หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้แก่ การท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยมีหลายธุรกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งแม้ว่าในช่วงนี้จะยังไม่สามารถทำธุรกิจได้เช่นในอดีต แต่ผลสำรวจจาก TCIC หรือ Thai-Chinese Intelligence Center ได้ทำแบบสำรวจกับคนจีนประมาณ 400 คน ข้อมูลมีที่สามารถให้เราได้เอามาปรับเปลี่ยนแก้ไขแผนธุรกิจ เพื่อรับมือกับนักท่องเที่ยวจีนล่วงหน้าได้เมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายแล้ว
ดังนั้น MarketingOops! China Market Insight EP.19 จึงชวนมาฟัง รายละเอียดเกี่ยวกับ ผลสำรวจที่ระบุว่า “ไทย” ยังเป็นอันดับ 1 ประเทศที่คนจีนจะต้องมาเที่ยวเมื่อจบโควิด-19 ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจอื่น แล้วสามารถนำไปปรับเปลี่ยนหรือปรับทิศทางให้เข้ากับธุรกิจของตัวเองได้
“การกักตัว” ปัจจัยเพื่อพิจารณาการเดินทางมาไทย
77% ของคนจีน บอกว่า จะมาเมืองไทยก็ต่อเมื่อ ยกเลิกการกักตัว ไม่ว่าจะในไทยหรือในจีน แสดงว่าต้องมี Bubble ระหว่างกัน โดยยกเลิกทั้งสองฝ่ายเท่านั้นก่อนจะเดินทางเข้ามา
23% บอกว่า กักตัวได้ แต่ต้องน้อยกว่า 7 วัน เพราะไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาทำมาหากินหรือว่าวันเที่ยวหมด
ทั้งนี้ ในกลุ่ม 77% ที่บอกว่าไม่มีการกักตัว จะเกิดอะไรขึ้น จะมาเมื่อไหร่ เขาจะค่อยๆ ทยอยมา โดย 30% บอกว่า ใน 1-3 เดือนมาแน่นอน อีก 28% บอกว่า 4-6 เดือน และ 36% บอกว่ามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป แปลว่าถ้าไม่มีการกักตัวแล้ว เราจะต้องรอถึง 1 ปีเลย ถึงจะได้เห็นการท่องเที่ยวกลับมาตามสภาพปกติ จำนวนเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ปัจจัยการฉีดวัคซีนของพลเมืองในประเทศ มีผลต่อการตัดสินใจ
ต่อมาประเด็นที่น่าสนใจเลย เขาบอกว่า จำนวนการฉีดวัคซีนในไทยมีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวจีน 93% บอกว่า เขาบอกว่า ตรงจุดนี้เขาดูเป็นหลักเลยในการพิจารณาว่าจะมาเมืองไทยหรือไม่ ก็เลยถามต่อว่าหากมากนี่จะมากน้อยแค่ไหน คือจะต้องฉีดวัคซีนเกินกี่คน ถึงจะเริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
33% บอกว่าต้องฉีดมากกว่า 70% ของประชากรในเมืองนั้นๆ หรือประเทศนั้นเลย แปลว่าถ้าเราจะ Bubble กับภูเก็ตเท่านั้น เราจะต้องเมคชัวร์ว่าในภูเก็ตฉีดมากกว่า 70% ซึ่งตรงกับทางกรมควบคุมโรคของประเทศไทยอยู่แล้ว
กลุ่มที่สองคือมีมากถึงกว่า 60% เลยที่บอกว่า ต้องฉีดมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ถึงจะเดินทางเข้ามาประเทศไทย
เพราะฉะนั้นทุกคนรีบไปฉีดกันโดยเฉพาะของ Sinovac เพราะว่าคนจีนเขาแนะนำและนิยม Sinovac มากที่สุด
“ไทย – กรุงเทพฯ” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของคนจีน
ต่อมาที่น่าสนใจและเป็นกำลังใจให้หลายๆ คนก็คือ ประเทศไทย ยังเป็นอันดับ 1 อยู่สำหรับประเทศที่คนจีนอยากจะมาท่องเที่ยวหลังจากโควิด-19 ตามมาด้วยญี่ปุ่น โดยเมืองไทยประมาณ 55% ญี่ปุ่นประมาณ 24% สิงคโปร์ 11% เกาหลี 5% ยุโรป 4% และอเมริกา 1%
เมืองไทยอยู่ในโพสิชั่นที่ดีมากๆ เลย ที่คนจีนอยากมาเที่ยว หลังจากโควิด-19 แต่ว่าเมืองไทยที่เขาอยากจะมามากที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นกรุงเทพฯ โดย 40% บอกมากรุงเทพฯ แน่นอน 34% บอกว่าเป็นภูเก็ต และ 12% บอกว่าเป็นพัทยา 10% เป็นเชียงใหม่ 3% เป็นสมุย เราต้องเมคชัวร์ว่านอกจากภูเก็ตแล้ว กรุงเทพฯ พยายามเปิดให้เร็วที่สุด Bubble ให้เร็วที่สุดเพราะว่า หลายๆ คนอยากจะมาเที่ยวในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นมีประเทศจีนด้วย แสดงว่าเราไม่ได้แข่งแค่ประเทศไทย แปลว่าอะไร ด้วยความที่คนจีนตอนนี้เขารู้สึกปลอดภัยในประเทศของเขาเอง เขาอยากไปเที่ยว “ไห่หนาน” เหมือนภูเก็ตบ้านเรา ซื้อ duty free ได้ด้วย ช้อปปิ้งตอนนี้บูมแบบโอ้โหตูมตามมากเลย ลองดูว่า ไห่หนานเป็นคู่แข่งดีๆ กับภูเก็ตเลย ต่อมาพวกฮ่องกงหรือมาเก๊าเขาก็อยากจะเที่ยวในประเทศก่อน โดย 51% ของคนทั้งหมดบอกว่า จะเที่ยวในประเทศก่อนจะมาเที่ยวต่างประเทศ
สัดส่วน ‘นักท่องเที่ยวแบบอิสระ’ เพิ่มขึ้นกว่าแบบทัวร์
ทีนี้เมื่อเขามา เขาจะมีพฤติกรรมในการเที่ยวเปลี่ยนไปอย่างไร ก่อนโควิดเราจะเห็นว่า นักท่องเที่ยวอิสระที่มาเที่ยวเองเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เมื่อก่อน ราวปี 2017 จะอยู่ที่ประมาณ 31% และทัวร์ประมาณ 70% หลังจากนั้นโตมาเป็น 50:50 เริ่มมีสัดส่วนที่มากกว่าทัวร์แล้ว ตอนนี้ผลสำรวจบอกมาว่า คนที่จะมาเที่ยวเองมีมากถึง 57% ส่วนอีก 43% จะมากับทัวร์ ดังนั้น เวลาเราทำแพ็กเก็จต่างๆ หรือว่าบริษัททัวร์ต้องดูแลให้ดีจะทำการปรับเปลี่ยนแก้ไขอย่างไร ให้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็น FIT (Free and Independent Traveler) มากขึ้น
ต่อมาก็สอบถามว่า จะมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือกลุ่มเล็ก หรือกลุ่มกลาง หรือกลุ่มเท่าเดิมหรือไม่ โดย 32% บอกว่าจะมา กลุ่มเท่าเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นเขาน่าจะมากับทัวร์หรือสมาชิกในครอบครัว หรือคนที่เป็นครอบครัวของเขาอยู่แล้ว แต่ 63% มากกว่าครึ่ง บอกว่าจะมาเที่ยวในกลุ่มที่เล็กลง เล็กลงกว่าเดิม เพราะว่าอาจจะกลัวเรื่องโควิด-19 หรือเพื่อความคล่องตัวมากขึ้น อีก 5% บอกว่ามาเที่ยวคนเดียวอยู่แล้ว
นี่คือข้อมูลจากทาง TCIC หรือ Thai-Chinese Intelligence Center ศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะไทย-จีน ที่ได้แชร์มา ถ้าใครอยากจะไปดูข้อมูลต้นฉบับ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ TCIC.info หวังว่าน่าจะเป็นข้อมูลใช้ในการปรับเปลี่ยนแผนทางธุรกิจหรือวางแผนทางการตลาดได้ นักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ถ้า Bubble เราไม่มีการกักตัว หรือมีการฉีดวัคซีนในเมืองนั้นๆ ซึ่งเข้าใจว่าตอนนี้ภูเก็ตพยายามทำ Bubble สำหรับหลายๆ ที่ ซึ่งสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ปีหนึ่งเกิน 8-10 ล้านคน หากจำไม่ผิด ซึ่งเป็นไปได้ว่าทั้งเกาะอาจจะเต็มไปด้วยคนจีนก็ได้ เราเองอยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยวอยู่แล้ว เราก็หวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาอย่างเร็วที่สุด ขอให้โควิด-19 หายไปเร็วๆ และก็เตรียมตัวกันให้ดี อดใจรอกันอีกนิดที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมากันในรอบหน้า และมั่นใจว่าจะบูมกว่าแต่ก่อนแน่นอน
สามารถติดตามรับฟัง Marketing Oops! Podcast
ผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ที่
