กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าให้ติดตามกันมาช่วงหนึ่งแล้ว (โดยเฉพาะผู้ใช้ iPhone)…เริ่มตั้งแต่มีข่าวแฉว่า แบรนด์ดังอย่าง Apple มีการปรับ CPU ของ iPhone รุ่นเก่าที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพทำงานช้าลง และทาง Apple ได้ออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง พร้อมให้เหตุผลว่าที่มีการตั้งค่าเช่นนั้นก็เพื่อรักษาประสิทธิภาพแบตเตอรี่และยืดอายุการใช้งาน แต่ก็ทำให้ถูกกลุ่มผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาออกมาฟ้องร้องถึงกรณีดังกล่าว จนในที่สุด Apple ได้ออกมาจัดโครงการเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคาพิเศษ ให้ผู้ใช้ iPhone ที่หมดประกัน โดยเฉพาะ iPhone 6 รวมถึงรุ่นที่ใหม่กว่าแต่ต้องการเปลี่ยนแบตฯ
เรื่องนี้จะเรียกว่าจบ…ก็คงไม่ถูก! เพราะโครงการเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคาพิเศษจาก Apple เพิ่งจะเริ่มต้นและลากยาวไปจนถึงเดือนธันวาคม แถมบรรดาสื่อต่างประเทศยังพากันวิเคราะห์ว่า ปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย iPhone ในปีนี้อย่างแน่นอน
จากการเปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บ iclarified ได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์ดังกล่าวอีกว่า แม้ Apple จะออกมาแก้สถานการณ์ด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคาพิเศษให้ผู้ใช้ iPhone ทั่วโลก ซึ่งเสมือนเป็นการซื้อใจลูกค้า แต่การตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่แทนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องรุ่นใหม่แทนก็คือความเสี่ยงของ Apple เพราะอาจกระทบกระเทือนถึงยอดขาย iPhone ในปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจหายไปไม่ต่ำกว่า 16 ล้านเครื่องเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังระบุว่า จำนวนผู้ใช้ iPhone ที่มีสิทธิ์เปลี่ยนแบตเตอรี่ในโครงการดังกล่าวอาจมีถึง 77% ของจำนวนผู้ใช้ iPhone ทั้งหมด นอกจากนี้ ราวๆ 10% ของผู้ใช้งานทั้งหมด (มีข้อมูลคาดการณ์ว่ามีอยู่ราวๆ 519 ล้านราย) ก็มีโอกาสตอบรับโครงการเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคาพิเศษ ขณะเดียวกันก็หมายความว่า ผู้ใช้ iPhone กว่า 30% อาจชะลอการตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ออกไปอีกด้วย
เอาเป็นว่า ตั้งแต่เกิดประเด็นการแฉเรื่องดังกล่าวจนกระทั่งตอนนี้…ก็ยังไม่มีช่วงเวลาไหนที่ทำให้ Apple เกิดความได้เปรียบ หรือสร้างโอกาสงามๆ ให้แบรนด์ได้เลย แถมยังดูเหมือนจะกลายเป็นมรสุมลูกใหญ่ให้ Apple รวมถึงแบรนด์มือถือรายอื่นๆ ให้ต้องจดจำอีกด้วย
แล้วคุณที่ถือ iPhone อยู่ในมือล่ะ…จะเปลี่ยนแบต หรือรอเปลี่ยนเครื่องใหม่?
ที่มา : iclarified