ถอดบทเรียน Sea Academy กับจิ๊กซอว์สำคัญในการสร้างอิมแพคต่อสังคมไทยยุคดิจิทัล ของ Tech Company อย่าง Sea (ประเทศไทย)

  • 3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

นักเรียนการตลาดหลายคนรู้ดีว่าเทคนิคการทำโครงการตอบแทนสังคมหรือ CSR นั้นไม่ได้อยู่ที่แค่การแสดงความรับผิดชอบต่อผู้คนหรือสิ่งแวดล้อมภายนอกองค์กร แต่ยังมีส่วนผสมอีกหลายอย่างที่ทำให้แบรนด์สามารถสะท้อนความจริงใจได้ชัด และที่สำคัญคือต้องสร้าง Social Impact ให้เกิดขึ้นได้จริง หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจของการทำ CSR ยุคนี้คือ Tech Company ซึ่งเป็นเจ้าของ Garena, Shopee และ SeaMoney อย่าง Sea (ประเทศไทย) ที่ทำโครงการ Sea Academy ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางเดือน ก.ค. 2565

จุดเด่นของ Sea Academy คือการเป็นโครงการที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Sea (ประเทศไทย) ในการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ ทั้งในด้านเกมและอีสปอร์ต อีคอมเมิร์ซ และบริการทางด้านการเงิน มาต่อยอดและพัฒนาโครงการถ่ายทอดความรู้และทักษะดิจิทัล (Digital Education) ให้สังคมไทย ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงความรู้ทักษะดิจิทัล (Digital Divide) ผ่านโครงการ Sea Academy ที่จะเป็นศูนย์กลางทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

นอกจากแนวคิด ความน่าสนใจของ Sea Academy ยังอยู่ที่เนื้อหา กลยุทธ์คอนเทนต์บนเว็บไซต์ Sea Academy ถือว่าออกแบบให้หลากหลายและมีประสิทธิภาพแบบไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกถูกยัดเยียด ไม่มีการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์จนเกินไป ขณะเดียวกัน ก็สามารถสร้างความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ และสร้างความน่าเชื่อถือ-ภาพลักษณ์ที่ดีแก่แบรนด์ในเครือ Sea ได้อย่างแยบยล ยิ่งตอกย้ำแนวทางในการทำ CSR ในปัจจุบันว่าไม่ใช่การทำแล้วจบลงในระยะสั้น ๆ แต่เป็นโครงการที่มีการ ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมโยงกับธุรกิจสะท้อนว่าแบรนด์มีความตั้งใจจริงในโครงการนี้

 

อิมแพคแรง พาคนไทยลุยยุคดิจิทัล

 

Sea (ประเทศไทย) เปิดตัวเว็บไซต์ Sea Academy (www.seaacademy.co) ด้วยฐานะแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนทักษะดิจิทัลให้คนไทยเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลแบบยั่งยืน เป้าหมายนี้สอดคล้องกับสโลแกนของ Sea Academy ว่า “Growing digital skills for all” เนื่องจากโครงการนี้มีจุดยืนเรื่องสร้างการเรียนรู้ทักษะดิจิทัลสู่อนาคต ที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของคนแต่ละกลุ่ม และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ผ่านตัวโปรแกรมที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ตามความเชี่ยวชาญใน 3 ธุรกิจหลักคือ เกมมิ่งและอีสปอร์ต, อีคอมเมิร์ซ และดิจิทัลไฟแนนซ์ ซึ่งเนื้อหาทุกส่วนมุ่งกระตุ้นให้ผู้เรียนปรับตัวให้ทันกับโลกปัจจุบัน พัฒนาตัวเองสู่โอกาสใหม่ในอนาคต และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตได้

 

 

เป้าหมายนี้ไม่ได้ใหญ่เกินตัว เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Sea (ประเทศไทย) คือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำที่คนไทยใช้งานแพร่หลาย ได้แก่ การีนา (Garena) ที่ถูกใจคนเล่นเกมนับล้าน หรือช้อปปี้ (Shopee) ที่นักช้อปไทยรู้จักดี และซีมันนี่ (SeaMoney) บริการด้านการเงินออนไลน์ที่กำลังขยายฐานในตลาดไทย

ใครที่สนใจเกมและอีสปอร์ต จะสามารถเลือกรับเนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพในวงการเกมและอีสปอร์ต โดยใน Sea Academy มีการรวบรวมคำแนะนำการเล่นและใช้เกมอย่างสร้างสรรค์ บทเรียนย่อยในส่วนนี้จะประกอบด้วย Garena Academy, Gaming for education หรือการใช้เกมเพื่อการศึกษา และ Game on Safe and Sound ซึ่งเน้นการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย

นอกจากเกม ใครที่สนใจด้านอีคอมเมิร์ซก็สามารถเลือกเรียนรู้การใช้ประโยชน์จาก Shopee ในรูปแบบย่อยง่ายสำหรับมือใหม่ และเทคนิคการใช้เครื่องมือการตลาดบน Shopee อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเนื้อหาในกลุ่มนี้คืออีคอมเมิร์ซสำหรับวัยเกษียณ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะเนื้อหาการส่งเสริมให้วัยเกษียณสามารถซื้อสินค้าได้ตรงใจ แต่ยังครอบคลุมถึงการตอบโจทย์วัยเกษียณที่ต้องการขายสินค้าบน platform ด้วย

 

 

ความน่าสนใจคือบทเรียนในส่วนนี้ไม่เพียงเน้นจุดประกายให้ผู้อยู่ในวัยเกษียณหางานอดิเรกทำ แต่ยังช่วยสร้างภาพจำให้ Shopee เป็นแอปครบวงจรที่สามารถ “ซื้อได้ง่ายขายได้คล่อง” ในอีกด้าน ผู้ประกอบการมือใหม่ก็สามารถเข้ามาหาความรู้เรื่องอีคอมเมิร์ซได้เช่นกัน โดยมีข้อมูลชิงลึกอย่าง “วิธีเปลี่ยนร้านค้าทั่วไปให้เป็นร้านค้าแนะนำ“ ด้วย

ใครที่สนใจเรื่องเงินทอง สามารถเข้าโซนดิจิทัลไฟแนนซ์ ซึ่งเน้นการเรียนรู้พื้นฐานทางการเงินดิจิทัล และการใช้เครื่องมือทางการเงินดิจิทัลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในส่วนนี้เน้นถึงการเงินดิจิทัลที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของทุกคน และการจุดประกายให้ทุกคนเข้าใจความสำคัญของข้อมูล รวมถึงรู้เท่าทันการป้องกันภัยการเงินดิจิทัล

 

 

แม้เนื้อหาทั้งหมดนี้จะอัดแน่นอยู่ใน http://www.seaacademy.co/ แต่ผู้ใช้สามารถเลือกคอนเทนต์ที่ชอบได้ตามความสนใจ ทำให้ไม่เกิดการยัดเยียด นอกจากนี้ เห็นได้ชัดว่า Sea (ประเทศไทย) เข้าใจอินไซต์ในสังคมไทย โดยเฉพาะภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมีแนวโน้มขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะทางด้านนี้ จนนำมาสู่ความสำคัญและจำเป็นในการเพิ่มพูนความรู้และทักษะดิจิทัล เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ Sea (ประเทศไทย) ในการสร้างสรรค์ Sea Academy ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทักษะดิจิทัลหลากหลายด้าน เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

ตอบปัญหาแรงงานไทย

การสำรวจพบว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลในไทยมีมูลค่าแตะ 1 ล้านล้านบาทในปี 2564 ที่ผ่านมา เติบโตจากปีก่อนหน้า 51% ส่งผลให้มูลค่าตลาดดิจิทัลของไทยเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย แต่สถิติปัจจุบันชี้ว่ามีเพียง 54.9% ของแรงงานไทยที่มีองค์ความรู้ด้านทักษะดิจิทัล โดยยังตามหลังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างเช่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย

เมื่อมองที่ตลาดเกม-อีสปอร์ตไทย การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 ทำให้มีการฟันธงว่าตลาดเกมและอีสปอร์ตของประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 33,000 ล้านบาท เติบโตราว 14% จากปี 2563 (ปี 2563 มีมูลค่า 28,900 ล้านบาท) (Source: Newzoo & depa) ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังเติบโตต่อเนื่อง ในปี 2564 อีคอมเมิร์ซไทยมีมูลค่า GMV อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะพุ่งสูงไปถึง 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 14% (Source: e-Conomy SEA 2021 by Google, Temasek and Bain & Company)

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาที่ผู้บริโภคไทยหันมาใช้งาน E-wallet มากขึ้น มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มจำนวนจาก 18.6 ล้านคนในปี 2564 เป็น 41.9 ล้านคนในปี 2568 (Source: The IDC InfoBrief, “How Southeast Asia Buys and Pays: Driving New Business Value for Merchants” sponsored by 2C2P)

สำหรับในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้งานดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 9 ล้านคน แต่ปัญหาคือมีแรงงานไทยจำนวนเกือบครึ่งที่ยังขาดทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพในปัจจุบัน (อ้างอิงจาก World Economic Forum – the Future of Work) โดยประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันทางด้านดิจิทัลเป็นอันดับที่ 38 จาก 64 ประเทศทั่วโลก ผลจากปัจจัยด้านเทคโนโลยี (Technology) ของประเทศไทยมีพัฒนาการที่ดีและได้ลำดับสูงที่สุด แต่ปัจจัยด้านความรู้และทักษะ (Knowledge) รวมถึงปัจจัยด้านความพร้อมในการปรับตัวสู่อนาคต (Future Readiness) เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญในการเร่งพัฒนา

ในเมื่อเทรนด์การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ส่งผลให้ความต้องการแรงงานดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้ที่นำความรู้และทักษะดิจิทัลมาปรับใช้ในชีวิตจริง ก็จะได้เปรียบและปรับตัวได้ทันท่วงที ภาวะนี้เสริมให้โครงการ Sea Academy อยู่ในจุดที่ช่วยให้คนไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้ ทำให้โครงการ Sea Academy เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการผลักดันยุทธศาสตร์ 10 in 10 ของ Sea(ประเทศไทย) ที่มุ่งมั่นสร้าง Digital Talent 10 ล้านคน ใน 10 ปี จนมีการจัดทำกิจกรรมเพื่อการศึกษาและสังคมมากกว่า 100 โครงการแล้ว และปัจจุบัน Sea (ประเทศไทย) ก็สามารถเข้าไปสร้างเสริมทักษะดิจิทัลด้านต่างให้แก่คนไทยได้แล้วราว 4.18 ล้านคน

โครงการเหล่านี้ไม่อาจสำเร็จได้หากขาดคีย์วูแมนอย่าง “มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) ที่กล่าวถึงวาระ Sea (ประเทศไทย) ครบรอบ 10 ปี และการเปิดตัวโครงการ Sea Academy ไว้ว่า Sea Academy จะเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่ช่วยผลักดันและส่งเสริมความรู้และทักษะดิจิทัล และช่วยให้คนไทยพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการเข้าถึงความรู้ทักษะดิจิทัลแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

“ในโอกาสที่ Sea (ประเทศไทย) ครบรอบ 10 ปี เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมไทย และต่อยอดโครงการพัฒนา Human Capital Development ที่มาจากความเชี่ยวชาญทางธุรกิจของ Sea (ประเทศไทย) อย่างยั่งยืน โดย Sea Academy จะเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่ช่วยผลักดันและส่งเสริมความรู้และทักษะดิจิทัล (Digital Education) และช่วยให้คนไทยเข้าถึงความรู้ทักษะดิจิทัล และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างความสะดวกสบาย รายได้ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลไปด้วยกัน”

 

 

ในอนาคต เว็บไซต์ Sea Academy มีแผนจะเพิ่มเนื้อหาใหม่ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดทำสื่อเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Digital Finance ให้บุคคลทั่วไปรู้เท่าทันเทคโนโลยีการใช้เงินที่จำเป็นและสามารถใช้เครื่องมือทางการเงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ยังจะร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรทางด้านต่างๆ เพื่อช่วยส่งต่อความรู้และทักษะดิจิทัลให้สังคมไทยต่อไป

ที่สุดแล้ว เคล็ดไม่ลับเรื่องการทำ CSR ของ Sea (ประเทศไทย) คือความมุ่งมั่นที่ขับเคลื่อน Digital Talent ในประเทศไทยให้ได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์สะท้อนความจริงใจต่อสังคมที่น่าประทับใจมากจริงๆ.


  • 3K
  •  
  •  
  •  
  •