Digital Transformation กระบวนการปรับทัศนคติของ Creative Agency เพื่อการทำงานในยุค Digital

  • 17
  •  
  •  
  •  
  •  

จากงานเทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity ครั้งที่ 62 ที่ผ่านมามีหลาย ๆ  อย่างที่สะท้อนถึงอุตสาหกรรมครีเอทีฟและโฆษณาใน APAC และจุดเปลี่ยนที่จะต้องเปลี่ยนไปในอนาคต ตามที่ผู้บริหาร Agency ในต่างประเทศได้ให้แนวคิดไว้  เพื่อการทำให้ชนะใจลูกค้า การเข้าใจผู้บริโภค และการสร้างชิ้นงานหรือวิธี ที่จะเอาชนะใจผู้บริโภคให้เกิดผลลัพท์ทางการตลาดมากขึ้น

จากในงานสัมมนา Cannes Lions International Festival of Creativity เช่นกัน ทาง Keith weed  CMO ของ Unilever และทาง Razorfish กับ Contagious ได้ออกมาแสดงความเห้นที่คล้าย ๆ กันในการทำงานของเอเจนซี่กัน ว่ากระบวนการทำงานของเอเจนซี่นั้นต้องเปลี่ยนไป ทั้งในการปรับตัวเพื่อรองรับกระบวนการที่ผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป นอกจากนี้กระบวนการทำงานในเอเจนซี่ในต่างประเทศนั้นก็มีลักษณธที่เปลี่ยนไปและปรับตัว ตามที่เคยได้กล่าวไว้ในบทความก่อน ๆ นั้นคือการมีผู้เชี่ยวชาญและคนที่เก่งในหลาย ๆ ด้านทรี่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้นั่งทำงานและทำงานร่วมกันในออฟฟิสกัน เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าให้ได้รอบด้านและได้งานที่มี Big Idea ออกมาที่จะเชื่อมทุกสื่อ หรือ ร้อยต่อทุก ๆ สื่อเข้าด้วยกัน

Screen Shot 2558-08-08 at 7.01.23 AM

ในปัจจุบันด้วยการที่สื่อออนไลน์นั้นมีผลอย่างมาก คนดูทีวีกันน้อยลง หรือดูโฆษณาทีวีกันน้อยลง พร้อม ๆ กับพฤติกรรมที่ผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายจากการมาของสื่อใหม่นี้ ทำให้เหล่า Advertising Agency นั้นตามโลกไม่ทันในยุคที่สื่อใหม่มา และทำให้คนที่เข้าใจในสื่อใหม่นี้ต่างเปิด Digital House และช่วงชิงเวลาและเม็ดเงินเหล่านี้มาแทน และเมื่อนับวัน Digital นั้นหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมากขึ้น ทำให้สื่อ Digital นั้นกลายเป็น Touch Point ที่สำคัญ ทั้งในการเข้าใจความคิดของคนกลุ่มนี้ และ การทำการตลาดกับคนกลุ่มนี้ได้ตรงใจ แถมเกิด Earn media จากคนกลุ่มนี้มากมาย

 Alexis Chiu
Alexis Chiu

ในเร็ว ๆ นี้ทาง Alexis Chiu Managing director ของ Saatchi & Saatchi South China ได้ประกาศที่จะเตรียมการทำ Digital Transformation ใน Creative Agency ตัวเอง เพื่อการรับมือกับโลก Digital ที่มีบทบาทมากขึ้น โดยการผสมคน Digital ลงในแผนกต่าง ๆ เพื่อให้แผนกต่าง ๆ นั้นสามารถทำเรื่อง Digital ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นแผนกครีเอทีฟหรือ Account service เองก็ตาม ก่อนหน้านั้นทาง Saatchi & Saatchi South China ได้ใช้วิธีการเพิ่มคน Digital เข้าไป คือเมื่อมีใครออกจากบริษัทไป ทาง Saatchi & Saatchi South China  จะหาคน Digital มาแทนทันที ซึ่งการปรับเปลี่ยนเช่นนี้ทำให้ Saatchi & Saatchi South China  ประสบความสำเร็จจนได้ Pitch งาน Digital มาได้จาก Digital House ดัง ๆ ได้

แต่ก็ยังปัญหาที่เกิดขึ้นใน Saatchi & Saatchi South China ซึ่งจะเป็นการเกิดขึ้นทุกที่เช่นกันนั้นคือการที่ความเห็นคน Traditional ไม่ตรงกับคน digital ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะบริหารและจัดการอย่างไร ให้ปัญหาภายในนี้จบลงอย่างรวเร็ว

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ผมได้มีโอกาสทั้งได้คุยกับร่วมงานกับ Advertising Agency ต่าง ๆ มา ในหลาย ๆ ที่ที่ได้คุยกันนั้น ในฝั่งคนทำงานด้านบริหาร Agency หรือครีเอทีฟรุ่นใหญ่ที่มีความสนใจด้านออนไลน์นั้น ต่างที่ต้องการเข้าใจกระบวนการคิดงานแบบ Digital เพื่อปรับใช้และเปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดงานความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทำให้เห็นแล้วว่าวงการ Advertising ในยุคนี้เห็นความสำคัญของงานที่เชื่อม Digital อย่างมาก และต้องการเข้าใจโลก Digital นี้มากขึ้น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจากประสบการณ์ที่ได้เจอคือเมื่อมาถึงกระบวนการทำงานนั้น กลับกลายยังมีกำแพงขวางกั้นกันอยู่ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นใน Saatchi & Saatchi South China เพราะบางทีคนในวงการ Advertsing  หรือ Creative Agency นั้นยังไม่เข้าใจเรื่อง Digital ดีและคิดว่า Digital หรือสื่ออื่นมี impact ไม่เท่ากับโฆษณา TVC และหลาย ๆ ที่ที่ทำโฆษณา TVC ออกมาก็คิดว่าโฆษณา TVC นั้นคือทุกอย่าง ที่สื่ออื่น ๆ นั้นต้องเอาไปใช้งานหรือไปทำให้ impact ต่อให้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว TVC นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งใน Communication และกระบวนการ Communication ในตอนนี้อาจจะต้องใช้สื่อหลาย ๆ สื่อด้วยกันเพื่อทำให้งานนั้น Effective ซึ่งบางทีแล้วสุดท้าย TVC อาจจะไม่จำเป็นหรือไม่ใช่สื่อหลักที่ต้องทุ่มเทให้เยอะ

ad

ในขณะเดียวกันในโลก Digital ในบางที่เอง ก็ยังมีกำแพงกับการทำงาน Creative Agency เนื่องจากยังไม่เข้าใจเรื่องการทำ Single minded หรือกระบวนการทำ การคิดงานของฝั่งครีเอทีฟที่ทำงาน Creative ต่าง ๆ  ทั้งให้การทำงานที่เชื่อมกันของทั้งฝั่ง Digital และ Traditional เองต่างมีกำแพงกั้นกันอยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้วกระบวนการทำงานในต่างประเทศที่เกิดขึ้นในต่างประเทศตอนนี้คือการทำงานร่วมกันตั้งแต่แรกของทั้ง Digital Department และ Creative Department เพื่อหา Big Idea ก่อนที่จะไปสร้างงาน Communication ต่าง ๆ ออกมา ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่างานของตัวเองนั้นจะไม่ใช่ทุกสิ่งหรือเป็นส่วนหลักของงาน แต่ Big Idea นั้นจะเป็นส่วนหลักของงาน ทำให้ทุก ๆ งานที่เกิดขึ้นจะเชื่อมถึงกันและอยู่ภายใต้แนวไอเดียกันตั้งแต่แรกในที่สุด ทั้ง Digital และ Traditional ต่างต้องปรับตัวเข้าหากันยอมรับในความคิดและกระบวนการทำงานเพื่อให้ได้งานที่ effective ที่สุด

ทั้งนี้จากการที่ผมได้มีประสบการณ์คุยกับ Creative Agency หลาย ๆ ที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และการประกาศสัญญาณจาก Creative Agency บางที่ ผมเห็นสัญญาณที่กำลังจะเริ่มเปลี่ยนแปลง ซึ่งในยุคนี้ใครปรับตัวได้ก่อนนั้นย่อมทำให้เกิดข้อได้เปรียบและสามารถแซงหน้าบริษัทอื่น ๆ ได้ทันที

 


  • 17
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ