K-Bank ชี้ 4 ธุรกิจดาวรุ่งปี 2017 และ 5 ปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจไทย

  • 559
  •  
  •  
  •  
  •  

การลงทุนธุรกิจใดก็ตาม นอกจากจะต้องดูปัจจัยภายในอย่างงบประมาณการลงทุน ทรัพยากร กลยุทธ์การดำเนินงานความรู้ความสามารถของคนในองค์กรแล้ว ยังต้องดูปัจจัยภายนอกเพื่อมองเห็นโอกาสในการลงทุน และภัยที่กิจการของเราตั้งรับมือไว้โดยเฉพาะในปี 2017 ที่แม้เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัว แต่เศรษฐกิจแกนหลักของโลกยังเสี่ยงต่อการฟื้นตัว และการใช้จ่ายของภาคเอกชนอาจยังฟื้นตัวในกรอบจำกัด

และอะไรคือธุรกิจที่ไปได้สวยในปีหน้าล่ะ? นี่คือ 4 ธุรกิจดาวรุ่งปี 2017 ที่ธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาทำนายไว้

kb

1. ธุรกิจยานยนต์

โครงการรถคันแรกที่ทยอยสิ้นสุดลง น่าจะเป็นผลดีต่อยอดขายยานยนต์ในประเทศ ในขณะที่ ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนมีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะไปตลาดอาเซียนและออสเตรเลีย

2. ธุรกิจบริการสุขภาพ

ได้รับอานิสงส์จากกลุ่มลูกค้า Medical Tourism ซึ่งไทยได้เปรียบหลายประเทศในภูมิภาค รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

3. ธุรกิจท่องเที่ยว

แม้ตลาดต่างชาติเที่ยวไทยอาจได้รับผลกระทบจาก BREXIT ผ่านความผันผวนของค่าเงิน และจากมาตรการดูแลคุณภาพทัวร์จีน แต่บางตลาดคงมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นเช่น รัสเซีย และสแกนดิเนเวีย

4. ธุรกิจก่อสร้าง

ซึ่งได้รับผลบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อยๆฟื้นตัว เสริมด้วยการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน

 

ส่วนธุรกิจดังกล่าวจะไปได้สวยในปีหน้าหรือไม่ ก็ต้องดูปัจจับภายนอกด้วย ซึ่งนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารกสิกรไทยคาดการณ์ 5 ปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจและเศรษฐกิจไทยไว้ดังนี้

img_1622

1. เศรษฐกิจไทยปี 2560 อาจขยายตัวใกล้เคียงกับปี 2016 ตามแรงลงทุนจากภาครัฐ

GDP โต 3.3% คาดการณ์การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ 20 โครงการของรัฐที่คาดว่าจะขยายตัว 8.5% ที่อยู่ในระหว่างวางแผนและดำเนินการก่อสร้างเช่นมอเตอร์เวย์ บางใหญ่ – กาญจนบุรี และบางประอิน – นครราชสีมา รถไฟฟ้าสารสีชมพู เหลือง ส้ม แดง ม่วงใหม่และน้ำเงินใหม่ เป็นต้น

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 2.8% การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวประมาน 0.8%

 

2. เศรษฐกิจแกนหลักของโลกยังเสี่ยงต่อการฟื้นตัว

เริ่มจากอังกฤษที่เริ่มกังวลต่อความเสี่ยงจาก Hard BREXIT และยุโรปมีพื้นฐานเศรษฐกิจและภาคการเงินการธนาคารที่เปราะบาง ความไม่แน่นอนทางการเมืองจำกัดการฟื้นตัว ทำให้ ECB ต้องผ่อนคลายต่อเนื่อง ในขณะที่เศรษฐกิจของอเมริกาปีหน้าอาจได้แรงกระตุ้นจากมาตรการทางการคลังของประธานาธิบดีคนใหม่ นโยบายด้านการอพยบคนต่างด้าวอาจมีนัยถึงการปรับท่าทีของคู่ค้าของอเมริกา ซึ่งอาจการทบการลงทุนการส่งออกของไทย ทบทวนข้อตกลงทางการค้าเพื่อสนับสนุนปกป้องการค้า และแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ FED เพี่อให้เศรษฐกิจเสถียร

เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องในระยะกลาง พร้อมมีประเด็นที่ต้องจับตาอย่างหนี้ และฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ เศรษฐกิจเอเชียโดยรวมยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ และต้องระวังความความผันผวนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย

ส่วนไทยยังต้องพึ่งพาแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐและการท่องเที่ยว

 

3. FED อาจขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้และอีก 1-2 ครั้งในปีหน้า

แต่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังคงทรงตัวอยู่ เพื่อรอเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหากเงินเฟ้อไทยไม่เร่งขึ้นมาก แต่ประเด็นที่น่าติดตามคือกระแสเงินทุนไหลกลับของอเมริกา ราคาทรัพย์สินปรับฐาน ต้นทุนการเงินขยับขึ้น และเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า

 

4. การใช้จ่ายของภาคเอกชน อาจยังฟื้นตัวในกรอบจำกัด

รายได้เกษตรกรยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากราคาสินค้ายังมีแรงกดดัน และหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง คงจำกัดกำลังซื้อของภาคครัวเรือน คิดเป็น 81 – 82% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)  ทำให้การใช้จ่ายของภาคเอกชนอาจยังฟื้นตัวในกรอบจำกัด คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนปีหน้าจะโต 2.2%

 

5. การท่องเที่ยว ยังประคองการเติบโตได้ค่อนข้างดี

ตัวเลขจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังเติบโตได้ที่ 4.8% ซึ่งค่อนข้างดี แม้จะชะลอตัวจากฐานที่สูงในปี 2559

 

kbank1

kbank2

kbank3

การที่ผู้ประกอบการได้รู้ถึงปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจและเศรษฐกิจไทย ย่อมทำให้กิจการได้วางแผนและรับมือได้ล่วงหน้าได้ ทำให้กิจการอยู่รอดและไปได้ดีแน่นอน

 

แหล่งที่มา

แถลงข่าวแผนธุรกิจธนาคารกสิกรไทยปี 2560 เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559


  • 559
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th