บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ร่วมกับ กรมพลศึกษา สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) พร้อมสานฝันเยาวชนไทย จัดโครงการ อลิอันซ์ อยุธยา จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2015 “1 ฝันของเด็กไทย คือไปเยือนสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค…อลิอันซ์ อยุธยา หนึ่งเดียวที่ให้ได้” ครั้งแรกกับการจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรายการใหญ่ เปิดกว้างให้ทีมเยาวชนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ดวลแข้งชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัลรวม 1.2 ล้านบาท พร้อมเปิดโอกาสของนักเตะเยาวชนฝีเท้าเยี่ยม 8 คน ที่จะได้ลุ้นเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแคมป์ฝึกทักษะฟุตบอล กับผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ในแคมป์ระดับเอเชีย ณ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนคัดเหลือ 4 คนสุดท้าย เข้าร่วมฝึกทักษะฟุตบอลในแคมป์ระดับโลก ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
คุณไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลายปีที่ผ่านมา ฟุตบอลลีกในประเทศไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงเป็นโอกาสที่ดี อลิอันซ์ อยุธยา จะเข้ามามีส่วนร่วมในการที่จะช่วยสนับสนุนวงการกีฬาฟุตบอลาไทย โดยเฉพาะเยาวชนที่มีทักษะแต่อาจขาดโอกาสดีๆ ในการพัฒนา ผ่านโครงการ “อลิอันซ์ อยุธยา จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2015” อีกทั้งในระดับโลกเอง กลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นหลักของเรา ก็มีนโยบายสนับสนุนกีฬาฟุตบอล โดยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ทีมเสือใต้ทีมดังแห่งบุนเดสลีกา รวมถึงการเป็นเจ้าของสนาม อลิอันซ์ อารีน่า และการจัดทำโครงการอลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ในระดับโลก ดังนั้นการจัดโครงการ อลิอันซ์ อยุธยา จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ในครั้งนี้ จึงเป็นการเชื่อมโยงที่ดีในการพัฒนาวงการฟุตบอลของไทยไปสู่ระดับสากล
คุณพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “อลิอันซ์ อยุธยา เริ่มส่งเยาวชนไทยร่วมโครงการฯ ที่มิวนิค ตั้งแต่ปี 2011 โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับจากทุกๆ ฝ่ายเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเยาวชน ผู้ปกครอง โค้ชผู้ฝึกสอน และบุคลากรในวงการฟุตบอล โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการต่างยอมรับว่าได้รับประโยชน์ และได้สัมผัสกับประสบการณ์ระดับโลกกับสโมสรชั้นนำ ที่แม้มีเงินก็ไม่อาจซื้อได้ สำหรับการก้าวเข้าสู่โครงการปีที่ 5 นี้ เราได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายฝ่าย และด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสดีๆ ให้กับเยาวชนไทย เราจึงได้ทุ่มงบประมาณในการจัดการแข่งขันมากกว่า 40 ล้านบาท เพื่อขยายโอกาสจัดการแข่งขันขึ้นเองเพื่อคัดเลือกเยาวชนครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนเยาวชนที่จะได้ไปแคมป์ระดับเอเชีย จาก 4 เป็น 8 คน และแคมป์ระดับโลกที่มิวนิค จาก 2 เป็น 4 คน ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโครงการใหญ่ที่ให้โอกาสนักเตะเยาวชนทุกคนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ อลิอันซ์ อยุธยา ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมต่อยอดด้วยการเพิ่มโอกาสการพัฒนากีฬาฟุตบอลในกลุ่มเยาวชนทั่วไปด้วยการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานของการเล่นฟุตบอลกับโครงการ “อลิอันซ์ อยุธยา สานฝันปันสนามฟุตบอลให้น้อง” ใน 9 จังหวัด ตามเขตการแข่งขันควบคู่ไปด้วย โดยใช้งบประมาณปรับปรุง จังหวัดละ 2 แสนบาท รวม 1.8 ล้านบาท พร้อมบริจาคลูกฟุตบอล 125 ลูก ให้แต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสที่กลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของอลิอันซ์ อยุธยา ครบรอบ 125 ปี ของการดำเนินงานในปีนี้ด้วย และยังได้ร่วมซ่อมแซมสนามฟุตบอลในชุมชนให้กับเด็กๆ ซึ่งจะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะ และเสริมสร้างศักยภาพของตนให้เป็นคนที่มีคุณภาพเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีต่อไป
อลิอันซ์ อยุธยา จูเนียร์ฟุตบอล แคมป์ สานฝันเด็กไทยพาไปเยือนสโมสร บาเยิร์น มิวนิค
httpv://youtu.be/KHfRQIqsIaM
ด้าน ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร อธิบดีกรมพลศึกษา หนึ่งในพันธมิตรหลักผู้ให้การสนับสนุนโครงการฯ กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของกรมพลศึกษา คือการส่งเสริมกีฬาขั้นพื้นฐานให้กับเยาวชน ต่อเนื่องสู่การพัฒนาบุคลากรด้านพลศึกษา หรือนักกีฬาที่มีคุณภาพให้แห่ประเทศ จึงเป็นโอกาสดี ที่ได้ร่วมกิจรรมในครั้งนี้ นับเป็นการเปิดโอกาให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะความสามารถ และเปิดประสบการณ์กับทีมสโมสรฟุตบอลชื่อดังของโลก ทั้งนี้ กรมพลศึกษาเองก็ได้ให้ความร่วมมือในการประสานกับจังหวัดให้ส่งทีมเข้าร่วมเข่งขันจากทั่วประเทศ รวมทั้งการใช้สนามแข่งขันตามเขตต่างๆ โดยเราหวังว่าโครงการนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้เด็กไทย ได้แสดงความสามารถด้านการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่
ในส่วนของการคัดเลือกนักกีฬาไปร่วมฝึกทักษะระดับโลกนั้น นำทีมโดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกเยาวชน เผยว่า “ทางทีมคณะกรรมการคัดเลือกทุกท่านล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งในแง่ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ โดยในการตัดสินและคัดเลือก สิ่งสำคัญที่เราจะพิจารณาตัดสิน นอกจากจะเป็นเรื่องความสามารถด้านฝีเท้า ความคล่องแคล่ว ว่องไว และทักษะการเล่นแล้ว ยังต้องรู้จักการเล่นแบบทีมเวิร์ค มีสปิริต มีน้ำใจนักกีฬา เล่นบอลภายใต้กฏกติกามารยาท มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของนักเตะที่ดี ผมมั่นใจว่าเราจะได้เยาวชนที่มีฝีเท้าครบเครื่อง เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมโครงการฯ ทั้งในระดับเอเชียและในระดับโลกที่ประเทศเยอรมนี สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับคนไทยอีกครั้งอย่างแน่นอน
ด้าน พันเอกวรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อลิอันซ์ อยุธยา จัดโครงการฯ นี้ขึ้น เพราะปัจจุบันนี้ มีเยาวชนมากมายที่มีความฝันในการเป็นนักฟุตบอล ต้องการที่จะรับโอกาสในการพัฒนาและแสดงความสามารถทักษะการเล่นฟุตบอลของพวกเขา โครงการนี้จึงมีความสำคัญที่จะเป็นเวทีให้เยาวชนเหล่านี้ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าสู่กิจกรรมระดับเอเชียและระดับโลกต่อไป สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยขอสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยได้จัดบุคลากร ในส่วนของคณะกรรมการตัดสินในสนาม และการรับรองของผลทัวร์นาเมนท์นี้ จึงอยากให้มั่นใจว่า การแข่งขันทุกแมทช์จะได้รับการตัดสินอย่างโปร่งใจ และมีมาตรฐานสากล”
“สำหรับเยาวชนที่รักในกีฬาฟุตบอล และต้องการเข้าร่วมโครงการฯ ก็ขอให้เตรียมความพร้อมให้เต็มที่ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตั้งใจฝึกซ้อม พัฒนาทักษะให้ดี เพื่อที่จะได้แสดงฝีเท้าให้เข้าตาคณะกรรมการ และขอให้มั่นใจได้ว่าความใฝ่ฝันที่อยากจะไปเยือนสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค สักครั้งในชีวิตนั้น มีเพียง อลิอันซ์ อยุธยา หนึ่งเดียวที่ให้ได้ ก็ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่” คุณพัชรา กล่าวทิ้งท้าย
ตารางการแข่งขัน
ร่วมส่งแรงใจ และร่วมลุ้นว่าใครจะสามารถก้าวไปเป็นตัวแทนระดับประเทศเพื่อสานฝันให้เป็นจริงต่อไป ติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการฯ ได้ที่ www.footballforlifethailand.com หรือแบ่งปันภาพความประทับใจได้ที่ #AJFCThailand