ขนาดกูเกิล ยังต้องหันมาทำ content marketing เพื่อเชิญชวนให้คนทั่วไปหันมาลองใช้บริการอันหลากหลายของคน เพราะเรื่องเทคโนโลยี บางทีไม่ได้มีพรหมแดนด้านวัย แต่กลับเป็นความคุ้นเคยเสียมากกว่า
ดังนั้นทีมงานการตลาดของกูเกิลจึงต้องขบคิดกับโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มหนึ่งต่างวัย และไลฟ์สไตล์ แต่สามารถหันมาทดลองใช้บริการเจ๋งๆ ของกูเกิล ในที่สุดก็เกิดเป็นโครงการชื่อ Google Weddings หรือการวางแผนแต่งงานด้วยบริการของกูเกิล เพราะงานแต่งงานมักจะต้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนจำนวนมากเสมอๆ
เริ่มตั้งแต่ประกาศว่าจะแต่งแล้วจ้ากับเพื่อนฝูง พ่อแม่ และญาติๆ ที่อาจจะอยู่ไกลกันผ่าน google hangout บริการคุยพร้อมกันหลายคนแบบเห็นหน้าได้ (ซึ่งถ้าอยากใช้งานฟังก์ชันนี้ก็ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม google hangout ลงเครื่องคอมฯ หรือมือถือก่อน)
จากนั้นก็ใช้แผนที่กูเกิล เพื่อส่งพิกัดให้ผู้เข้ามาร่วมงานเดินทางมายังงานได้อย่างสะดวก (ก็ต้องลงแอปฯ google maps
ส่วนฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเองก็ต้องพูดคุยวางแผนงบงานแต่งผ่านโปรแกรม Google Spreadsheet ที่สองคนสามารถแก้ไขไฟล์เดียวกันได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้แล้วยังใช้ความสามารถของความเป็นโซเชี่ยลในการสร้างหน้าเพจงานแต่งใน google+ หรือสร้างเว็บงานแต่งด้วยบริการสร้างเว็บฟรีๆ ของกูเกิล
และสุดท้ายคือ การแชร์ภาพหลุดๆ ตลอดงานแต่งในแอปฯ google photo ที่ถ่ายปั๊ปก็อัปขึ้นเว็บได้เลย!
ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นความพยายามของทีมการตลาดกูเกิลที่ต้องการคิดกิมมิกเก๋ๆ เพื่อดึงดูดให้คนที่ไม่เคยใช้บริการได้เห็นประโยชน์จากนวัตกรรมต่างๆ ที่พวกเขาสร้างขึ้นนั่นเอง
ใครสนใจวางแผนงานแต่งแบบไฮเทคก็ลองเดินตามรอยที่กูเกิลสร้างไว้ที่นี่