“บุญรอดฯ-โออาร์” เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้บริษัทร่วมทุน DRINK ENTERPRISE เตรียมวางขาย 7-Eleven เมษายนนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท

  • 57
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หลังจากบริษัทบุญรอดเทรดดิ้งฯ จับมือกับ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด โดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน DRINK ENTERPRISE เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมดื่มร่วมกัน ที่เราได้เห็นข่าวคราวตั้งแต่เมื่อกลายปี 2565 ที่ผ่านมา หลักจาเกิดกลยุทธ์การตลาดผ่านหน้าร้าน 7-Eleven ด้วย “นกแก้วปริศนา” จำนวนมากเกาะที่หน้าร้าน 7-Eleven หลายสาขาจนกลายเป็นไวรัลสร้างความสงสัยให้ชาวเน็ตไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดทุกอย่างก็เฉลยออกมาแล้วสำหรับ “บุญรอดฯ” และ “โออาร์” ที่เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ RTD (Ready To Drink)ใหม่ที่จะวางตลาดนั่นก็คือ “กาแฟพร้อมดื่มอเมซอน” แบบขวดและ “ฮารุ Cold Brew Green Tea” ภายใต้บริษัท DRINK ENTERPRISE แล้วในวันนี้ที่เรียกว่าเป็นความร่วมมือที่จะเขย่าตลาดกาแฟพร้อดื่มแบบ RTD รวมไปถึงตลาดชาเขียวพรีเมียมในประเทศไทยไปพร้อมๆกัน พร้อมกับตั้งเป้าสร้างยอดขายในช่วง 9 เดือนหลังของปีนี้เอาไว้ที่ 1,000 ล้านบาท

สำหรับเครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่มแบรนด์ “อเมซอน” จะเป็นรูปแบบขวด PET ขนาด 200 มล. ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากกาแฟพรีเมียม และกระบวนการ Perfect Shot 27 วินาที มี 3 รสชาติด้วยกันคือ

  1. อเมซอน ลาเต้  ราคา 35 บาท
  2. อเมซอน เอสเปรสโซ ราคา 35 บาท
  3. อเมซอน แบล็ค ราคา 29 บาท

ส่วนของเครื่องดื่ม “ฮารุ Cold Brew Green Tea” เป็นชาเขียวเกรดพรีเมียมจากไร่ชา 1 ใน 3 แห่งของโลกที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น นำมาผลิตด้วยกระบวนการ Cold Brew ที่ใช้เวลานานกว่าวิธีปกติ 1 เท่าตัวทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุน ในสไตล์ Modern Japanese โดยจะมาในขวดขนาด 440 มล. มี 2 รสชาติ คือ

  1. ฮารุ Cold Brew Green Tea Natural (สูตรปราศจากน้ำตาล) ราคา 30 บาท
  2. ฮารุ Cold Brew Green Tea Mild Sweet (สูตรหวานน้อย) ราคา 30 บาท

โดยทั้งบุญรอดและโออาร์ ตั้งเป้าผลิตกาแฟพร้อมดื่มที่ 8 ล้านขวด ขณะที่กาแฟฮารุ ตั้งเป้าผลิตที่ 10 ล้านขวดในปีนี้ ขณะที่จุดเริ่มต้นขอการร่วมทุนกันในครั้งนี้เนื่องจากทั้งสองบริษัทต่างมองเห็นโอกาสจากการนำจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาส่งเสริมซึ่งกันและกัน ระหว่างจุดแข็งด้านกาแฟของโออาร์ และความเชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและการกระจายสินค้าของ บุญรอดฯ

คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บุญรอดฯ มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยาวนานก้าวสู่ปีที่ 90 ไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบสนองผู้บริโภค   โดยบริษัทบุญรอดฯ มีแบรนด์สินค้าคุณภาพที่ครองใจผู้บริโภคอันดับ 1 หลากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มสิงห์, น้ำแร่เพอร์ร่า, โซดาสิงห์, สิงห์ เลมอน โซดา ฯลฯ และในปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า ด้วยการร่วมมือกับ ปตท.ค้าปลีกและน้ำมันหรือ OR นำความเชี่ยวชาญ จุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายสร้างการเติบโตไปด้วยกัน

คุณภูริต ภิรมย์ภักดี (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และคุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR

ขณะที่คุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมบริโภค (RTD) ร่วมกับบุญรอดฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม (กลุ่ม Lifestyle) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ OR ในการสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจ (Strategic Alliance) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเครื่องดื่มของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมยิ่งขึ้น (All Lifestyle)  อีกทั้งยังสอดคล้องกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR หรือ OR SDG ในด้านการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ (D – DIVERSIFIED) ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

สำหรับกาแฟขวด “อเมซอน” ทั้ง 3 รสชาติ ที่เรียกว่าเป็นเมนู Top 5 ของอเมซอน และ “ฮารุ Cold Brew Green Tea” 2 รสชาติ จะวางขายในทุกช่องทางค้าปลีก รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศราว 13,000 สาขาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนเป็นต้นไปขณะที่ลูกค้าสถานีน้ำมัน พีทีทีสเตชั่น ที่เติมน้ำมันเกรดพรีเมียม 1,200 บาทขึ้นไปจะได้ชิม กาแฟพร้อมดื่มอเมซอน ก่อนใครตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเ โดยหลังจากเปิดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 7-Eleven ในช่วงแรกแล้ว จะมีการกระจายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดอื่นๆทั้งหมด รวมไปถึงช่องทางค้าปลีกในท้องถิ่นที่เป็นร้านค้าพันธมิตรของบุญรอดอีก 20,000 แห่งทั่วประเทศด้วย

ความร่วมมือในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการรวมพลังของบริษัทยักษ์ใหญ่รุกตลาด “กาแฟ” และ “ชาเขียว” พร้อมดื่มโดยเน้นจับเทรนด์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีเวลาแต่ต้องการเครื่องดื่มที่มีความพรีเมียมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน ซึ่งจากนี้ก็คงต้องจับตากันต่อไปว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับตลาด RTD ได้มากน้อยแค่ไหน และหากประสบความสำเร็จจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกวางตลาดอีกบ้างก็คงต้องติดตาม


  • 57
  •  
  •  
  •  
  •