รู้จัก Meta AI เอไอตัวใหม่ ที่ฉุดหุ้น Meta พุ่งขึ้นหลังเปิดให้ใช้งานใน FB, IG, Messenger ในหลายประเทศ

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจาก Meta เปิดตัว Meta AI ในสหรัฐอเมริกาไปเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุด Mark Zuckerberg ออกมาประกาศอัพเกรด Meta AI ครั้งสำคัญและติดตั้ง Meta AI ให้ใช้งานในแอป Facebook, Massenger, Instagram และ WhatsApp ให้ใช้ได้ในหลายๆประเทศแล้ว

ที่น่าสนใจก็คือ Meta AI มีโมเดล Llama 3 ที่ทรงพลังอยู่เบื้องหลังซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะทำให้ Meta สามารถแข่งขันกับ ChatGPT ของ OpenAI และ Gemini ของ Google ได้เลยจนทำให้หุ้นของ Meta ถีบตัวขึ้นในทันที

Meta AI คืออะไร?

Meta AI คือ AI ที่ Meta ใช้เงินลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นของตัวเองโดยเวอร์ชั่นล่าสุดจะใช้โมเดล Llama 3 ที่เคยมีข่าวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า Meta ใช้โครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่มี GPU NVIDIA จำนวนหลายแสนตัวช่วยคำนวนโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง Artificial General Intelligence (AGI) ที่เปิดเป็นโอเพนซอร์สให้ทุกคนเข้าถึงได้

ส่วน Meta AI เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ Zuckerberg บอกว่าเป็น “ผู้ช่วย AI ที่ฉลาดที่สุดที่คุณสามารถใช้ได้อย่างเสรี” โดยเปิดให้ใช้ผ่าน search bar ของ 4 แอปพลิเคชั่นหลักของ Meta อย่าง Facebook, Massenger, Instagram และ WhatsApp นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้ผ่านเว็บไซต์ ai.meta.com ด้วย

อย่างไรก็ตามเวลานี้ Meta AI จะเปิดให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ โดยนอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังขยายไปสู่อีกหลายประเทศคือ ออสเตรเลีย แคนาดา กาน่า จาไมกา มาลาวี นิวซีแลนด์ ไนจีเรีย ปากีสถาน สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ อูกันดา แซมเบีย และซิมบับเว อย่างไรก็ตามยังไม่มีประเทศไทยในเวลานี้

ตอบคำถามได้พร้อมให้แหล่งอ้างอิงจาก Search Engine

ในบางประเทศที่ Meta เปิดให้ลองใช้งาน Meta AI ก็จะสามารถใช้งานหรือพูดคุยกับ Meta AI ได้เช่นใน Mesenger เราสามารถพูดคุยกับ Meta AI ได้โดยตรงรวมถึงใน Chat เพื่อถามคำถาม ขอสูตรอาหาร หรือขอคำแนะนำในเรื่องต่างๆได้เหมือนกับที่เราคุยกับ AI Chatbot ที่เราคุ้นเคยได้

สิ่งที่อัพเกรดเพิ่มขึ้นมาในครั้งนี้ก็คือ Meta AI นอกจากจะสามารถตอบคำถามได้แล้วยังสามารถให้แหล่งอ้างอิงจาก Search Engine อย่าง Google หรือ Bing เพื่อให้เราตรวจสอบความถูกต้องได้อีกด้วย

Generate ภาพเคลื่อนไหวก็ทำได้

ไม่ใช่แค่การพูดคุยให้ข้อมูลแต่ Meta AI ยังสามารถ Generate ภาพได้ด้วยการใช้ Prompt “imagine” ขึ้นต้นตามด้วยสิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้การอัพเกรดครั้งนี้ Meta เปิดเผยด้วยว่า Meta AI จะสามารถ Generate ภาพได้เร็วมากยิ่งขึ้น และไม่ใช่แค่ภาพนิ่งเท่านั้นแต่ยังสามารถทำให้ภาพเหล่านั้นเคลื่อนไหวด้วยการแปลงเป็นไฟล์ GIF ได้ด้วย และขณะที่พิมพ์คำสั่งยังสามารถมองเห็น AI โมดิฟายภาพเหล่านั้นได้แบบ Real-Time ด้วย

Meta AI จะอยู่กับเราทุกที่เมื่อต้องการ

ที่น่าสนใจก็คือ Meta พยายามจะทำให้ AI เข้าไปอยู่ในทุกแพลทฟอร์มและในทุกที่ เช่นใน Messenger ที่นอกจากเราจะสามารถคุยกับ Meta AI ได้แบบตัวต่อตัวแล้ว ใน Chat ที่เราคุยกับเพื่อนหรือใน Group Chat เรายังสามารถเรียก Meta AI มาถามสิ่งต่างๆหรือให้ Generate ภาพตาม Prompt ที่เราให้ไปได้

หรือใน Facebook เราจะสามารถถาม Meta AI ในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโพสต์ที่เราเห็นได้ด้วย เช่น หากในโพสต์เป็นภาพแสงเหนือ ใต้โพสต์นั้นก็จะมีปุ่มให้กดถาม Meta AI ได้ทันที เช่น จะดูแสดงเหนือได้ที่ประเทศไหน? หรือ ช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการดูแสงเหนือ? เป็นต้น และแน่นอนว่าสิ่งนี้จะมีให้ใน Instagram รวมไปถึงในอุปกรณ์ย่างแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban และ Meta Quest ด้วยเช่นกัน

จากนี้คงต้องติดตามกันดูต่อไปว่า ความสามารถของ Meta AI จะเทียบชั้น ChatGPT ของ OpenAI หรือ Gemini ของ Google ได้หรือไม่ คงต้องรอคนในประเทศที่เปิดให้ใช้งานก่อนได้ทดสอบดูก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความท้าทายของการเกิด Hallucinate หรืออาการหลอนและให้คำตอบผิดๆที่ก็เกิดขึ้นให้เห็นบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามพัฒนาการครั้งนี้นับเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้การแข่งขันพัฒนา AI ดุเดือดและพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นอีกแน่นอน


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE