Yum Restaurant ปรับโมเดลลงทุนใหม่

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

yumคุณศรัณย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ Yum Restaurant เผยผลการดำเนินงานในปี 2551 ที่ผ่านมาบริษัทเติบโต 15% มากกว่าเป้าที่วางไว้ 7-10% โดยเป็นการเติบโตจากยอดขายธุรกิจ KFC 14% และ Pizza Hut 12%

สำหรับในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% เช่นเดิม แม้ว่าปัจจัยรอบด้าน ทั้งการเมืองและสภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย ก็ตาม  โดยบริษัทมีแผนการลงทุนโดยรวม 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ 1,500-1,600 ล้านบาท แยกเป็นงบการลงทุน 55% และงบการตลาด 45%

โดยมุ่งขยายสาขาในปีนี้ สำหรับ KFC จะมุ่งขยายสาขาไปสู่อำเภอเล็กๆ ส่วน Pizza Hut จะเน้นขยายไปยังต่างจังหวัดที่ไม่มีคู่แข่ง โดยใช้รูปแบบการขยายสาขาแบบ Economic Model หรือรูปแบบการบริหารจัดการที่จะทำให้ขยายสาขาได้มากขึ้น ซึ่งรูปแบบนี้จะช่วยลดต้นทุนในการเปิดร้านใหม่ได้มากถึง 30-40% และช่วยให้บริษัทเพิ่มจำนวนสาขาได้อย่างรวดเร็ว  ไม่จำเป็นต้องเปิดเฉพาะสาขาที่สร้างยอดขายได้มากเท่านั้น 

“ทั้ง KFC และ Pizza Hut จะขยายไปยังพื้นที่ที่ไม่มีการแข่งขันสูง ทำให้สามารถยึดหัวหาดธุรกิจได้เต็มที่จริงๆ  ซึ่งในปัจจุบันเคเอฟขยายไปแล้ว 350 อำเภอทั่วประเทศ ซึ่งในปีที่แล้ว KFC มีส่วนแบ่งการตลาด 52% โดยแมคโดนัลเป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่งการตลาด 28% นอกจากนี้ การเติบโตของเมนูเบอร์เกอร์ได้เพิ่มขึ้นมากถึง 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”

ปีนี้ KFC มีแผนที่จะเปิดสาขาครบ 450 สาขาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ พร้อมชูนโยบายเน้นสร้างความคุ้มค่าต่อทุกๆ การใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มการใช้จ่ายมากขึ้น

ส่วน Pizza Hut จะยังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำในธุรกิจเดลิเวอรี่ ไม่ใช่แค่เป็นผู้นำในตลาดพิซซ่าอีกต่อไป  พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมการอาหาร ทั้งในประเภทพิซซ่าและที่ไม่ใช่พิซซ่า เช่น เมนูอาหารว่าง เครื่องดื่ม และของหวาน ปัจจุบันพิซซ่ามีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่ 60% ขณะที่ยอดขายนั่งทานในร้านมีส่วนแบ่งยอดขาย 40%

อ่านข่าวฉบับเต็ม


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE