ย้ำภาพเบอร์ 1 พร็อพเทค “แสนสิริ” เสิร์ฟนวัตกรรม Mixed Reality พลิกโฉมการชมห้องตัวอย่าง

  • 7.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

700

นอกจากแข่งขันเรื่องทำเล การออกแบบ และราคา ปัจจุบันธุรกิจ Property ยังแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เรื่องนี้ผู้นำตลาดอย่าง แสนสิริ เปิดเกมรุกพร้อมเดินหน้าเต็มสูบ สมกับตำแหน่งเจ้าตลาด PropTech ด้วยการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์แบบ Cross Industry Collaboration จาก 3 อุตสาหกรรม ทั้ง แสนสิริ , เอไอเอส และไมโครซอฟท์ เปิดตัวนวัตกรรม Mixed Reality ที่จะเข้ามาพลิกประวัติศาสตร์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย

คุณทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์สู่การเป็น Siri LifeTech ให้ฟังว่า ในช่วงกลางปีนี้เราจะนำเสนอ Sales Gallery โฉมใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน ด้วยนวัตกรรม Mixed Reality หรือ MR ที่จะเปิดมิติใหม่ของการอยู่อาศัย ซึ่งความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่อีก 2 รายอย่างเอไอเอสและไมโครซอฟท์ในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความตื่นเต้นรูปแบบใหม่แก่ลูกค้าแสนสิริ ทำให้เข้าถึงจินตนาการ การออกแบบบ้าน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องลงทุนสูง แต่พร้อมให้บริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

Mixed Reality เชื่อมโลกจริงกับโลกเสมือน

แสนสิริ ถือเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่นำเทคโนโลยี MR มาใช้มอบความสะดวกแก่ลูกค้าด้วยการเชื่อมโยงโลกเสมือนเข้ากับโลกความจริง ทั้งยังทำให้ลูกค้าได้เข้าถึงภาพ เสียง และสามารถปรับเปลี่ยนห้องตัวอย่างในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งแสดงผลแบบดิจิทัลกราฟฟิกทับซ้อนกับสภาพแวดล้อมรอบข้างได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แตกต่างจาก VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) ซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้งานและการปฏิสัมพันธ์ โดย VR เป็นการจำลองภาพดิจิทัลกราฟฟิกเสมือนจริงที่ใช้ในวงการเกม ภาพยนตร์ ส่วน AR เป็นการสร้างภาพกราฟฟิกทับซ้อนสภาพแวดล้อมจริงแต่ไม่สามารถตอบสนองผู้ใช้ได้

1

“เทคโนโลยีที่เรานำมาใช้งานไม่ได้นำมาเป็นแค่กิมมิค แต่สามารถจับต้องได้จริง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้จริง ทั้งด้านดีไซน์ การตกแต่ง ถือเป็นการจับต้องจินตนาการได้อย่างแท้จริง ทั้งยังถือเป็นการแก้เพนพอยท์เรื่องการเดินทางไปยังที่ตั้งโครงการ ทำให้ลูกค้าสะดวกยิ่งขึ้น ลดต้นทุนทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง เพียงใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยี MR ที่สามารถจำลองห้องตัวอย่างและสภาพแวดล้อมจริงให้เห็นได้ทันที ซึ่งในอนาคตจะต้องตอบสนองการใช้งานได้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง”

ตอบโจทย์งานเฟอร์นิเจอร์-ตกแต่ง โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายจริง

เมื่อลูกค้าได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว จะสามารถเลือกปรับเปลี่ยนและตกแต่งห้องใหม่ได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายวัตถุจริงแต่อย่างใดก็สามารถเปลี่ยนรูปแบบ สี วัสดุเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง พื้น และผนังได้ตามต้องการ รวมถึงเคลื่อนย้ายตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งไปยังพื้นที่ที่ต้องการ หรือหมุนปรับทิศทาง ย่อหรือขยายขนาดเฟอร์นิเจอร์ ทั้งยังสามารถเปลี่ยนลักษณะแสงและบรรยากาศภายในห้องได้ตามช่วงเวลาและทิศทางห้องจริง พร้อมบันทึกไฟล์ภาพหรือวิดีโอห้องตัวอย่างที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ถือเป็นความพิเศษของเทคโนโลยี Mixed Reality ที่ทำให้แสนสิริสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านงานออกแบบและตกแต่งห้องได้ทันที ทั้งยังทำให้ลูกค้า ครอบครัว และนักออกแบบเข้าใจถึงความต้องการได้ในทิศทางเดียวกัน

เทคโนโลยีลดต้นทุน Sales Gallery พร้อมปิดการขายได้เร็วขึ้น

นอกจากเทคโนโลยี Mixed Reality จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเลือกและตัดสินใจแก่ลูกค้าแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนในการสร้าง Sales Gallery ได้ราว 30% จากปกติใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทำให้กลายเป็น Sale Gallery รูปแบบใหม่ที่ให้ความสะดวกแก่ลูกค้าและทันสมัยด้วยเทคโนโลยี

2

“เราจะนำร่องใช้ Mixed Reality กับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวกลางปีนี้ และจะสร้าง Sale Gallery โฉมใหม่เต็มรูปแบบภายในช่วงสิ้นปี ซึ่งจะเปิดเพียงแห่งเดียวในทำลที่เหมาะสมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการชมห้องตัวอย่างของแสนสิริได้ทุกทำเลทุกโครงการ ส่วนสำนักงานขายรูปแบบเดิมก็ยังถือเป็นหัวใจในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์ได้สัมผัส ได้ชมเฟอร์นิเจอร์และบรรยากาศจริง ซึ่งบริษัทตั้งเป้าให้บริการสำนักงานขายโฉมใหม่ทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจีน ฮ่องกง ส่วนสิงคโปร์คาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในปีหน้า เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมห้องตัวอย่างได้มากกว่าการเห็นผ่านโบรชัวร์”

ทั้งนี้ ยังมั่นใจว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถสื่อสารสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ตรงใจ จากเดิมลูกค้ากว่า 90% นิยมตัดสินใจเลือกจากทำเลโครงการและงบประมาณ แต่เราเชื่อว่าเทคโนโลยี MR จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่จริงแต่สามารถตัดสินใจได้จากบรรยากาศที่เห็นจากอุปกรณ์ Holographic และเทคโนโลยี MR

Cross Collaboration ขยายความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม

ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแสนสิริ แต่ยังสร้างความแตกต่างด้วยประสบการณ์การใช้งานที่มาจากพาร์ทเนอร์สำคัญ ทั้งเอไอเอส และไมโครซอฟท์ ซึ่งทีมงานเอไอเอสเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว หลังจากพูดคุยแนวคิดการใช้งานร่วมกับแสนสิริราว 2-3 เดือน ส่วนไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของเทคโนโลยี Azure Cloud Platform และอุปกรณ์ Holographic Computing ที่ใช้งานร่วมกัน

3

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งงบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาประมาณ 50 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 80 ล้านบาท เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับการลงทุนและร่วมมือกับสตาร์ทอัพมากขึ้น ซึ่งทำให้ได้ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงในระยะเวลาอันสั้น และปัจจุบันยังมีโครงการ SIRI Ventures ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีและ Startup แตกต่างจากในอดีตที่บริษัทใช้การวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก ส่วนงบประมาณที่ปรับลดจะถูกนำไปใช้ในการลงทุนด้านอื่นๆ แทน

รักษาความเป็นพรีเมี่ยม เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

โครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริกว่า 70-80% เป็นโครงการพรีเมี่ยม ซึ่งจากนี้จะพัฒนาให้เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าภายในอีก 2-3 ปีจากนี้จะเปลี่ยนเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ราว 70% แทน ส่วนกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีอยู่ราว 20-30% ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อสูง และมีความคุ้นเคย ชื่นชอบ หรือผูกพันกับแบรนด์แสนสิริมาตั้งแต่อดีตที่พ่อแม่เป็นผู้เลือกซื้อ รวมถึงการนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนารูปแบบการขาย ทำให้แสนสิริสามารถเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย

 


  • 7.3K
  •  
  •  
  •  
  •