าแค่เรื่องทำเล หรือความหรูหรา แต่เป็นโจทย์ของการ “ผสมผสาน” ทุกเรื่องเข้าด้วยกัน
เรื่องนี้ ทำให้เราเห็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลาย ๆ แบรนด์ เริ่มทำตลาดด้วยภาพลักษณ์ใหม่ สื่อสารกับลูกค้าด้วยความเข้าใจและรู้จักพวกเขา รวมถึงโจทย์ “THE NEW ICONIC” ของ “อนันดา” ที่พลิกคอนเซปต์มาใช้กลยุทธ์แตกต่างจากโครงการที่ผ่าน ๆ มา เปลี่ยนภาพที่อยู่อาศัยให้ครบครันตั้งแต่ “Location – Building – Facility – Living”
เติมเต็มการใช้ชีวิต ผ่าน “5 โครงการพร้อมอยู่”
โจทย์ที่บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) สื่อสารผ่านคอนเซปต์ THE NEW ICONIC ถูกถ่ายทอดออกมาถึง 5 โครงการพร้อมอยู่ ได้แก่…
ASHTON Asoke – RAMA9 (แอชตัน อโศก – พระราม 9)
IDEO-Q Sukhumvit 36 (ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36)
IDEO-MOBI Sukhumvit Eastpoint (ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์)
IDEO Ratchada – Sutthisarn (ไอดีโอ รัชดา – สุทธิสาร)
ELIO Sathorn – Wutthakat (เอลลิโอ สาทร – วุฒากาศ)
จากการติดตามแนวทางที่อยู่อาศัยของอนันดา โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าซึ่งเป็นทำเลหลักสำหรับคนเมือง พบว่าไอเดียของแบรนด์อนันดาในช่วงหลังจะเน้น “โครงการพร้อมอยู่” กับ “ครอบคลุมทุกกลุ่ม” ซึ่งหมายความว่าอนันดาพยายามชิงโอกาสจากคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทำเลเมืองและคนที่ต้องการลงทุน ด้วยห้องพร้อมอยู่รวมทั้งสิ้น 3,700 – 3,800 ห้อง ที่เพียงแค่เห็นชื่อโครงการก็รู้แล้วว่าทำเลศักยภาพที่หาได้ยาก เรื่องนี้ทำให้ชื่อของอนันดากลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพ
หากพูดกันตามจริง สำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยมือหนึ่ง ไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโดมิเนียมบนทั้ง 5 ทำเลดังกล่าวข้างต้น คงต้องบอกว่าเป็นไปได้ยากแล้ว ดังนั้น การที่อนันดาสามารถสร้างโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลเหล่านั้นได้ ก็ถือเป็นความแตกต่างได้อย่างน่าสนใจ
สะท้อนความเป็น “THE NEW ICONIC” ผ่าน 4 ความโดดเด่น
อย่างที่บอกไปแล้วว่าครั้งนี้อนันดามาพร้อมกับคอนเซปต์ THE NEW ICONIC ซึ่งให้ความสำคัญกับ Location – Building – Facility – Living ที่จับความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ รวมเข้ากับ…ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ รวมถึงความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทำเลติดรถไฟฟ้า ใกล้แหล่งศูนย์การค้าและสำนักงาน ยิ่งรวมความเป็น Iconic เข้ากับ 4 จุดเด่นที่อนันดาใส่ไว้ในแต่ละโครงการ ก็ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นให้มากขึ้น
- Iconic Location
มีหลากหลายโครงการของอนันดาที่ตั้งอยู่บน Prime Location ทำให้มีศักยภาพในการใช้ชีวิตเมืองและด้านมูลค่าจนถือเป็น Blue Chip Location อาทิ ASHTON Asoke – RAMA9 ซึ่งตั้งอยู่บนหัวมุมถนนพระราม 9 ตัดถนนรัชดา ซึ่งเป็น Golden Corner แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ หรือ IDEO-Q Sukhumvit 36 ที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท จึงสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้ครบถ้วน และ IDEO-MOBI Sukhumvit Eastpoint กับทำเล Landmark กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
- Iconic Building
ถูกเติมเต็มด้วยเอกลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบทำให้ตัวอาคารเปรียบได้กับ Sculpture และเป็นหนึ่งใน Skyline ของเมืองที่สวยงาม สะท้อนตัวตน และสร้างความภูมิใจให้กับผู้อยู่อาศัย โดยมีการออกแบบตึกคู่ภายใต้แนวคิด Alpha & Omega ในโครงการ ASHTON Asoke – RAMA9 และมี Sky Bridge เชื่อมต่ออาคารที่โครงการ IDEO-Q Sukhumvit 36 โครงการเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงคอนโดมิเนียมที่สวยงาม หากแต่กลายเป็นไอคอนของกรุงเทพฯ ไปด้วย
- Iconic Facility
จัดเต็มด้วยส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในแต่ละโครงการ ทำให้สามารถใช้ชีวิตภายในโครงการได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการ ELIO Sathorn – Wutthakat ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางดีที่สุดในย่านสาทร – วุฒากาศ
- Iconic Living
ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมืองแบบครบทุกโหมด เต็มที่ได้ตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ไม่เคยหลับใหล ฟิตเนสพร้อมให้บริการ 24 ชม. หรือรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ New Normal ให้ผู้อยู่อาศัยไร้กังวลจาก COVID-19 ด้วยระบบ Touchless เพื่อเข้าพื้นที่อาคาร รวมถึงการใช้พื้นที่ส่วนกลางซึ่งถูกออกแบบให้มีระยะห่าง พร้อมด้วยมาตรการรองรับมาตรฐานสุขอนามัยต่าง ๆ เป็นต้น
สุดยอดทำเล “ASHTON Asoke – RAMA9” กับการมีดี มากกว่าเดิม!
ไม่ใช่แค่ความโดดเด่นเรื่องทำเล แต่โครงการ ASHTON Asoke – RAMA9 ถูกจัดว่ามีความโดดเด่นอย่างน่าจับตา ตั้งแต่งานออกแบบอาคาร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ตึก คือ “Alpha และ Omega” ซึ่งตัวอาคารมีความสวยงาม แปลกตากว่าโครงการอื่น ทั้งยังมีการจัดวาง Layout ห้องหลากหลายนับร้อยแบบ! มากกว่าโครงการทั่วไปที่มีพึยง 3-4 แบบ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างลงตัวตามแบบที่ต้องการ
รวมถึงการจัดวาง Facility ต่าง ๆ เพื่อทำให้ที่อยู่อาศัยกลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขและการพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะแต่ละตึกมีการจัดวางพื้นที่สลับกัน โดยตั้งอยู่ในชั้นที่ 40 – 41 – 42 โดยผู้อยู่อาศัยในโครงการสามารถเข้าใช้บริการได้ทุกห้อง ทั้ง 2 ตึก อาทิ ห้องดูภาพยนตร์, ฟิตเนส, ห้องทำงานและครัวที่ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกันได้อย่างลงตัว หรือห้องเกมและออกกำลังกายที่มี Bike Simulation พร้อมให้บริการ เป็นต้น ซึ่งยังไม่รวมถึงพื้นที่ภายนอกอย่างสระว่ายน้ำ และมุมชมวิว ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าที่คิด ทั้งพักผ่อน ชมวิว ถ่ายภาพสวย ๆ ก็ทำได้อย่างลงตัวจนน่าอิจฉา
ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมถึงการออกแบบที่ทำให้ภาพของ ASHTON Asoke – RAMA9 ไม่ใช่เพียงคอนโดมิเนียมสุดหรูที่มีรูปทรงโดดเด่นสวยงาม แต่เป็นการใส่ใจและใส่รายละเอียดที่ลงลึกถึงกลิ่นอาย บรรยากาศ และการสร้างความรู้สึกที่อบอุ่น หรูหรา แต่สะดวกสบาย เหมาะแก่การใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีความสุขตามแบบที่ผู้คนใฝ่ฝัน
นอกจากนี้ อนันดายังใส่ใจมากกว่าเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะในช่วงที่ทั่วโลกยังคงต้องเผชิญกับวิกฤตเช่นนี้ แบรนด์จึงทำแคมเปญน่ารัก ๆ #KeepSmiling เปลี่ยนวันใหม่ที่ตัวเราพร้อมมอบรอยยิ้มให้ตัวเองในทุกเช้า เพื่อปลุกความสุขของคนไทยด้วยการส่งต่อรอยยิ้มจากตนเองไปยังคนรอบข้าง ถือเป็นการส่งต่อความสุขด้วยรอยยิ้ม ทำให้บ้านเมืองของเรากลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง
รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม : https://www.ananda.co.th/7unpack
#Ananda #TheNewIconic #AnandaDevelopment #KeepSmiling
