เปิดมาตรฐานใหม่ที่อยู่อาศัย ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ กับคอนเซปต์มอบความสุข สะดวก สุขภาพดี ที่คิดมาให้ลงตัวทุกเจนเนอร์เรชั่น

  • 7.5K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

สถานการณ์ที่บังคับให้เราต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ อยู่แต่บ้าน ทำทุกกิจกรรมภายในบ้าน กลายเป็นเหตุผลที่ย้ำว่า ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับบ้าน เพราะในยุคที่ความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งจำเป็น การตัดสินใจจากดีไซน์ที่สวยงาม หรือฟังก์ชันที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ จึงไม่เพียงพออีกต่อไป โดยปัจจัยที่สังคมยุคใหม่มองหาจากบ้านนั้น จำเป็นต้องมีทั้ง…ความหลากหลายเพื่อคนทุกวัยในครอบครัว ทำเลที่ไม่ใช่แค่เดินทางสะดวกแต่ต้องมีศักยภาพมากกว่านั้น และที่สำคัญคือ อยู่แล้วส่งเสริมสุขภาพชีวิต

หากว่ากันตามจริง อาจมีหลาย ๆ โครงการที่สามารถตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ได้ตามคอนเซปต์ข้างต้น กับจุดเด่นที่ถูกแยกย่อยออกมาให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายตามแต่คอนเซปต์ของโครงการ แต่ไม่ใช่สำหรับ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) โครงการที่อยู่อาศัยที่รวมทุกความต้องการของการใช้ชีวิตเข้าไว้ด้วยกัน

 

ชื่อสร้างภาพจำ เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ต้นแบบโครงการระดับโลก

 

เดอะ ฟอเรสเทียส์ กลายเป็นโครงการที่น่าจับตาตั้งแต่ MQDC หรือบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ประกาศเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยแนวคิดใหม่ ซึ่งรวมหลากโครงการ หลายระดับราคาไว้ด้วยกันตั้งแต่ 5.14 ล้านบาท จนถึง 250 ล้านบาท ทั้งยังมีจุดเด่นที่ถูกพูดถึงอย่าง ฟอเรสต์ พาวิลเลียน อาคารศูนย์การเรียนรู้สุดล้ำสมัยที่จัดเต็มด้วยนวัตกรรมไฮเทคที่สุดของยุค ยิ่งเสริมให้เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดดเด่นยิ่งขึ้นจากเดิม กับพื้นที่ขนาดใหญ่ยักษ์กว่า 398 ไร่ และทำเลถนนบางนา-ตราด กม. 7 พื้นที่ยุทธศาสตร์ EEC

ความโดดเด่นของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ไม่ได้โด่งดังอยู่แค่ในประเทศไทย แต่ถูกยกให้เป็นต้นแบบโครงการระดับโลก จากแนวคิด ความหรูหรา และนวัตกรรมทันสมัยที่รวมอยู่ภายในโครงการ เพราะแค่ฟอเรสต์ พาวิลเลียน ที่ใช้เป็นอาคารจัดแสดงห้องตัวอย่าง 11 ห้อง ของทั้ง 3 โครงการที่พักอาศัย ด้วยเทคโนโลยีแบบ Immersive Experience จากทีมออกแบบระดับโลก ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมโครงการดังกล่าวจึงเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากมาย

 

ยึดหลัก #แฮปปี้ทุกเจนเนอร์เรชั่น ต้องให้ผู้อยู่อาศัยเป็นฝ่ายเลือก

 

แน่นอนว่าการที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ รวมหลากหลายโครงการของที่พักอาศัยอยู่ภายในโครงการเดียว คือข้อดีของผู้อยู่อาศัย เพราะมีช้อยส์ให้สามารถเลือกโครงการที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ จากการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนและยังคงความเป็นส่วนตัว ที่ใกล้ชิดกับธรรมมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการอย่างครบครัน ตามเป้าหมายส่งเสริมการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีและมีความสุขยิ่งขึ้น

สำหรับ 3 โครงการที่อยู่อาศัยภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบด้วย

 

 

วิสซ์ดอม : คอนโดมิเนียมแบบ high-rise จำนวน 3 อาคาร ออกมาแบบให้ตอบโจทย์วัยเริ่มต้นทำงาน วัยสร้างครอบครัว ครอบครัวใหม่ และคนรักสัตว์เลี้ยง โดยมีห้อง 7 แบบ ขนาด 35 – 205 ตร.ม. ให้เลือกตามไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว

 

 

มัลเบอร์รี โกรฟ : มีทั้งคอนโดมิเนียมแบบ low-rise กับการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับเน้นใกล้ชิดกับธรรมชาติ จำนวน 6 อาคาร โดยมีห้อง 16 แบบ ขนาด 63 – 1,027 ตร.ม. และคอนเซปต์บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮมที่เน้นตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หลากหลายเจนเนอร์เรชั่น รวมทั้งสิ้น 37 หลัง โดยมี 3 ขนาดให้เลือก ตั้งแต่ 4 – 6 ห้องนอน กับพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1,000 – 1,600 ตร.ม.

 

 

ดิ แอสเพน ทรี : โครงการที่พักอาศัยพร้อมบริการดูแลตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาวที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Active Living Condominiums และ Sky Villa Residences ซึ่งออกแบบมาอย่างลงตัวเพื่อการเป็นที่พักอาศัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การบริการอย่างครบครัน รวมถึงการดูแลด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร

 

ไม่จำกัด ‘พื้นที่ใช้สอย’ ไว้แค่บ้าน – ห้อง

 

ถือเป็นอีกความโดดเด่นที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล้าฉีกกรอบความคิดเดิม ๆ มาทำให้อยู่ภายในโครงการ กับไอเดียที่ต้องการส่งต่อที่อยู่อาศัยที่ส่งเสริมสุขภาพและความสุขของผู้คน แต่ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย การใกล้ชิดกับธรรมชาติ การมีธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถเข้าถึงการออกแบบที่มีคุณภาพไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังรวมถึงการจัดวางผัง อากาศ แสง และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ภายในโครงการ เรียกว่าทั้งหมดถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อย้ำถึงการให้ความสำคัญของที่พักอาศัย

พื้นที่สีเขียวในโครงการที่อยู่อาศัยอื่น ๆ อาจเป็นโซนต้นไม้น้อย – ใหญ่ที่ถูกนำมาจัดวาง เพื่อตกแต่งไว้ให้ดูเขียวชอุ่มที่สุดภายในพื้นที่ขนาดย่อมที่โครงการจัดสรรไว้ แต่สำหรับเดอะ ฟอเรสเทียส์ ต้องบอกว่าเป็นพื้นที่สีเขียวของจริง เพราะได้ลงทุนปลูกป่าขนาด 30 ไร่ เอาไว้ภายในโครงการ ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่การปลูกด้วยเมล็ดและลงต้นกล้าเพื่อครอบคลุมพื้นที่ของโครงการ พร้อมด้วยทางเดินที่ถูกยกระดับความยาวถึง 1.6 กม. เพื่อให้เป็นทางเดินเท้าท่ามกลางธรรมชาติที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่ใจกลางโครงการ

นอกจากนี้ ภายในโครงการยังจัดเต็มไว้ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น เช่น พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน, สปอร์ตคอมเพล็กซ์และกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ, ร้านค้าปลีก, ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, พื้นที่ Family Center สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัว หรือแม้แต่พื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น โรงละคร อีเวนท์ฮอลล์ ตลาด ก็มีพร้อมสรรพอยู่ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ แล้ว

 

 

ทั้งหมดนี้ MQDC เริ่มเปิดขายโครงการที่พักอาศัยต่างๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ อย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ผู้สนใจเข้าชมโครงการยังสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าชมแบบส่วนตัว โดยลงทะเบียนผ่าน Call Center 1265 หรือ https://bit.ly/3fS16fS  ได้ ซึ่งระบบการเข้าชมจะเป็นไปตามประกาศของทางราชการในเรื่องการดำเนินการในสถานการณ์ COVID-19


  • 7.5K
  •  
  •  
  •  
  •