Digital Growth PR 2024: กดสูตรลับ สร้าง Content Marketing ให้ปัง Viral ดังๆ ฉบับ Salmon Lab

  • 18
  •  
  •  
  •  
  •  

 

การทำคอนเทนต์ในปัจจุบัน ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของโลกอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ที่ต้องแข่งขันกับทุกสิ่งมากมาย ไหนจะไวรัลแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจที่มีอยู่รายล้อมรอบตัวผู้คนไปหมด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากและท้าทายแบรนด์ในปัจจุบันอย่างมากที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้จับใจผู้ชม (audience) ให้ได้

หนึ่งในหัวข้อที่คนฟังเต็มฮอลล์และผู้ฟังฮาหัวเราะครืนตลอดการสัมมนา ของ Digital Growth PR 2024 ซึ่งจัดโดย Marketing Oops! และ Digital IQ ได้แก่เซสชั่น Transforming Engagement with Powerful Stories in Content Marketing with #SalmonLab ซึ่งถือเป็นทีมผลิตคอนเทนต์โซเชียลมีเดียได้ปังแทบจะทุกชิ้น มาร่วมแบ่งปันสูตรลับในการทำคอนเทนต์ให้กับคนทำงานสาย PR ได้เก็บเกี่ยวกันไป ซึ่งเราได้สรุปสิ่งสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้มาให้ฟังในบทความนี้

 

สำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้จัก Salmon Lab ก็ต้องบอกว่า เขาคือส่วนหนึ่งภายใต้เครือของ บริษัท Salmon House งานส่วนใหญ่คือการผลิตคอนเทนต์ และยังเป็นดิจิทัล เอเจนซี่ ด้วย มีเป้าหมายของการผลิตคอนเทนต์ สร้างสรรค์ไอเดียต่างๆ ลงบนช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ (ซึ่งไปติดตามผลงานพวกเขากันได้)

ในมุม Salmon Lab งานด้าน PR คือการสร้างสรรค์คอนเทนต์อย่างไรให้เกิด Engagement หรือปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนกับคน และระหว่างคนกับแบรนด์ ซึ่งสิ่งนี้เองก็ตรงกับสิ่งที่ Salmon Lab และความเป็น PR ทำ

 

หลักปรัชญาสำคัญที่เราจะใช้กัน ทั้ง 3 ยูนิต Salmon Lab, Salmon Podcast และ Salmon House

1.Humanize 

2.Relatable

3.Insight

Humanize

ความเป็นมนุษย์ แต่อันที่จริง Brand ไม่ใช่คน เช่นเดียวกัน Salmon Lab ก็ไม่ใช่คนแต่เป็นแค่โลโก้ เป็นแค่บริษัทหนึ่ง แต่การทำงานมีคนอยู่ในนั้น แต่มันคือการทำอย่างไรก็ได้ให้แบรนด์เรามีบุคลิกภาพ ให้มีความเป็นมนุษย์ (Humanize) ทำอย่างไรก็ได้ให้คนรู้ว่า เบื้องหลังของแบรนด์หรือเบื้องหลังของบริษัทมีคนอยู่ในนั้น โดยที่เราใส่ตัวเราเองหรือคนในบริษัทลงในการทำงานมากขึ้น เพื่อให้มีบุคลิกภาพของคนทำงานอยู่ในนั้น โดยที่เราสามารถวางได้ว่า บุคลิกภาพของ Brand เป็นอย่างไร

Relatable

การทำให้คอนเทนต์เกี่ยวข้องกับคนมากขึ้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ว่าเราหัวอกเดียวกับเขา เป็นคนที่เข้าใจเรา หรือได้ขำได้ตลกในเรื่องเดียวกัน ก็เป็นการสร้าง relationship อีกแบบหนึ่งได้

Insight

ข้อมูลเชิงลึก คือสิ่งที่เราพยายามจะเก็บเกี่ยว หรือคือ Data ที่เราได้ไปเก็บเกี่ยวในทุ่งอันกว้างใหญ่แล้วนำมาใช้ทำงาน

รีแคปความเป็น Salmon Lab

ได้เปิดชาแนลบนโซเชียลมีเดีย เอาไว้สร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือเรียกง่ายๆ ว่า เอาไว้ปล่อยของ เวลาที่เราคิดสิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้ แต่อาจจะทำออกมาเป็นงานลูกค้าไม่ได้ แต่เราก็อยากจะนำไอเดียเอามาระบาย ก็เลยนำมาใส่ที่ชาแนลนี้เป็นการแชร์กับคนดู ในโมเมนต์ที่ว่า ชั้นก็เคยรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน แรกๆ ก็มีการลองผิดลองถูกกันไปมา จนสุดท้ายก็ปรับจูนและได้คาแร็คเตอร์ที่เห็นในปัจจุบัน “คนรักงาน ที่ชอบทำคอนเทนต์”

 

How to สร้างสรรค์คอนเทนต์แบบ Salmon Lab

มองหาสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้วหยิบมาสร้างสรรค์ได้ ไม่ว่าจะเป็น ออนไลน์ ออฟไลฟน์ หรือออนกราวน์ ทั้งนี้ Salmon Lab ได้ยกตัวอย่างการหยิบสิ่งต่างๆ รอบตัวนำมาเป็นคอนเทนต์ ดังนี้

 

Meme-Keting

Meme (มีม) หยิบ Meme ให้ทำงานด้วยตัวเอง หลักการสำคัญคือ ต้องเข้าใจหลักในการทำงานของมีมๆ นั้นให้ดี เพราะ Meme แต่ละตัวจะทำงานไม่เหมือนกัน แล้วหยิบมาทำแบบคมๆ สำหรับการทำ Meme เพื่อเป็นการสื่อสารการตลาด (Meme-Keting) (อ่านเพิ่มเติม) การทํา Marketing ในรูปแบบของมีม หยิบเอาเทรนด์ มุกตลก หรือการ Insight ในชีวิตประจําวันมาเล่าเรื่อง หรือจะเป็น Insight ของผู้คนในโซเชียลฯ ก็ได้

โดยมีเคล็ดลับสำคัญที่ว่า ถ้าเขาเข้าใจทุกอย่าง…เขาจะไม่สนใจ แต่ ถ้าเขาเข้าใจบางอย่าง…เขาจะสนใจ แต่ถ้าเขาไม่เข้าใจ ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ…เขาจะไม่ยอมสนใจเลย ค่อนข้างท้าทายมากเดียว

 

ดังนั้นจำเป็นต้อใส่สูตรลับลงไปได้แก่ Exclusivity มาจากคําว่า Exclusive หรือความพิเศษเฉพาะกลุ่ม ซึ่งก็คือเนื้อหาที่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจ และเมื่อไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจมันก็เลย ทำให้คนที่เข้าใจรู้สึกเหนือกว่าคนอื่น เมื่อคนเหล่านั้นรู้สึกเหนือกว่า เขาจะเริ่มอวดด้วยการคอมเมนต์ (สร้าง Engagement)

 

MEME –>  EXCLUSIVITY  –>  RELATIVITY

 

สำหรับหลักการหากการสื่อสารยังรู้สึกว่าไม่เข้าใจ หรือเกรงว่าจะยังไกลมากไปกสิ่งที่ทำก็คือ “ทำซ้ำ เล่าใหม่ บิด แล้วขยี้” เพื่อเชื่อมโยงอย่างไรก็ได้ให้ใกล้ที่สุดของพฤติกรรมคนทำงาน

จนได้ XX บางอย่าง ของ Insight คนทำงาน ออมาเป็นเนื้อหาคอนเทนต์

 

“………”  +  Insight คนทำงาน = Content

 

นอกเหนือจาก Insight คนทำงานแล้ว ก็ยังนำ “สิ่งที่เกิดในชีวิตประจำวัน” ของคนทำงานมาสร้างเป็นคอนเทนต์ได้เช่นกัน

ทำอย่างไรเมื่อเป็น Advertorial ?

สิ่งที่ทางทีม Salmon Lab ทำในส่วนของการผลิตงานให้ลูกค้า หรือก็คือ Advertorial Content ก็คือการสร้างสรรค์ Meme เช่นกันแล้วใส่ “ลูกค้า” หรือแบรนด์ลงไป ยุคนี้ไม่จำเป็นต้องขายของให้เนียนแล้ว เพราะถ้าคอนเทนต์ดี มันลากคนได้อยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรก็ได้ให้ทุกคนได้สิ่งที่ต้องการ คนฟังได้สนุกได้ตลกกับคอนเทนต์ โดยที่แบรนด์ก็ยังได้ขายของด้วย

นี่คือสิ่งที่ Salmon Lab ได้ย้ำเตือนให้เราเข้าใจถึงการทำ Advertorial Content ในปัจจุบัน

เอาเรื่องจริง มาล้อเล่น เอาเรื่องเล่นๆ มาจริงจัง”

สูตรต่อมาคือ  “เอาเรื่องจริง มาล้อเล่น เอาเรื่องเล่นๆ มาจริงจัง” ซึ่งเรื่องที่หยิบมาทำก็สามารถเกิดขึ้นได้รอบๆ ตัวในชีวิตการทำงาน ในออฟฟิศของเราเอง และเชื่อว่าเกิดขึ้นได้กับทุกออฟฟิศเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำให้เกิดความเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ ก็จะต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่า “Magic Moment” ใส่ไปในคอนเทนต์ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม มักจะมีคำถามว่า คอนเทต์จะต้องมีคุณภาพ (Quality) มากแค่ไหน หรือยังจำเป็นไหมในปัจจุบัน?

คำตอบของ Salmon Lab น่าสนใจมาก เขาบอกว่า คุณภาพของภาพ ไม่จำเป็นต้องเนี้ยบมาก เพราะการใช้ Meme คือเรื่องของความดิบของเนื้อหา ในสไตล์โฮมวิดโอ และที่สำคัญคือต้องเร็ว ทันกระแส

Content by Platform

นอกจากนี้ สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ แต่ละ Platform ควรมีรูปแบบคอนเทนต์อย่างไร สามารถใช้ซ้ำหรือนำมาลงตามแพล็ตฟอร์มได้ทุกช่องทางหรือไม่

เช่นเดียวกับข้อมูลในหลายๆ งานวิจัย Salmon Lab ยืนยันว่าควรที่จะต้องแตกต่างกัน โดยที่แต่ละแพล็ตฟอร์มก็มีบุคลิกแตกต่างกันไป

  • Facebook – ตลก ดูฉลาด และอยู่ตลอดไป
  • Instagram – แซ่บได้มากขึ้น สตอรี่เดี๋ยวก็หาย
  • X (Twitterเดิม) – ต้องเป็น text อย่างเดียว และมีความ Anonymous คือระบุตัวไม่ได้

 

สรุป

สรุปการสร้างสรรค์คอนเทนต์สไตล์ Salmon Lab จะต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์ ผู้คน โดยคอยสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว พร้อมกับที่จะต้องเข้าใจ “ธรรมชาติ Meme” ด้วยว่ามันทำงานอย่างไร ซึ่งจะต้องทำผ่านการศึกษาดูงานกับชาวเน็ตให้มาก หรือจะกดเป็นสูตรได้ดังนี้

  1. ดู Meme เยอะๆ
  2. หัด “เชื่อมโยง” เยอะๆ
  3. บอกเจ้านายว่า “ไม่ใช่เรื่องของพี่” !!

 

สามารถติดตาม คอร์สอบรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับแวดวงเทคโนโลยี การตลาด โฆษณา และการประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีทั้ง Onsite และ Online ได้ที่ Digital IQ


  • 18
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!
CLOSE
CLOSE