เพราะเมื่อเทคโนโลยีอย่าง Drone บล็อกเชน และ รถยนต์ไร้คนชับ เข้ามา ร้านค้าปลีกและฟาสต์ฟู้ตต้องหันมามาปรับปรุงรูปแบบบริการส่งอาหารเพื่อตอบรับพฤติกรรมของลูกค้าโดยเฉพาะกับวัยรุ่นที่เดี๋ยวนี้ใช้เทคโนโลยีกันคล่องมากขึ้นแล้ว มาดูว่าแบรนด์ไหนปรับตัวกันไปบ้างแล้ว
KFC
KFC ที่แคนาดาใช้บิทคอยน์ของตัวเองตามออเดอร์และยอดขายผ่าน Facebook อาหารบนโปรโมชั่นขายเกลี้ยง
KFC ที่จีนเริ่มใช้เทคโนโลยีสแกนรอยยิ้มและใบหน้าจาก Alibaba ให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อของ ภายหลังและ Caliburger ที่อเมริกาก็เริ่มเอาแนวคิดนี้มาให้บริการ
KFC ที่อินเดียใช้โดรนในชื่อ Kentucky Flying Object (KFO) ส่งไก่ให้กับลูกค้าผู้โชคดี
Domino Pizza
Domino Pizza เริ่มทดลองใช้โดรนส่งพิซซ่าในนิวซีแลนด์ เยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ ปี 2016
จับมือกับ Ford Motor ศึกษาผลตอบรับของผู้บริโภคหลังได้รับบริการส่งพิซซ่าจากรถไร้คนขับที่มองว่าจะกลายเป็นเรื่องปรกติในอนาคต
Pizza Hut
Pizza Hut จับมือกับ Toyota พัฒนารถยนต์ส่งพิซซ่าอัตโนมัติที่ติดตั้งเตาอบพิซซ่าในตัว
(แถม) Pizza Hut ออกแบบเสื้อสำหรับคนชอบกินพิซซ่า ให้มีซองไว้ใส่ชิ้นพิซซ่าพกติดตัวไว้กินเผื่อหิว
Burger King ที่รัสเซียใช้บล็อกเชนทำโปรแกรมส่งเสริมลูกค้าที่ซื้อ Whooper ลูกค้าจะได้เหรียญบิทคอยน์ของร้านไปแลกซื้อเบอร์เกอร์ของร้าน
Amazon ให้บริการส่งของด้วยโดรนโตยใช้ชื่อ Amazon Prime Air
Google เริ่ม Project WIng เชื่อมกับบริการ Google Map และ Google Earth หวังเป็นเครื่องมือให้ร้านอาหารและร้านขายยาได้ใช้ส่งของ
7-Eleven ในอเมริกาเริ่มใช้โดรนส่งของไปแล้ว 77 ออเดอร์ ในปลายปี 2016
คิดว่าในไทยยังไม่เห็นตัวอย่างที่ชัดเจนนัก แต่ถ้าคนไทยใช้เทคโนโลยีพวกนี้เป็นมากขึ้น ธุรกิจในบ้านเราต้องไม่อยู่เฉยแน่
แหล่งที่มาหลัก
https://www.jwtintelligence.com/2018/02/fast-food-innovation/