จบดีล 1 ล้านล้านบาท ‘IBM’ เข้าซื้อ ‘Red Hat’ อย่างเป็นทางการ

  • 316
  •  
  •  
  •  
  •  

ไอบีเอ็ม (IBM) ประกาศเข้าซื้อ เรดแฮต (Red Hat) อย่างเป็นทางการ ในราคา 190 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น รวมเป็นกรรมสิทธิหุ้นมูลค่าราว 34,000 ล้านเหรียญ หรือราว 1 ล้านล้านบาท

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะเป็นการผนวกเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์แบบโอเพ่นของ ‘เรดแฮต’ เข้ากับนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงความเป็นผู้นำด้านการขายในกว่า 175 ประเทศของ ‘ไอบีเอ็ม’ เพื่อนำสู่แพลตฟอร์มมัลติคลาวด์แบบไฮบริดแห่งอนาคตที่จะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยแพลตฟอร์มคลาวด์บนพื้นฐานของเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สอย่างลินุกซ์และคูเบอร์เนทิส จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับใช้ และบริหารจัดการข้อมูลและแอพพลิเคชันบนคลาวด์ทั้งที่อยู่ในองค์กร (on premise) ไพรเวทคลาวด์ และแบบพับลิคคลาวด์ที่มีผู้ให้บริการหลายราย

แม้ไอบีเอ็ม จะเข้าซื้อเรดแฮตแล้ว แต่เรดแฮตจะยังคงอยู่ภายใต้การนำของ ‘จิม ไวท์เฮิร์สท์’ ประธานกรรมการและซีอีโอของเรดแฮต และทีมผู้บริหารปัจจุบันต่อไป โดยไวท์เฮิร์สท์จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้บริหารระดับสูงของไอบีเอ็ม และรายงานตรงต่อ ‘จินนี โรเม็ตตี’ ประธานบริษัท ประธานกรรมการ และซีอีโอของไอบีเอ็ม โดยสำนักงานใหญ่ของเรดแฮตจะคงอยู่ที่เมืองราลีห์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา ภายใต้รูปแบบสำนักงาน แบรนด์ และแนวทางปฏิบัติแบบเดิม ทั้งนี้ เรดแฮตจะดำเนินการเป็นส่วนงานที่แยกออกมาชัดเจนภายในไอบีเอ็ม และจะรายงานผลประกอบการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจคลาวด์และค็อกนิทิฟซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ รายได้จากคลาวด์ของไอบีเอ็ม เติบโตจาก 4% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2556 สู่ 25% ในปัจจุบัน และตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา นับจนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ รายได้ของไอบีเอ็มคลาวด์โตขึ้นจนสูงกว่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าการเข้าซื้อกิจการเรดแฮตจะนำสู่การเติบโตประจำปีของไอบีเอ็มเพิ่มขึ้น 2 หลักในระยะเวลา 5 ปี

ขณะที่ในปีงบประมาณ 2562 เรดแฮตมีรายได้ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบปีต่อปี มีรายได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 ตามที่รายงานในเดือนมิถุนายน 934 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบปีต่อปี รวมถึงรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอพพลิเคชันและบริการเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่รายได้ของบริการด้านไอทีเติบโต 17%

 


  • 316
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE