ค้นคำตอบ…มีเซ็นทรัล ลาดพร้าวแล้ว ทำไม ‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ต้องสร้าง ‘The Central’ พหลโยธิน และ 2 โครงการนี้ต่างกันยังไง ?

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

The Central Phaholyothin

หากย้อนไปในอดีตหลายสิบปีก่อน “ย่านลาดพร้าว” เต็มไปด้วยทุ่งนาและพื้นที่เกษตรกรรมที่ห่างไกลจากตัวเมืองชั้นใน แต่ผ่านมากว่า 40 ปี ถึงวันนี้ ความเจริญของเมืองขยายออกไปยังทิศต่างๆ ของกรุงเทพฯ ทำให้แถบ “กรุงเทพฯ ตอนเหนือ” โดยเฉพาะลาดพร้าว – พหลโยธิน กลายเป็น ‘ย่าน’ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดการพัฒนาโครงการใหม่ หนึ่งในนั้นคือ The Central” พหลโยธิน ศูนย์การค้าระดับ Mega Project ของเซ็นทรัลพัฒนา หลังจากเมื่อ 45 ปีที่แล้ว ได้เข้ามาปลุกปั้นทำเลย่านนี้ ด้วยการสร้าง ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ โครงการ Mixed-use ครบวงจรแห่งแรกในกรุงเทพฯ

หลายคนอาจสงสัยว่าเซ็นทรัลพัฒนามีเซ็นทรัล ลาดพร้าวแล้ว ทำไมเซ็นทรัลพัฒนาต้องสร้าง The Central พหลโยธิน ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันไม่เกิน 300 เมตรเท่านั้น! และทั้งสองศูนย์การค้านี้แตกต่างกันอย่างไร มาค้นคำตอบกัน…

The Central Phaholyothin

 

1. เดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผน “Strategic Rings

การวางแผนสร้างศูนย์การค้าใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล เซ็นทรัลพัฒนาได้กำหนดเอาไว้ใน 3 วงแหวนยุทธศาสตร์ (3 Strategic Rings) ครอบคลุมทุกทิศของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย

  • Ring 1: ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ: โซนCBD (Central Business District) มีจุดศูนย์กลางคือ เซ็นทรัลเวิลด์ (Central World) ในย่านราชประสงค์, โซน Super Core CBD มีโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park) และย่าน New CBD เช่น เซ็นทรัล พระราม 9
  • Ring 2: เป็น Prime Location ในทิศต่างๆ ของกรุงเทพฯ: ครอบคลุมทุกทิศทั่วกรุงเทพฯทั้งโซนเหนือ, ตะวันตก, ตะวันตกเฉียงใต้, ตะวันออก และโซนใต้

เช่น กรุงเทพฯ โซนเหนือ มีเซ็นทรัล ลาดพร้าว และล่าสุดกับโครงการ ‘The Central พหลโยธิน’, กรุงเทพฯ ตะวันตก เช่น เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, กรุงเทพฯ ตะวันออก มีเซ็นทรัล อีสต์วิลล์

  • Ring 3: กรุงเทพฯรอบนอก และปริมณฑล (Outer Ring): ตอบรับการเติบโตของเมืองที่ขยายรอบนอกมากขึ้น เช่น เซ็นทรัล มหาชัย, เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล นครปฐม, เซ็นทรัล วิลเลจ 

“ย้อนกลับไป 40 กว่าปีที่แล้ว เซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นโครงการ Mixed-use แรกของเรา เป็นโครงการที่ shape บริษัทเรา และอุตสาหกรรมนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วันนี้ ย่านลาดพร้าว พหลโยธินเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการสร้าง ‘The Central’ ด้วยการทุ่มงบพัฒนากว่า 21,000 ล้านบาท และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จ Q4/2026 จะเข้ามา Synergy เซ็นทรัล ลาดพร้าว และสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญให้กับกรุงเทพฯ ตอนเหนือ” คุณชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวถึงการพัฒนาศูนย์การค้าโครงการใหม่

The Central Phaholyothin

 

2. ศักยภาพของโลเคชั่น

  • โครงการตั้งอยู่บนถนนสองสายหลัก คือ วิภาวดีรังสิต และ พหลโยธิน ปัจจุบันมีรถยนต์สัญจรผ่าน 337,000 คันต่อวัน
  • MRT สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสาร 15,600 คนต่อวัน และ BTS สายสีเขียวมีผู้โดยสาร 35,100 คนต่อวัน และคาดว่าในอนาคตหลังศูนย์เปิดคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 30%
  • ย่านนี้ยังเชื่อมไปสู่ สนามบินดอนเมืองที่ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารราว 30 ล้านคนต่อปี และอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านคน ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมขยายโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพตามแผนงานของรัฐ

เซ็นทรัลพัฒนาจึงเชื่อว่าด้วยศักยภาพของทำเล จะดึงคนไทยและต่างชาติเข้ามายังย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน

The Central Phaholyothin

 

3. พหลโยธินเป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง มีโอกาสเทียบชั้นย่านราชประสงค์

นอกจากย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน มีโครงสร้างคมนาคมหลัก ทั้ง BTS, MRT และถนนสายสำคัญ เป็นจุดเชื่อมต่อการใช้ชีวิต–การทำงาน–การเดินทาง ขณะเดียวกันยังเป็นโซนที่มี High-Density และ Demand คุณภาพสูง ทั้งที่อยู่อาศัยระดับกลาง–บน อาคารสำนักงาน โรงแรม และสถาบันการศึกษา

  • พหลโยธินช่วงต้นติด Top 10 ทำเลราคาที่ดินแพงที่สุดในไทย ปี 2025 โดยมีราคาประเมิน 9 ล้านบาทต่อตารางวา อัตราการเติบโตสูงถึง 5% การเติบโตมากกว่าย่านเพลินจิต-ชิดลม, สุขุมวิท, สีลม, สาทร
  • ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยที่แวดล้อมศูนย์การค้า The Central พหลโยธิน มีมากถึง 427 โครงการและมากกว่า 50% เป็นโครงการระดับ Upper Segment ขึ้นไป
  • โครงการที่อยู่อาศัยขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตเฉลี่ย 1% ต่อปี อีกทั้งช่วง 3 ปีข้างหน้า โครงการที่อยู่อาศัยใหม่จะแล้วเสร็จ ประมาณ 90 โครงการ หรือ 20,214 ยูนิต
  • อาคารสำนักงานที่ตั้งรอบโครงการมีถึง 52 แห่ง ในจำนวนนี้ 15 แห่งเป็น Grade A Office และมีแนวโน้มขยายตัวสู่ย่านรอบนอก โดยเฉพาะแนว North Corridor พหลโยธินและวิภาวดีรังสิต
  • โครงการแวดล้อมด้วยโรงเรียน 51 แห่ง, มหาวิทยาลัย 9 แห่ง และโรงแรม 41 แห่ง
  • จากฐานข้อมูลเซ็นทรัลพัฒนา พบว่ามีกลุ่มลูกค้า Wealth Segment กำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ ถึง 3 เท่า, ยอดขายผ่านต่อพื้นที่ (Sales per GLA) สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ถึง 45% และจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยถึง 2.19 เท่า
  • Catchment Area ในย่านนี้มีประชากรประมาณ 5 ล้านคน

“เราจะทรานส์ฟอร์มพหลโยธิน ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่ Shopping Mall อย่างเดียว แต่เป็น ‘Living Space’ ที่จะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการเติบโตใหม่ๆ” ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer ขยายความเพิ่มเติม

The Central Phaholyothin

 

4. เซ็นทรัล ลาดพร้าว พื้นที่ขายเต็มแล้ว ปั้น The Central พหลโยธิน ให้เป็น Flagship Landmark ของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ

ด้วยศักยภาพของทำเล, ความหนาแน่นของประชากรในย่านนี้ และกำลังซื้อสูง ทำให้แบรนด์ชั้นนำ และแบรนด์ใหม่ที่ต้องการเปิดช้อปใหม่ หรือขยายช้อปมายังโซนนี้ แต่ทุกวันนี้พื้นที่ขายในเซ็นทรัล ลาดพร้าวค่อนข้างเต็มแล้ว ดังนั้นเพื่อรองรับแบรนด์ที่ต้องการเปิดช้อปใหม่ “The Central” พหลโยธิน ที่มีพื้นที่ (GBA) 457,409 ตารางเมตร จึงตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้า หรือแบรนด์ที่ต้องการเปิด หรือขยายช้อปในโซนนี้ และเมื่อรวมขนาดพื้นที่กับเซ็นทรัล ลาดพร้าวแล้ว ศูนย์การค้าทั้งสองโครงการจะมีพื้นที่ใกล้เคียงกับเซ็นทรัลเวิลด์

“ปัจจุบันเซ็นทรัล ลาดพร้าว พื้นที่ขายไม่พอแล้ว ในขณะที่คู่ค้า/แบรนด์มีความต้องการอยากเปิด Flagship Store ในทำเลย่านนี้ เนื่องจากมีศักยภาพของกำลังซื้อสูง ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือยังไม่มี Flagship Store ของแบรนด์ระดับโลก

เพราะฉะนั้นการสร้าง The Central พหลโยธิน จะทำให้คู่ค้าของเรามีพื้นที่ในการเปิด Flagship Store ในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนืออย่างแน่นอน โดยเรามุ่งมั่นจะทำให้ที่นี่เป็น ‘The Landmark of Northern Bangkok’ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของย่านนี้ เช่นเดียวกับที่เซ็นทรัลเวิลด์ เป็น Flagship Landmark ของราชประสงค์” คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Leasing – Fashion & Luxury เล่าถึงการสร้างศูนย์การค้าใหม่ที่จะทำให้แบรนด์มีพื้นที่เปิดสโตร์

The Central Phaholyothin

 

5. ใช้พลัง Synergy “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” เจาะตลาดกลางบน The Central พหลโยธิน” แนวคิดเดียวกับเซ็นทรัลเวิลด์ เข้าถึงผู้บริโภคทุกเซ็กเมนต์ ทุกคอมมูนิตี้ของ Sub-Culture  

แม้ที่ตั้งของทั้งเซ็นทรัล ลาดพร้าว และ The Central พหลโยธิน ห่างกันไม่เกิน 300 เมตรเท่านั้น แต่เซ็นทรัลพัฒนามองว่าทั้งสองศูนย์การค้านี้ มี Positioning แตกต่างกัน โดยตัองการให้ศูนย์การค้าทั้ง 2 โครงการนี้ “Synergy” บนจุดเด่นที่แตกต่างกัน นั่นคือ

  • เซ็นทรัล ลาดพร้าว: อนาคตมีแผนจะปรับให้เจาะตลาดกลาง – บนมากขึ้น โดยเวลานี้อยู่ในกระบวนการเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ที่เป็นเจ้าของที่ดินนี้
Central Ladprao
Photo Credit: Jayz3t / Shutterstock.com
  • The Central พหลโยธิน: คอนเซ็ปต์เหมือนกับเซ็นทรัลเวิลด์ โดยจะสร้างให้เป็นพื้นที่เปิดรับคนรุ่นใหม่และคนทุกกลุ่ม รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ Urban Sport Community, Immersive Art Destination, Experiential Discovery Zone และ Family Entertainment อีกทั้งยังเป็น ‘Collective Social Ground’ พื้นที่ของทุกคน นอกจากนี้ พื้นที่การจัดงานยังรองรับ ‘Multi-Cultural Events’ และในส่วน ‘Convention Hall’ มีพื้นที่กว่า 6,700 ตารางเมตร สามารถรองรับคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ระดับโลก

The Central’ พหลโยธิน จะเป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่คือ Curated Community ของคนรุ่นใหม่และครอบครัวทุกเจเนอเรชัน ตอบรับเทรนด์การออกแบบแห่งอนาคต ทั้งงานออกแบบภายใน ด้วยคอนเซ็ปต์คือ The Central Playlist เปรียบเสมือนการ Shuffle เพลย์ลิสต์ของกรุงเทพฯ ที่จะเต็มไปด้วยความหลากหลายและการค้นพบใหม่ๆ เราได้ร่วมมือกับ World-Class Designers และ Local Leading Designers คุณจุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ Head of Business Development เสริม

The Central Phaholyothin

ทั้งโครงการมีการออกแบบ Indoor–Outdoor Seamless Journey มีไฮไลท์ อาทิ

  • Central Stage ที่เชื่อมโยง International Food ในชั้นบน กับ Street Food ในชั้นล่าง และจะมี Pop-Up Food Events
  • Market Hall ออกแบบพื้นที่ให้มีความ Dynamic ทำให้การมาแต่ละครั้งเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่
  • Waterfall Courtyard เป็นโอเอซิสที่เต็มไปด้วย Edible Garden ในแนวคิด From Farm to Table
  • Fashion Playlist มีตั้งแต่ Curated Fashion Houses ถึง Street Remix ที่เป็นศูนย์รวม New Age Sports Fashion
  • Weekender Playlist ที่สะท้อนความหลากหลายของลูกค้า
  • Creative Playlist ที่เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวและตอบโจทย์ Next Generation
  • งาน Architecture ใช้แนวคิด Collective Rhythms ที่มีการออกแบบที่หลากหลาย โดยแทรกรอยยิ้มหรือ Smile ไว้ในทุกๆ Design Element ส่วน Landscape Design มีคอนเซ็ปต์ที่เชื่อมโยงกันด้วยแนวคิดการโอบกอดหรือ Hug ให้ผู้คนรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ

The Central Phaholyothin

“ในแฟสแรกของ The Central พหลโยธิน เราทำศูนย์การค้าก่อน ส่วนอาคารสำนักงาน และโรงแรม เราขอศึกษา Supply – Demand ของตลาด และทำให้ศูนย์การค้าประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่ก่อน ซึ่งเรามั่นใจในศักยภาพ

The Central Phaholyothin

The Central Phaholyothin

The Central Phaholyothin

The Central Phaholyothin

The Central Phaholyothin

Central Pattana
ทีมผู้บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ