SCB 10X องค์กรแรกจากไทย ติดอันดับท็อปเท็นด้าน CVC ระดับโลก

  • 37
  •  
  •  
  •  
  •  

SCB 10X

ชั่วโมงนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่า ฟินเทคสตาร์ทอัพ (FinTech Startup) กลายเป็นกระแสที่มาแรง เพราะนอกจากจะเป็นสตาร์ทอัพด้านการเงิน การธนาคาร และการลงทุนแล้ว ยังเป็นการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มสปีดให้ธุรกรรมทางการเงินนั้นมีความเติบโตไปข้างหน้าได้

SCB 10X ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรทางการเงินที่ให้ความสนใจ และเข้าร่วมลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพเป็นเบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งถือว่า เป็นจุดแข็งในการขับเคลื่อนเพื่อไปยังพื้นที่การลงทุนในรูปแบบใหม่ ๆ จึงทำให้มีการเคลื่อนตัวที่เร็วกว่าสถาบันทางการเงินอื่น ๆ ขณะเดียวกันบอร์ดผู้บริหารกลุ่ม SCB เองก็มีความรู้ความเข้าใจในการที่เข้าไปสนับสนุนส่งเสริมและผลักดัน ทำให้ SCB 10X กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

ล่าสุด SCB 10X ได้รับการจัดอันดับด้าน Corporate Venture Capital (CVC) ประจำปี 2564 สำรวจและจัดลำดับโดย CB Insights ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ที่ได้ติดตามการระดมทุนของสตาร์ทอัพต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และทำการจัดลำดับ Corporate Venture Capital (CVC) จากกว่า 2,300 บริษัททั่วโลก SCB 10X ได้อันดับที่ 2 จากการจัดประเภท Global CVC ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Fintech และอันดับที่ 8 จาก CVC ทั่วโลก

โดย SCB 10X นับเป็นองค์กรแรกจากประเทศไทยที่ติดอันดับท็อปเท็นด้าน CVC ระดับโลก สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของ SCB 10X ในการเลือกลงทุนและเข้าถึงบริษัทเทคคอมพานีและสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งการได้รับการยอมรับในเวทีระดับสากลนี้ จะเป็นการเปิดประตูครั้งสำคัญที่จะนำมาซึ่งโอกาสด้านการลงทุนรวมถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทยในอนาคต

SCB 10X

SCB 10X ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการลงทุนในบริษัทเทคคอมพานีและสตาร์ทอัพทั่วโลกกว่า 40 บริษัท และได้มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับองค์กร เราให้ความสนใจและโฟกัสการลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้าน Disruptive Technology ได้แก่ เทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) โดยเฉพาะบล็อกเชน (Blockchain) ที่เกี่ยวกับด้าน Financial Services รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) Web 3.0 และ Metaverse ภายใต้ภารกิจ “Moonshot Mission”

นอกจากการลงทุนในลักษณะของ Venture Capital แล้ว SCB 10X ยังมีการลงทุนในลักษณะของ Strategic Investment เพื่อร่วมกันนำขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจรองรับโลกการเงินแห่งอนาคต อีกทั้ง SCB 10X มีแผนที่จะเตรียมการจัดตั้งกองทุน Venture Capital ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือCP ขนาด 600 – 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 19,800 – 26,400 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานกำกับทางการ เพื่อเตรียมเข้าไปลงทุนใน Disruptive Technology ด้านบล็อคเชน สินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเทคโนโลยีด้านการเงิน และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงทั่วโลก และคาดว่าในไตรมาส 3 ของปีนี้จะได้รับการอนุมัติจากทางหน่วยงานที่กำกับดูแล

SCB 10X

SCB 10X ยังได้โฟกัสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สามารถขับเคลื่อนโดยดิจิทัลเทคโนโลยี รวมถึงการเข้าไปลงทุนเอง การลงทุนร่วมสร้าง ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้จะช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และช่วยให้กลุ่มไทยพาณิชย์ มีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ที่สามารถมาทดแทน และเพิ่มการเติบโตแบบก้าวกระโดด

สำหรับการเข้าลงทุนของ SCB 10X ผลักดันให้กลุ่มไทยพาณิชย์บรรลุเป้าหมายในการเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาคและระดับโลกที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านบาท และฐานลูกค้ากว่า 200 ล้านคน ขณะที่ในกลุ่มบริษัทเทคคอมพานี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลก จะเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลกให้กับกลุ่มไทยพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ

และ SCB 10X โฟกัสการลงทุนในธุรกิจด้าน Disruptive Technology โดยเฉพาะ Metaverse และ Web 3.0 ล่าสุดได้เปิดตัวตัวอย่างสำนักงานใหญ่ ใน The Sandbox แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชน นับเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแห่งแรกในโลกที่ริเริ่มพัฒนาสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงใน The Sandbox โดยพัฒนาภายใต้แนวคิดที่ต้องการสะท้อนภาพความเป็นไทยสู่เวทีสากลและโลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2565 นี้ โดยสาเหตุและหลักเกณฑ์การตัดสินใจเข้าไปลงทุนใน The Sandbox มากกว่า Decentraland เพราะมีโมเมนตัมที่ดีกว่า

The Sandbox แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้จะเน้นประโยชน์ใช้สอยพื้นที่สำนักงานใหญ่ใน 3 ด้าน ได้แก่

1. Virtual Hub พื้นที่แบ่งปันความรู้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและการมีส่วนร่วม
2. Virtual Land พื้นที่สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจในการทำกิจกรรมร่วมกันและพัฒนาต่อยอดโครงการอื่น ๆ ในอนาคต และ
3. พื้นที่แสดงผลงานและสนับสนุนศิลปินชาวไทยสู่ตลาดโลก ในรูปแบบต่างๆ เช่น NFT Gallery เป็นต้น

ขณะเดียวกัน SCB 10X เรายังให้ความสนใจศึกษาเรื่องการลงทุนเกี่ยวกับ Metaverse และมีแผนที่จะจัดกิจกรรม Metaverse Hackathon เร็ว ๆ นี้ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งเวทีสำหรับผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้าน Metaverse สามารถมาปลดปล่อยพลังและความคิดสร้างสรรค์ โดยเราหวังว่ากิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานในการสร้างความแข็งแกร่ง และผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับ Metaverse อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คุณมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) เตรียมที่จะหาพันธมิตรใหม่ ที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นการสร้างรากฐานของตัวลูกค้า พันธมิตร และองค์กรให้ก้าวเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด


  • 37
  •  
  •  
  •  
  •  
sabuysuk
การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน ล้วนแล้วแต่ได้กำไร