เปิดมิติใหม่การลงทุน Kubix จุดประกาย DESTINY TOKEN ผ่านภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” กระหึ่มอีกครั้ง ลงทุน 2 ปีรับผลตอบแทน 2.99% ต่อปี พร้อมสิทธิ์รับเงินต้นคืน และสิทธิพิเศษเพียบ

  • 3.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาในตลาดหุ้นปรับตัวลดลง โดยดัชนี ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.7% ขณะที่ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ก็ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน เนื่องจากราคาร่วงระนาวหนักสุดจนเกือบติดพื้น โดยเฉพาะเหรียญ LUNA ซึ่งเป็นเหรียญที่ติด 10 อันดับคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ราคาร่วงลงมาถึง 99.95% ภายในหนึ่งสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า คริปโตเคอเรนซี่ เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่จับต้องไม่ได้ มีความผันผวนสูง ราคาสามารถขึ้นและลงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นักลงทุนเกิดความอ่อนไหวสั่นคลอนต่อราคาที่ปรับลดลงมาได้ ล่าสุด บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix) เป็นบริษัทในกลุ่มกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) และธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดปรากฎการณ์ของการลงทุนในรูปแบบใหม่ที่ถือว่า เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของวงการการลงทุน ภายใต้ความคาดหวังที่จะเปลี่ยนให้การลงทุนสนุกมากขึ้น ตามคอนเสป Invest Earn Experience

เป็นครั้งแรกที่นักลงทุนจะได้สิทธิ์เข้าร่วมลงทุนกับโครงการที่เป็นภาพยนตร์เรื่อง บุพเพสันนิวาส ๒ โดย Kubix ออกแบบดีไซน์การลงทุนในลักษณะคล้ายหุ้นกู้ที่นักลงทุนยังคงได้รับสิทธิ์ในการรับคืนเงินต้น เป็นการรักษาเงินต้นอยู่คงที่ไว้ได้เช่นเดิมไม่หายไปไหน และเมื่ออยู่จนครบโครงการ หรือระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี จะได้ผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 2.99 ต่อปี นอกจากนี้หากภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ ทำรายได้เกินทะลุ 1,000 ล้านบาท นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเข้าไปอีกเป็นร้อยละ 5

 

 

สำหรับ DESTINY TOKEN เป็นดิจิทัลโทเคนเพื่อการลงทุน ซึ่งมีความแตกต่างกับการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่อย่างสิ้นเชิง เพราะ DESTINY TOKEN เป็นการลงทุนในรูปแบบใหม่ที่ Kubix ออกแบบมาให้ไม่มีตลาดรองทำให้ไม่มีความผันผวนในเรื่องของราคาระหว่างที่ถือครอง ดังนั้นความเสี่ยงจึงค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคริปโตเคอเรนซี่ และเป็นสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้เนื่องจากมีโครงการอ้างอิงชัดเจน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นการออกแบบในสิ่งที่นักลงทุนมีความรัก มีความชื่นชอบ จึงทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างง่ายได้ จึงกลายมาเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนภาพยนตร์ไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการได้ร่วมลงทุนในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ทำให้การลงทุนไม่ใช่มีแค่ในรูปแบบเดิม ๆ อีกต่อไป เพราะเป็นรูปแบบในดิจิทัลโทเคน เป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่นำเทคโนโลยี ไฟแนนเชียล และไลฟ์สไตล์มาปรับใช้เข้าด้วยกัน

DESTINY TOKEN ได้ผ่านการอนุมัติจากทาง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว กับการให้บริการ ICO Portal โดยร่วมกับ บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด (Special Destiny) ซึ่งถือหุ้นโดยบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด (GDH) และบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด (BTV) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Filing) เพื่อเตรียมเสนอขาย “DESTINY TOKEN” ในตลาดแรก (Initial Coin Offering: ICO) นักลงทุนจึงมั่นใจได้ที่จะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้ โดย ก.ล.ต. มีการกำหนดนิยามของสินทรัพย์ดิจิทัล แบ่งหลัก ๆ ออก เป็น 2 ประเภท อย่างแรกคือ คริปโทเคอร์เรนซี่  และ 2 คือ ดิจิทัลโทเคน โดยคริปโทเคอร์เรนซี่อย่างที่เรารู้จักกันดีอย่าง บิทคอยน์ อีเทอร์เรียม เป็นต้น มีความผันผวนในเรื่องของราคา มีความเสี่ยงในการลงทุน ขณะที่ DESTINY TOKEN เป็นดิจิทัลโทเคนที่เป็น Investment Token หรือ โทเคนเพื่อการลงทุน และยังเป็น Utility Token เป็นโทเคนเพื่อสิทธิประโยชน์ในการใช้จ่าย สินค้าและบริการต่าง ๆ ที่นักลงทุนสามารถนำไปใช้งานได้จริง หลังจากได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ Kubix ได้เดินหน้าก้าวแรกของ

สิทธิประโยชน์หรือผลตอบแทนต่าง ๆ ของ DESTINY TOKEN ภาพยนตร์เรื่อง บุพเพสันนิวาส ๒ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ประเภท ซึ่งมีมูลค่าที่แตกต่างกันออกไป เพราะ Kubix ต้องการดีไซด์ให้เหมาะกับกลุ่มนักลงทุนของเหรียญแต่ละประเภท คือ

  1. I am Glad Token มีจำนวน 15,559 โทเคน  มูลค่าที่เสนอขายอยู่ที่ 5,559 บาท
  2. I am Delighted Token จำนวน459 โทเคน ราคา 155,559 บาท
  3. I am Happy Token ราคา1,555,559 บาท มีเพียงแค่ 69 โทเคน

โดยคอนเซ็ปของ I am Glad Token มีจำนวน  15,559 โทเคน  มูลค่าที่เสนอขายอยู่ที่ 5,559 บาท ซึ่งสิทธิพิเศษที่นักลงทุนจะได้รับเป็นเสื้อทีเชิตดีไซด์พิเศษที่รูปลักษณ์ของตัวเสื้อเชิ้ตเป็นลายน้ำที่เป็นเรื่องราวที่ล้อไปกับตัวของภาพยนตร์ รวมถึงโปสการ์ด บัตรเข้าชมภาพยนต์ ซึ่งตรงนี้ความพิเศษคือ ไม่ใช่บัตรภาพยนต์ธรรมดาแต่เป็นภาพยนต์รอบพิเศษ เพราะว่าภาพยนต์บุพเพสันนิวาส ๒ จะเข้าฉายจริงในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 โดยรวมแล้วต้องบอกว่าโทเคนนี้ราคาไม่แพง แต่สิทธิพิเศษเพียบ คุ้มทั้งกับแฟนคลับที่อยากสะสมของสุด exclusive พร้อมดูภาพยนตร์ก่อนใคร และกลุ่มนักลงทุนทั่วไป ที่สามารถถือโอกาสพักไปดูภาพยนตร์พร้อมกับกลุ่มเพื่อน (ในกรณีจองหลายโทเคน) และยังได้รับผลตอบแทนพร้อมเงินต้นเมื่อจบโครงการ

 

 

ส่วน  I am Delighted Token มีจำนวน 459 โทเคน ดีไซด์เป็นเหรียญที่มีมูลค่า 155,559 บาท นี้สิทธิพิเศษของนักลงทุนเหรียญนี้จะได้รับบัตรเข้าชมภาพยนตร์เรื่อง บุพเพสันนิวาส ๒ รอบพิเศษ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 คล้ายกับเหรียญ I am Glad Token แต่ความพิเศษเพิ่มขึ้นคือ จะได้เข้าไปชมที่โรงภาพยนตร์เซ็นทรัลเวิลด์ และได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมรับชมภาพยนตร์ร่วมกับทีมงานผู้กำกับนักแสดง จำนวน 2 ที่นั่ง รวมถึงจะได้เสื้อที่เป็นคอเลคชั่นที่ออกแบบพิเศษ พร้อมกับแสตมป์คอลเลคชั่น

พิเศษไปกว่า คือ ผู้ที่เข้ามาลงทุนใน I am Delighted Token จะได้สิทธิที่จะได้ปรากฎชื่อของผู้ลงทุนอยู่ท้ายตอนภาพยนตร์จบเป็น End Credits ว่าเป็น Special Destiny Executive Producer ในเรื่องนี้ ถือว่าเก็บเป็นที่ระลึกได้ ว่าครั้งหนึ่งเราได้มีส่วนร่วมในการทำให้ภาพยนตร์ไทยที่เป็นธีมไทย และได้สนับสนุนทำให้ประสบความสำเร็จ และได้ดิจิทัลโปรเตอร์ซึ่งเป็นโปรเตอร์ของหนัง ความพิเศษก็คือ มีการสลักชื่อของผู้ที่ถือโทเคนในไฟล์ดิจิทัลนี้ด้วย ทางนักลงทุนสามารถที่จะโหลดไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีบัตรชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ จำนวน 2 ที่นั่ง บัตรส่วนลดจำนวน 100 บาท 10 สิทธิ์ และบัตรลดป็อบคอร์นส่วนลดอีก 40 บาท จำนวน 10 สิทธิ์

 

 

และสุดท้าย I am Happy Token มีมูลค่าเหรียญละ 1,555,559 บาท มีเพียงแค่ 69 โทเคนเท่านั้น เหรียญนี้สิทธิพิเศษมีความแตกต่างจาก 2 เหรียญแรกคือ จะได้เข้าไปร่วมเลี้ยงรับประทานอาหารกลางวันพร้อมผู้กำกับและนักแสดง ซึ่งเป็นรอบเวิลด์พรีเมียร์ ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 หลังจากที่ได้ร่วมรับประทานอาหารเสร็จก็ได้ร่วมเข้าชมภาพยนตร์จำนวน 2 ที่นั่ง  แล้วของที่ระลึกอื่น ๆ เป็นแสตมป์คอลเลคชั่นที่เพิ่มขึ้นจาก I am Delighted Token พร้อมทั้งได้รับโถเซรามิกที่เป็นลายน้ำดอกไม้ไทย และจะได้สิทธิ์ปรากฎชื่อของผู้ลงทุนอยู่ท้ายตอนภาพยนตร์จบ เป็น End Credits ว่าเป็น Special Destiny Executive Producer เหมือนกัน และได้ดิจิทัลโปรเตอร์ของหนังเรื่องนี้โดยจะสลักชื่อของผู้ที่ถือโทเคนในไฟล์ดิจิทัลนี้ด้วย ทางนักลงทุนก็สามารถที่จะโหลดไว้เป็นที่ระลึก และสามารถที่นำมาดิสเพลอวดเป็นของที่ระลึกในรูปแบบของดิจิทัลได้ นอกจากนี้ก็ยังจะมีบัตรชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ส่วนลดจำนวน 100 บาท และบัตรลดป็อบคอร์นส่วนลดอีก 40 บาท ซึ่งความพิเศษตรงนี้จะได้สิทธิ์ตามโทเคนที่เพิ่มขึ้นมา

 

 

อย่างไรก็ตาม สิทธิ์ที่นักลงทุนจะได้รับเป็นสิทธิ์ต่อหนึ่งโทเคน สำหรับผู้ที่ซื้อแต่เหรียญมากกว่าหนึ่งโทเคนก็จะได้รับสิทธิ์คูณเข้าไป ยกเว้นกรณีที่มีการปรากฎชื่อก็อาจจะสงวนสิทธิ์ไม่ว่านักลงทุนซื้อกี่เหรียญก็จะขึ้นชื่อให้ชื่อเดียว ขณะที่ข้อกำหนดของการซื้อ DESTINY TOKEN กรณีที่เป็นนักลงทุนทั่วไป มีเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. สามารถซื้อได้ไม่เกิน 300,000 บาท ต่อโครงการ เพราะฉะนั้นถ้านักลงทุนซื้อเหรียญ  I am Delighted Token ก็จะซื้อได้แค่ 1 เหรียญ แต่สามารถซื้อ I am Delighted Token บวกกับ I am Glad Token ได้อีกประมาณ 25 เหรียญ จะทำให้มูลค่ารวมไม่เกิน 300,000 บาท หรือหากนักลงทุนซื้อ I am Glad Token ก็สามารถซื้อได้ในจำนวนไม่เกิน 300,000 บาทเช่นกัน  ส่วนเหรียญ I am Happy Token  มีเกณฑ์อยู่ว่า จะต้องเป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นไฮเน็กเวิร์คที่สามารถซื้อเหรียญได้ตามเกณฑ์สำนักงาน ก.ล.ต. เท่านั้น

นักลงทุนสามารถซื้อ DESTINY TOKEN ผ่านแอปพลิเคชัน Kubix พร้อมกันในวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ตามขั้นตอนการลงทะเบียนสร้างบัญชีบนแอปพลิเคชัน Kubix  ด้วย 4 ขั้นตอนง่าย ๆ -> ตรงนี้ขอปรับข้อความเป็นตามภาพ aw นี้แทน

  • ดาวน์โหลดแอปฯ Kubix ผ่าน App Store หรือ Play Store
  • เปิดบัญชี Kubix
  • ผูกบัญชี K PLUS หรือธนาคารที่คุณใช้งาน เพื่อรอรับผลตอบแทน
  • เปิด Kubix Wallet ที่จะคอยเก็บโทเคนดิจิทัลของคุณ
  • ทำแบบทดสอบความรู้นักลงทุน (Knowledge Test)
  • จองซื้อ DESTINY TOKEN!

 

 

คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix) เป็นบริษัทในกลุ่มกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) และธนาคารกสิกรไทย โดยธนาคารกสิกรไทยถึอหุ้นในสัดส่วน 100% ผ่านบริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัด ที่เป็นบริษัทในเครือของ KBTG

โดย Kubix ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านระบบบล็อกเชน หรือ ICO Portalซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนสำหรับบริษัทที่มีความต้องการเงินทุนโดยทาง Kubix ซึ่งหลังจากได้สร้างปรากฎการณ์การลงทุนดิจิทัลโทเคนผ่านภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก และเป็นครั้งแรกของการลงทุน ในโทเคนรูปแบบใหม่ ซึ่งหลังจากนี้ อภิญญา เรืองทวีคูณ และญาณวิทย์ รักษ์ศรี  Managing Director แห่ง Kubix ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะนวัตกรรมการลงทุนในรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจและจับต้องได้อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ห้างร้าน เป็นต้น ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Kubix จะมีนโยบายการลงทุนอะไรที่ทำให้นักลงทุนได้ตื่นตาตื่นใจกันอีกบ้าง

 


  • 3.3K
  •  
  •  
  •  
  •