นอกจากจะเป็น Super Deal แห่งยุค สำหรับกรณีที่ SCB ขาย SCB Life ให้แก่ FWD จากอภิมหาดีลที่มีมูลค่าถึง 92,700 ล้านบาท การขยับตัวระหว่างธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทยและบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ของเอเชียครั้งนี้ ยังถูกกล่าวขานว่าเป็นความร่วมมือด้านประกันภัยที่มูลค่าสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ว่าแต่อะไรเป็นสาเหตุให้ 2 ยักษ์ใหญ่ เลือกควบรวมธุรกิจร่วมกัน และทิศทางจากนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร จะมีอะไรพลิกโฉมประวัติศาสตร์ธุรกิจประกันชีวิตหรือไม่…
เรื่องนี้ คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร SCB ระบุว่า ความร่วมมือกับ FWD เป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายมาสร้างมูลค่าแก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันทำในสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลลูกค้า SCB Life ให้ได้รับผลประโยชน์เหมือนเช่นเดิมในช่วงเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจนี้
“ขอยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนทีมผู้บริหาร หรือแม้แต่พนักงานจากดีลนี้ เพราะเป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจเท่านั้น ขั้นตอนการดำเนินงานหรือแม้แต่ผลประโยชน์ของลูกค้าจะยังคงเป็นเช่นเดิม ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นเอ็กซ์คลูชีฟดีลในธุรกิจประกันชีวิตที่จะเกิดขึ้นกับ FWD เพียงรายเดียว ส่วนความร่วมมือในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับรายอื่นนั้นถือเป็นความร่วมมือในระยะสั้น ซึ่งที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นดีลอื่นที่มีมูลค่าสูงเช่นนี้ ทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าจะทำให้ SCB Life สามารถตอบสนองลูกค้าได้ด้วยบริการที่ตรงใจโดย FWD”
เพราะ “ดิจิทัล” เป็นเรื่องของเครื่องมือ ไม่ใช่ “เป้าหมาย”
คุณอาทิตย์ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า เพราะ SCB มีเป้าหมายในการนำเสนอสินค้าไปสู่ผู้บริโภคอย่างเหมาะสม รวมถึงเป้าหมายของในการเป็น The Most Admired Bank ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด การนำดิจิทัลเข้ามาให้บริการด้วยรูปแบบใหม่ ๆ จึงเป็นการลด Pain Point ของผู้บริโภคเกี่ยวกับงานประกันชีวิตได้ดีขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เรื่องของดิจิทัลจึงเป็นเครื่องมือเท่านั้นไม่ใช่เป้าหมายของธุรกิจ
มั่นใจ “ปิดดีล” ได้ภายในปีนี้
ประเด็นของการซื้อ SCB Life ขณะนี้อยู่ในช่วงขออนุญาติจาก คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) จึงทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อใด แต่คาดการณ์ว่าจะสามารถเสร็จสิ้นภายในปี 2562 หรือสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน โดยดีลนี้จะทำให้ SCB สามารถเสนอขายประกันชีวิตของ FWD แก่ลูกค้าของธนาคารผ่านช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ของธนาคารได้เป็นเวลา 15 ปี
“ตอนนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตจาก คปภ. ทำให้เรายังบอกรายละเอียดไม่ได้มากนัก แต่การนำประกันชีวิตเข้ามาให้บริการแก่ลูกค้า ถือเป็นการเปลี่ยนบทบาทของเราซึ่งจะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ใช่บทบาทของโบรกเกอร์ เพราะความร่วมมือนี้จะทำให้เราได้ Resources ที่ต่อยอดสู่ธุรกิจด้านอื่นได้มากกว่าการขายประกันชีวิต หรือแม้แต่ต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ด้วยการเลือกซื้อธุรกิจที่สร้างรายได้มาให้บริการแก่ลูกค้าของเราต่อไป”
ขณะที่ คุณอารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ SCB กล่าวว่า ลูกค้าคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเรา ดังนั้น เป้าหมายสำคัญของพันธมิตรธุรกิจในครั้งนี้คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สร้างสรรค์ ตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาดิจิทัลโซลูชันสำหรับต่อยอดการลงทุนในดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่แก่ลูกค้าในอนาคต
เชื่อมั่นศักยภาพ “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ขุมทรัพย์ธุรกิจประกันชีวิต!
ส่วน คุณฮวิน ทัน ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม FWD กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มโอกาสขยายตัวทางธุรกิจ โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่ม FWD ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญในภูมิภาคนี้ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มประกันชีวิต ทั้งอินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ที่เป็นตลาดสำคัญ ประกอบกับการนำดิจิทัลเข้ามาเป็นเครื่องมือ ยิ่งถือเป็นการสร้างรูปแบบใหม่ ๆ ให้อุตสาหกรรมประกันชีวิตอีกทางหนึ่ง ประกอบกับ FWD มีเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า ภายใต้โอกาสของธุรกิจในประเทศไทยที่เชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
