ในตลาดร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant: QSR) ในประเทศไทยมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท เซ็กเมนต์ใหญ่สุดคือ “ไก่” มูลค่าตลาดกว่า 20,000 ล้านบาท เชนที่มี “สาขา” มากที่สุดในไทย และถือว่ามากที่สุดในธุรกิจร้านอาหาร ประเทศไทย คือ “KFC” (เคเอฟซี) ของ “ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย” (YUM Restaurant International) ล่าสุดเปิดครบ 1,000 สาขาในไทย ติด Top 10 ของ KFC ทั่วโลกที่มีสาขามากสุดจากจำนวนสาขาทั้งหมดทั่วโลก 28,000 สาขา (อันดับ 1 คือ จีน มีสาขา KFC มากที่สุดในโลก ตามมาด้วย, ญี่ปุ่น, แอฟริกาใต้, อังกฤษ, สหรัฐฯ) โดยในไทยให้สิทธิ์แฟรนไชส์กับ 3 พันนธมิตรธุรกิจในไทยคือ
– Central Restaurants Group (CRG) ในเครือเซ็นทรัล: 320 สาขา
– Restaurant Development (RD): 250 สาขา
– Food of Asia (FOA) ในเครือไทยเบฟ: 430 สาขา
หาคำตอบทำไม “KFC” ต้องรุกขยายสาขา ด้วยกลยุทธ์ “Multi Store Format” ?
กลยุทธ์การขยายสาขาของ “KFC” จะสร้าง “Multi Store Format” คือ พัฒนารูปแบบสาขาหลากหลาย เพื่อนำแต่ละโมเดลไปเปิดให้เหมาะกับโลเคชั่น พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในโซนนั้นๆ ซึ่งปัจจุบัน 1,000 สาขา มีทั้งร้านขนาดใหญ่เปิดในศูนย์การค้า, Flagship Store – ขนาดกลางเปิดตามสถานีบริการน้ำมัน และ Community Mall และขนาดเล็ก เช่น รูปแบบอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถว เจาะเข้าไปตามย่านชุมชน และทำเลที่มีผู้บริโภคหนาแน่น เช่น มหาวิทยาลัย เพื่อขยายครอบคลุมในโลเคชั่นต่างๆ เช่น
– โมเดลสาขาในศูนย์การค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต
– โมเดล Shop House นำอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถวที่อยู่ในย่านชุมชน มาปรับเปลี่ยนเป็นร้าน KFC
– โมเดลสาขาในสถานีบริการน้ำมัน
– โมเดล Drive-thru
– โมเดล Park and Go
– โมเดล Flagship Store
ล่าสุด “Central Restaurants Group” (CRG) เปิดตัวสาขา “KFC Green Store” ที่โรบินสัน ราชพฤกษ์ ภายใต้แนวคิด “Journey to zero” สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการออกแบบร้านในคอนเซ็ปต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นไปในด้านการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งตัวอาคารออกแบบในสไตล์นอร์ดิกให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ประกอบกับโครงสร้างร้าน และวัสดุในกระบวนการก่อสร้างที่ส่งเสริมแนวคิดเพื่อความยั่งยืน ด้วยกระจกประหยัดพลังงานในระดับสูงสุด ที่ป้องกันความร้อนผ่านกระจกในขณะที่ให้แสงส่องผ่านได้มาก
พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในด้านการประหยัดพลังงาน, การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล รวมถึงชุดพนักงานที่ตัดเย็บด้วยผ้าจากเส้นใยขวดพลาสติก ตลอดจนการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ขณะที่การตกแต่งภายในร้าน มีมุม Education & Sharing zone และยังทำแคมเปญ “ปรับไลฟ์ ช่วยโลก กับเคเอฟซี” เป็นการกระตุ้นเพื่อปรับพฤติกรรมการลดใช้พลาสติกของลูกค้า ช่วยลดปัญหาขยะ และดำเนินการคัดแยกขยะที่หน้าร้าน
นอกจากนี้ “YUM Restaurant” และพาร์ทเนอร์แฟรนไชส์ซี กำลังอยู่ระหว่างศึกษาโมเดล “Kiosk” เพื่อนำไปเปิดในพื้นที่มีทราฟิกสูง และมีพื้นที่จำกัด เช่น BTS, MRT
จะเห็นได้ว่า “KFC” ให้ความสำคัญกับการขยายสาขาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจ โดยทั้ง 3 พาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะเป็น CRG, RD และ Food of Asia จะเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ในโลเคชั่นที่มีศักยภาพ พร้อมกับพัฒนาโมเดลใหม่ เพื่อเป็น “Multi Store Format”
ทำไม “สาขา” ถึงเป็นกลยุทธ์หลักของ KFC ?
1. ในธุรกิจ QSR การมี “สาขา” จำนวนมากในแต่ละทำเล จะเป็น network สำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้ครอบคลุม และยิ่งมีสาขามาก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
2. การขยายสาขา ด้วยแนวคิด “Multi Store Format” ทำให้การเปิดสาขามีความคล่องตัว และยืดหยุ่นมากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละเซ็กเมนต์ และการมีโมเดลที่หลากหลาย ทำให้สามารถนำไปปรับให้เข้ากับทำเลต่างๆ ได้อย่างลงตัว และเหมาะสมกับขนาดพื้นที่
3. “สาขา” เป็น network ที่ทำให้ KFC สามารถให้บริการรูปแบบ “Omni-channel” ไม่ว่าลูกค้าจะมารับประทานที่ร้าน, ใช้บริการ Delivery หรือใช้บริการรูปแบบ Takeaway ก็ตาม ทั้งช่องทาง Physical Store และ Online Platform เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
4. สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะโมเดลใหม่ที่แตกต่างไปจากเคยมีมา ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทันสมัยขึ้น เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เช่น รูปแบบ KFC Green Store นับเป็นการปรับตัวเพื่อให้ตอบรับแนวโน้ม sustainability ที่ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น จนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยการพิจารณาเลือกซื้อ หรือเลือกใช้บริการสินค้า หรือแบรนด์
อีกทั้งโมเดลใหม่ ยังช่วยให้ KFC ได้ศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาสาขา สินค้าและบริการใหม่ๆ ต่อไป
“KFC อยู่กับประเทศไทยมา 38 ปี เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในไทยที่มีสาขาครบ 1,000 สาขา การเปิดครบ 1,000 สาขา เป็น milestone สำคัญสำหรับเรา ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจาก 1. สินค้าและบริการ ซึ่งกว่าจะได้ไก่ 1 ชั้น ต้องผ่านขั้นตอนกว่า 200 สเต็ป 2. พาร์ทเนอร์ เราทำงานใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ และ 3. พนักงาน 20,000 คน เป็นหัวใจหลักของธุรกิจของเรา เป็นจุดที่ทำให้แบรนด์เราประสบความสำเร็จในไทย” คุณเศกชัย ชูหมื่นไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เล่าถึงความสำเร็จของ KFC
ปี 2022 โต 24% – ตั้งเป้าปี 2023 ขยายเพิ่มอีกกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ
ผลการดำเนินงานของ “KFC ประเทศไทย” ในปี 2022 ทั้ง 3 พาร์ทเนอร์แฟรนไชส์ซีได้เปิดสาขาใหม่รวมกันแล้วเพิ่มกว่า 80 สาขา โดยประมาณการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ธุรกิจเติบโต 24% ขณะที่เป้าหมายปี 2023 ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ
ส่วนเมนูหลักยอดนิยมตลอดกาล แน่นอนว่ายังคงเป็น “ไก่กรอบ” โดยความถี่ในการมาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าประจำ เฉลี่ยอยู่ที่ 1 ครั้งต่อเดือน และถ้าเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป ใช้บริการ 1 ครั้งต่อ 3 – 6 เดือน
“การฉลองความสำเร็จ 1,000 สาขาอาจจะน้อยไป KFC ไม่ได้หยุดแค่การเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่ต้องก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่ “อาหาร” เท่านั้น หากแต่ยังให้ความสำคัญกับ “ผู้คน” อีกด้วย จากวิกฤต COVID-19 เราพบว่าพนักงาน คือ คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด KFC จึงเปิดโอกาสให้กับทุกโอกาสที่เป็นไปได้ ลงทุนกับศักยภาพผ่านเหล่าพนักงานทั่วประเทศ โดยมอบทุนการศึกษาทั้งหมด 1,000 ทุน ให้แก่พนักงานทั่วประเทศ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เพื่อติดอาวุธให้พนักงานได้เติบโตอย่างเข้มแข็งในอนาคต
ทั้งนี้ 1,000 โอกาสในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคต KFC จะมีโครงการเพื่อการพัฒนาศักยภาพของ “ผู้คน” อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2023 นี้” คุณเศกชัย สรุปทิ้งท้าย
