เมื่อไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ทุกอย่างต้องดูดีมีสไตล์ หลายธุรกิจจึงต้องปรับตัวตามไปด้วย เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ ทุกอย่างยังต้องชิค เก๋ มีมุมถ่ายรูปอวดโลกโซเชียล เช่นเดียวกับเทรนด์การแต่งบ้านในยุคปัจจุบัน เฟอร์นิเจอร์จึงไม่ใช่เพียงตอบโจทย์แค่การใช้งาน แต่ยังต้องมีดีไซน์สวยโดดเด่นไม่ซ้ำใครประหนึ่งโชว์รูมเก๋ๆ ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวคุณ และนี่คือ 5 ความเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านต้องจับตามอง
1. เทรนด์เรื่อง “สี” งานนี้ต้องยกให้ Pantone
ดูจะเป็นธรรมเนียมประจำทุกปีเสียแล้ว ที่ทุกคนต้องรอคอยการประกาศเทรนด์สีประจำปี ของ Pantone ผู้นำด้านธุรกิจเกี่ยวกับสีและสิ่งพิมพ์รายใหญ่ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ที่ทุกวงการออกแบบต่างยอมรับในมาตรฐานสากลและความเป๊ะในด้านสีเจ้านี้
เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าในทุกๆ ปี บริษัท Pantone จะมีการวิเคราะห์สีในแต่ละปี สร้างสรรค์และประกาศสีที่ได้รับการยกย่องว่าควรเป็นเทรนด์ หรือมีความโดดเด่นประจำปี
ว่ากันว่าธรรมเนียมการคัดสรรสีประจำปีจนกลายเป็นที่ยอมรับมาตั้งแต่ปี 2000 ไม่เพียงแต่บ่งบอกความสำคัญของสีในวงการดีไซน์ หากเชื่อว่า “สี” ดังกล่าวที่ประกาศออกมานั้นยังสะท้อนถึงความต้องการที่แท้จริงของคนทั่วโลกในเวลานั้นด้วย
ซึ่งปรากฏการณ์นี้เองยังบอกกับเราว่า นี่คือสัญญาณที่สะท้อนถึงความเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านเทรนด์สีอย่างยากจะปฏิเสธของค่าย Pantone
โดยหลังออกมาประกาศเทรนด์สีประจำปี 2018 Ultra Violet 18-3838 ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ความฮือฮาจนเกิดกระแส “ม่วงมาแรงจริงไม่อิงนิยาย” ตั้งแต่ต้นปีทีเดียว ส่งผลให้บรรดานักออกแบบและผู้ผลิตสินค้าดีไซน์ส่วนใหญ่ ไปจนถึงสินค้าตกแต่งบ้านทุกแวดวงดีไซน์บนโลกนี้ ต่างพากันโฟกัสไปที่เจ้าเฉดสีม่วงลึกล้ำดุจจักรวาลอันไกลโพ้นที่ว่านี้ โดยพร้อมเพรียงกัน
Ultra Violet คือตัวแทนความมีจินตนาการ ความริเริ่มสร้างสรรค์ และความเฉลียวฉลาด ขณะเดียวกันก็สื่อสะท้อนถึงความลี้ลับ มีความทันสมัยก้าวล้ำ ทว่าเงียบสงบนิ่ง ดุจเดียวกับยามที่เรานึกถึงความมหัศจรรย์ของจักรวาล ในแง่การตกแต่งบ้าน เราสามารถนำสี Ultra Violet มาช่วยสร้างสรรค์และเพิ่มพลัง กับการตกแต่งบ้านได้ง่ายๆ เพียงลองมองหาเลือกหยิบเฟอร์นิเจอร์ในโทนสีดังกล่าวเพียงชิ้นใดชิ้นหนึ่งมาจัดวาง หรือตกแต่ง แต้มผนัง เท่านี้ก็สามารถช่วยเสริมจุดเด่นให้กับพื้นที่ต่างๆ ในบ้านมีชีวิตชีวาและทันสมัยได้แล้วอย่างลงตัว
2. Eco & DIY สองกระแสที่ยังคง “Never Die”
นับตั้งแต่เกิดเทรนด์ที่คนอยากลุกขึ้นมาแต่งบ้านด้วยตัวเอง ได้ทำให้ เรื่องของกระแส Do It Yourself หรือ D.I.Y. ยิ่งมาแรงแบบฉุดไม่อยู่ เพราะเทรนด์ดังกล่าวกระตุ้นให้คนสนใจอยากแต่งบ้านมากขึ้น และสนใจที่จะเลือกซื้อสินค้าตกแต่งบ้าน ใน“สไตล์” และ “รสนิยม” ที่ตนเองชื่นชอบ ที่ส่วนใหญ่เกิดจากการศึกษาเทรนด์การออกแบบจากสิ่งที่ได้พบเห็นด้วยตัวเองจากการเดินทาง ไปจนถึงกระแสออนไลน์และโลกโซเชียล ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมได้เป็นอย่างดี
เสน่ห์ของกระแส D.I.Y. คือไอเดียการแต่งบ้านด้วยตัวเอง ส่วนหนึ่งคือการที่เรามีโอกาสเป็นคนเลือก “ออกแบบ” และ “ลงมือ” ตกแต่งบ้านได้เอง โดยทั้งยังคัดสรร หรือแม้แต่ประดิษฐ์สิ่งละอันพันละน้อยเพื่อให้บ้านเราดูดีมากขึ้น อาจเป็นการนำของใกล้ตัวหรือของเก่าที่สามารถนำมาประยุกต์เป็นของตกแต่งบ้านได้สวยงาม สดใสในแบบที่คุณต้องการ เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร แต่กลับทำให้คุณรู้สึกดีโดยไม่ต้องทุ่มเงินมากมาย แต่ที่สำคัญกว่าอื่นใดคือความรู้สึกภูมิใจกับการได้เห็นผลงานสุดเท่ หรืออาจมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ทำให้เทรนด์ D.I.Y. กำลังเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้นในกลุ่มคนรักบ้านมายาวนาน และมีทีท่าว่าจะยังคงแรงไม่มีหยุด
อีกกระแสที่กำลังฮ็อตฮิตมาแรงไม่แพ้กัน ย่อมนึกถึง Eco Design งานออกแบบที่มีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต โดยมักมีการผสมกลมกลืน หรือผสมผสานการประยุกต์ใช้ธรรมชาติเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบและสร้างสรรค์ผลงาน งานส่วนใหญ่ในสไตล์อีโค่นั้นจึงมักมีส่วนผสมจากวัสดุธรรมชาติ หรือเน้นรูปทรงธรรมชาติ ภายใต้รูปลักษณ์ที่ความเรียบง่ายตามอิทธิพลของ Minimalist เพื่อลดกระบวนการและความซับซ้อน ให้คุณค่าความสำคัญทางจิตใจ ที่ช่วยผู้บริโภคผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดในชีวิตประจำวันในสไตล์ “Less is more”
ซึ่งเหตุปัจจัยที่ทำให้ Eco Design เป็นกระแสที่สอดแทรกอยู่ในงานออกแบบยุคใหม่ทุกสมัยนั้น เกิดจากการตระหนักของมนุษย์โลกที่มุ่งเน้นการออกแบบที่มีความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมและห่วงใยสิ่งแวดล้อมเป็นแกนหลักในการคิดการออกแบบนั่นเอง
สำหรับในปีนี้ เทรนด์ของการออกแบบตกแต่งภายใน จะสะท้อนภาพการผสมผสานของวัสดุชนิดต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงว่า จะต้องตกแต่งบ้านด้วยวัสดุเดียวกันเสมอไป ความสนุกสนานของการอยู่อาศัย จะมาจากการผสมผสานวัสดุที่หลากหลายทั้งไม้ เหล็ก สแตนเลส หินอ่อน หรือ กำมะหยี่ ผ่านการออกแบบอย่างมีชั้นเชิง แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายที่แสนจะลงตัว
3. คนแต่งบ้านยุคนี้ พึ่งพิงโซเชียลมีเดียเป็นผู้ช่วย
เมื่อโลกกำลังทรานสฟอร์มสู่ยุคดิจิทัล เวลาที่ใครสักคนต้องการหรือคิดจะตกแต่งบ้านให้ได้ดั่งใจ เดี๋ยวนี้เราคงไม่ต้องวิ่งไปไกลเพื่อหาอินทีเรียนักออกแบบ หรือเหมาบรรดาหนังสือแต่งบ้านหมดแผงมาหาแรงบันดาลใจเหมือนเช่นในอดีตอีกต่อไป
เพราะยุคนี้ ดูเหมือนโซเชียลมีเดียและอินเตอร์เน็ต จะเป็นช่องทางที่สะดวกทุกคนนึกถึง เวลาต้องการข้อมูลข่าวสาร เทรนด์การตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ระดับ World Class ทั่วทุกมุมโลกไปจนถึงโลคอล เรียกว่าทั้งหมดนิ้ต่างถูกรวบรวมอยู่ใน “อินเตอร์เน็ต” เสียแล้ว
ดังนั้นอย่าแปลกในหากวันนี้ เราจะพบว่าหนังสือแต่งบ้านได้แปรสภาพเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ เราสามารถพบเจอ สอบถามหรือแม้แต่พูดคุยกับนักตกแต่งหรือออกแบบบ้านที่ผันตัวมาให้คำปรึกษาทั้งแบบการให้ข้อมูลเบื้องต้น ไปจนถึงข้อมูล “เชิงลึก” ทั้งยังสามารถตอบคำถามกันสดๆ แบบเรียลไทม์ หรือจะหาข้อมูลสินค้าจากเว็บไซต์ของห้างร้านจำหน่ายสินค้าหรือศูนย์สรรพสินค้าตกแต่งบ้านที่พร้อมนำเสนอบนหน้าจอให้คุณเลือกชมได้แทบทุกแบรนด์
โดยเฉพาะนาทีนี้ ในแวดวงคนรักบ้าน และการออกแบบ หากใครไม่รู้จักแอพที่เป็นแหล่งรวมและแหล่งอ้างอิงการตกแต่งบ้านทุกรูปแบบสุดโด่งดังอย่าง Pinterest ก็แสดงว่าคุณกำลังตกยุคเสียแล้ว
ปัจจุบัน Pinterest กลายเปรียบเสมือนแคตตาล็อกออนไลน์ ที่รวบรวมทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการดีไซน์สุดฮิปแบบเบ็ดเสร็จ แค่คุณนึกอยากจะแต่งห้องน้ำ ห้องนอน หัองครัว หรืออยากได้แรงบันดาลใจมองหาเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่สุดอินเทรนด์ รับประกันได้ว่า Pinterest คือผู้ช่วยที่ดีที่ช่วยตอบโจทย์ ในทุกเรื่องของการดีไซน์ ตั้งแต่การแต่งตัว ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ การออกแบบตกแต่ง ที่สามารถเลือกได้ตามแบบที่ใช่และที่ชอบของทุกคน
4. คนแต่งบ้านสมัยใหม่ ไม่พลาดเดินงานแฟร์
หากคุณต้องการหาแรงบันดาลใจหรือไอเดียเจ๋งๆ ชนิดไม่มีวันตกยุค อีกทางเลือกหนึ่งที่คนแต่งบ้านยุคใหม่ไม่มีพลาดเลยทีเดียว คือการเดินสำรวจสินค้าและเทรนด์การออกแบบในงานแสดงสินค้าตกแต่งบ้าน ด้วยเชื่อว่านี่คือโอกาสสำคัญ ที่เราจะสามารถเห็นเทรนด์การออกแบบ หรือสินค้าดีไซน์ที่กำลังเป็นเทรนด์ยอมนิยมระดับโลกล่าสุด
หากเอ่ยถึงข้อดีของการเดินชมงานแสดงสินค้าฯ นั่นคือการรวบรวมทุกสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงความต้องการของเราเองในแบบ One Stop Service เพราะเรียกว่ามาที่เดียวจบ จนกระทั่งสามารถเลือกจับจองเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ถูกใจได้เลยในคราวเดียว แทนที่จะตระเวนตามร้านค้าหรือโมเดิร์นเทรดหลายๆ แห่ง
ล่าสุด เร็วๆ นี้ ที่ไม่อยากให้พลาดกับอีกงานมหกรรมด้านการออกแบบตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งเป็นอีกงานใหญ่ประจำปีที่คนรักการตกแต่งบ้านต้องไป นั่นคือ “Thailand International Furniture Expo 2018” หรือ TIF Expo 2018 อีกงานแสดงสินค้าที่จะเป็นครั้งสำคัญในรอบปีของการรวมตัวร้านค้า ผู้ผลิต นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทั่วไทย ที่มีคุณภาพระดับ World Class
สำหรับงาน TIF Expo 2018 ปีนี้ จะจัดขึ้นภายใต้แนวความคิด “The signature of living เป็นงานแสดงเฟอร์นิเจอร์คุณภาพส่งออก ที่รวบรวมผู้ผลิตชั้นนำของประเทศไทยมาไว้ในที่เดียวกัน โดยเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีการจัดงานแสดงเฟอร์นิเจอร์เพื่อการออกแบบตกแต่งภายในโดยเฉพาะ ภายในงานจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 100 ราย นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบที่หลากหลาย ตอบรับความต้องการของเหล่า Buyer และ ผู้บริโภคทุกระดับ ถือได้ว่าเป็นปีแรกของการรวมตัวของภาคเอกชนเพื่อจัดงานเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่และครบที่สุด บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร
หากเอ่ยถึงไฮไลท์สำคัญที่ผู้ชมจะได้จาก TIF Expo 2018 ในครั้งนี้ อันดับแรกคือการเจาะลึกเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์สำหรับการออกแบบภายในเป็นหลัก เพราะที่นี่จะรวบรวมทั้งงานเฟอร์นิเจอร์ นักออกแบบ และผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ เข้าไว้ในงานเดียวกัน แต่สำหรับใครที่รักและอยากได้ไอเดียดีๆ ในการแต่งบ้าน ที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต หรือสปา ก็ไม่ถือว่าผิดกติกา เพราะยังสามารถเข้ามาหาแรงบันดาลใจอันหลากหลายได้ สิ่งที่คุณไม่ควรพลาดคือสินค้าที่นำมาจัดแสดงจากการสร้างแรงบันดาลใจของเหล่าสถาปนิกและนักออกแบบในการสร้างสรรค์การตกแต่งด้วยไอเดียที่ไม่จำเจ
ในงานเราจึงจะได้เห็นเทรนด์สุดล้ำของระดับโลกที่มาเปิดโอกาสให้ได้อัพเดทกันรวมทั้งหมดในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น เทรนด์ Metallic ดีไซน์ที่กำลังถูกกล่าวถึง หรือเทรนด์สีของเฟอร์นิเจอร์ใหม่ล่าสุด ทั้งเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว หรือออฟฟิศ ก็หาได้จากที่นี่ ทั้งยัง ล้วนแต่เป็นสินค้ามีคุณภาพระดับพรีเมียม มาตรฐานส่งออกทั้งสิ้น
5. ดีไซเนอร์นักออกแบบไทยแรงระดับโลก
รู้หรือไม่ว่า อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ด้วยมูลค่าการส่งออกราว 3.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 3.14% ในปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน กลุ่ม CLMV จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ภาครัฐมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ พัฒนาสินค้าให้มีความแปลกใหม่ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานและนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถก้าวสู่เวทีการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมั่นคง พร้อมส่งเสริมนโยบายทางการตลาด ด้วยการจัดแสดงศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทย อันเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ของอาเซียน
ซึ่งอานิสงห์จากการเจาะตลาดส่งออกต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ของไทย มีประสบการณ์ทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศมาอย่างยาวนาน สินค้าออกแบบไทยสามารถรองรับความต้องการของตลาดในแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี และยังมีศักยภาพทั้งทางด้านการออกแบบ รู้จักยกระดับคุณภาพของสินค้าและฝีมือการผลิตต่อเนื่อง และนี่คือเหตุผลที่ทำไมงานดีไซน์ไทยจึงโกอินเตอร์ต่อเนื่อง
เพื่อสร้างโอกาสยั่งยืนในการผลักดันนักออกแบบไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน ในงาน TIF Expo 2018 นี้ จึงได้มีพื้นที่และเวทีของการสนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่มาโดยตลอด เช่นเดียวกับในปีนี้ที่ผู้ชมจะได้มีโอกาสเห็นฝีมือและผลงานของเหล่ากลุ่มดีไซน์เนอร์ไทยรุ่นใหม่ ที่ต่างได้นำผลงานการออกแบบของตนเองมาจัดแสดงและวางจำหน่ายกันในโซน Design Plant หรือ พื้นที่สำหรับนักดีไซน์หน้าใหม่ นอกจากนี้ใน โซน Young Designer Showcase ยังเป็นอีกโซนสุดฮิปที่รวบรวบแสดงผลงานของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ กว่า 10 สถาบันไว้ให้ได้ชม
ปิดท้ายด้วยแนะนำเทรนด์ใหม่มาแรงแห่งยุคนี้ หนึ่งในเทรนด์ที่น่าสนใจคือ แนวทางของโชว์รูม หรือการตกแต่งเพื่อโชว์เฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ ประดับตกแต่งเหมือนอยู่ในโชว์รูมเก๋ๆ สักแห่ง ปลุกชีวิตให้สดชื่นแบบไม่จำเจ สามารถปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายได้ตามต้องการที่เข้ากับยุคสมัยสไตล์คนเมือง และนับเป็นแนวทางการตกแต่งภายในที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ด้วยขนาดของที่อยู่อาศัยที่เล็กลง หรืออาจจะหมายถึงบ้านหลังที่ 2 ซึ่งเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้า พื้นที่อันจำกัดเป็นโจทย์ที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในเมือง แนวทางการออกแบบที่เน้นฟังก์ชั่นด้วยรูปลักษณ์ทันสมัย ปรับเปลี่ยนให้ใช้งานได้หลายรูปแบบ รวมถึงงานออกแบบสไตล์ Minimal ก็ถือเป็นอีกเทรนด์ที่ยังคงเป็นที่นิยมต่อไป
สำหรับบ้านหลังใหญ่ ซึ่งไม่มีข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ ปีนี้เทรนด์ของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่กำลังมาแรง ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมองว่าล้าสมัย แต่กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ก็จะกลับมาสร้างความน่าสนใจได้อีกครั้ง ด้วยความหรูหรา โอ่อ่าสง่างาม ยิ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์โบราณ ก็จะสร้างบรรยากาศที่คลาสสิกให้กับอารมณ์อันลุ่มลึกได้
นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของเทรนด์การตกแต่งภายในที่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่หากใครสนใจอยากสัมผัสเทรนด์ฮิตประจำปี หรือกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์หรือไอเดียการตกแต่งภายในบ้านที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ
ต้องไม่พลาดตามหาแรงบันดาลใจหรือไอเดียใหม่ๆ ให้กับตัวเองได้ในงาน Thailand International Furniture Expo 2018 (TIF Expo 2018) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 7- วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เจรจาธุรกิจ : วันพุธที่ 7 – วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561 (10.00 – 18.00 น.) จําหน่ายปลีก : วันศุกร์ที่ 9 – วันอาทิตย์ที 11 มีนาคม 2561 (10.00 – 21.00 น.)