สัมภาษณ์พิเศษ กับมุมมองและเบื้องหลังรางวัลและความสำเร็จในปี 2015 ของ BBDO Bangkok

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

bbdoHILI

ปี 2015 อาจเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ เอเจนซี่ใหญ่อย่าง BBDO Bangkok  เพราะไม่ว่าเวทีไหน ทั้งในบ้านหรือนอกบ้าน พวกเขาก็กวาดรางวัลต่างๆ มาหมดแล้วทั้งนั้น

“รางวัล” แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดสำหรับคนทำงานโฆษณา แต่รางวัลก็เป็นเครื่องหมายหนึ่งแทนความสำเร็จ แทนความหมายว่าความทุ่มเทที่คุณได้ลงแรงไปนั้นได้รับการการันตีแล้วว่ามาถึงจุดที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งรางวัลระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ได้แก่ Cannes Lion, Clio Awards รางวัลในระดับภูมิภาค ได้แก่ Adstars, SpikesAsia ขณะที่รางวัลในระดับประเทศ ได้แก่ Adman ซึ่งทั้งหมดนี้ในปี 2015BBDO ได้คว้ามาหมดแล้วทั้งสิ้นและเป็นเอเยนซี่ที่ได้รางวัลมากที่สุดในปีนี้

รางวัลที่มากมายทั้งในและนอกบ้าน ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า BBDO มีหลักหรือแนวความคิดอะไรในการทำงานที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และรับรางวัลมากมาย Marketing Oops! จึงถือโอกาสขอสัมภาษณ์แบบ exclusive กับ 2 บิ๊กบอส ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานและรางวัลมากมายของ BBDO ได้แก่ “สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ Chairman & Chief Creative BBDO Bangkok” และ “สมเกียรติ ลาภธนัญชัยวงศ์ CEO BBDO Bangkok” ให้เกียรติมาร่วมพูดคุยในทุกมุมมอง

มุมมองการทำงานในแบบ BBDO คืออะไร รางวัลคือสิ่งสำคัญที่สุดหรือไม่?

สุทธิศักดิ์– สำหรับ BBDO “งาน” สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด และเราเชื่อใน Great Work ผมทำงานมานานปีนี้เป็นปีที่ 30 เรียนตามตรงมันไม่ได้รู้สึกอะไรกับรางวัลมากนัก ถ้าเราทำงานโฆษณาก็น่าจะทำงานที่ดีประดับโลกไว้ เป็นสิ่งสำคัญในวิชาชีพของเรา ส่วนมันจะได้รางวัลหรือไม่นั้น งานดีมันก็จะได้รางวัลของมันเอง แล้วเราก็จะภาคภูมิใจกับงานที่เราทำทิ้งเอาไว้ คือเราต้องแน่ใจว่าเราไม่ได้ถีบมันออกมา ศัพท์โฆษณาเรียกว่า ‘ถีบงาน’ ออกมา อย่างนี้ไม่เอา

สมเกียรติ – ตามมอตโตของ BBDO คือ The Work The Work The Work” อย่างไรก็ตาม แบรนด์จะต้องแฮปปี้ด้วย คือถ้าเขาต้องการขายของของเขาก็ต้องขายได้ เพราะไม่เช่นนั้นงานดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ถ้าแบรนด์ไม่ได้อะไรเลย

bbdo8

เคล็ดลับความสำเร็จของ BBDO คืออะไร และทำอย่างไร?

สุทธิศักดิ์ – คือการทำงานหนัก เรามีมาตรฐานในการเซ็ทระดับบาร์ของการทำงาน คือ ต้องบาร์สูงไว้ก่อน คนที่อยู่ที่นี่คือเราจะจับเซ็ทบาร์เดียวเลย คือ “บาร์ระดับสูง” แล้วเราวัดระดับเดียวกับผลงานของต่างประเทศ ทำผลงานออกมาให้ดีเท่าเขาหรือไม่ก็ดีกว่า โดยเราจะรับฟีดข่าวจากทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกเพื่อดูว่าเขาทำอะไรกันไปบ้างแล้ว เราต้องดูให้หมดทุกวัน แต่ดูแล้วไม่เอามาใช้เลย เราดูเพื่อที่จะไม่ทำซ้ำกับคนอื่น

สมเกียรติ – ดูเสร็จแล้วพี่สุทก็จะฟีดข่าวและความเคลื่อนไหวเหล่านี้ให้พนักงาน น้องๆ ในบริษัทดูด้วย ทุกๆ เช้าตีห้า พี่สุทจะฟีดผลงานต่างๆ มาให้เราดูด้วยแล้ว เพราะเราทำงานกันเป็นทีม คือถ้าพี่สุทรู้อยู่คนเดียว เสพคนเดียว แต่คนอื่นไม่รู้ นี่ไม่ได้ เราต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน

สุทธิศักดิ์ (เสริม) – ตรงนี้พี่เช็คชื่อด้วยนะ พี่จะรู้ว่าใครบ้างยังไม่ได้ดู เราต้องดูแล้วให้ลูกน้องดูว่าตอนนี้เขาไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเราจะใช้เป็นแรงกดดันตัวเองก็ได้ หรือจะใช้เป็นแรงบันดาลใจก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ลูกน้องบอกว่า ‘พี่ใช้เป็นแรงกดดัน’ (หัวเราะ)

ทำไมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา BBDO ดูเก็บตัว กำลังเตรียมซุ่มทำอะไรไว้หรือไม่?

สุทธิศักดิ์ – ช่วงที่เงียบไปในช่วง 2-3 ปีหลังนั้น เป็นเพราะเราอยู่ในช่วงที่เรียกว่า Reinvent ตัวเองอยู่ การที่เราเป็น Creative Agency เราจะต้องปรับตัวตามยุคสมัย โดยเฉพาะงานในลักษณะขายไอเดียแบบนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป แพล็ทฟอร์มเปลี่ยนไป ทำให้เราเกิดความคิดว่าเราควรจะ Reinvent ตัวเอง เพื่อทำอะไรใหม่ๆ ออกมา ซึ่งเป็นที่มาของการเปิดตัวการทำงานภายใต้คอนเซ็ปต์ “New World Creative” หรือ “ความคิดโฆษณาโลกใหม่” ขึ้นมา

ในช่วงที่เรา Reinvent ตัวเองเราก็ใช้เวลาพอควรเพื่อปรับทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวิธีคิด วัฒนธรรมองค์กร เพื่อที่จะพัฒนาคนในองค์กร ตัวของผมเองก็ต้องพัฒนา ทุกคนทำหมด หรือแม้แต่ลูกค้าเราก็ชักชวนมาร่วมกับเราด้วย เพราะฉะนั้นมันก็ใช้เวลาอยู่นานพอควร เพื่อให้เราเป็น Creative Agency ในยุค Digital Era ให้ได้

bbdo7

ถ้ายังทำบริษัทโฆษณาอยู่แล้วยังต้องทำเหมือนเดิม ก็อย่าไปทำดีกว่า ไม่รู้จะทำไปทำไม ไม่ได้อยากได้โฆษณาแบบเดิมอีกแล้ว ไม่ได้รู้สึกภูมิใจอะไรกับมัน ต้องรูปแบบใหม่ไปเลยดีกว่า

สมเกียรติ– มันคือช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่เราก็ไม่ได้เงียบหาย ผลงานเราก็มีเรื่อยๆ คือนอกเหนือจากผลักดันองค์กรตัวเองแล้ว ก็อยากจะผลักดันอุตสาหกรรมโฆษณาไทยด้วย เราต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมโฆษณาไทยเราค่อนข้างเงียบไป ทั้งที่ในอดีตเราได้รับการยอมรับที่ดีมาก โดยเฉพาะ ในช่วง 2004-2006 เป็นช่วงที่หนังโฆษณาไทยบูมมาก แต่มาระยะหลังก็ค่อยๆ เบาลง เราก็เลยต้องหาทางกลับมาให้ได้

คอนเซ็ปต์ New World Creative คืออะไร?

สุทธิศักดิ์– คอนเซ็ปต์งานที่เรียกว่า New World Creative คือไม่ได้อยู่บนแพล็ทฟอร์มเก่าๆ เป็นทั้งคอนเท้นต์ เป็นทั้งดิจิทัล ทุกอย่างเลย เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นคนแรกที่ทำ แต่อาจจะเป็นสิ่งเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่เราหยิบมันมาสร้างสรรค์ใหม่ อย่างผลงานที่ทำภายใต้คอนเซ็ปต์ New World แล้วประสบความสำเร็จมากในปีนี้ได้แก่ Message from the lungs ซึ่งเราทำให้กับ สสส. ผลงานชิ้นนี้ก็กวาดมาหลายรางวัลทั้งระดับโลกและในบ้าน งานแอพพลิเคชั่นของ Samsung Memory Recaller ซึ่งช่วยผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะต้น จดจำคนใกล้ชิดได้ก็เช่นกัน หรืออย่าง The Other Side Project ซึ่งทำให้ Homepro ชิ้นนี้ก็นับเป็นงานแรกๆ ที่ทำในแนวคิดของ New World

bbdo9

สมเกียรติ – New World คือความเป็น ครีเอทีฟ เอเจนซี่ ที่ไม่ทำงานในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคมีวิธีการในการเสพสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป ดังนั้น เราก็จะบอกลูกค้าว่าเราจะทำบนแนวความคิดใหม่ เราจะช่วยคิดโซลูชั่นใหม่ๆ ให้กับลูกค้า

“ผมว่าปีนี้รางวัลที่เราได้เยอะแยะมากมาย มาจากคอนเซ็ปต์ New World แล้วเวลาที่เราไปพรีเซ็นต์ให้ลูกค้า พอบอกว่า New World ลูกค้าบอกโว้ว! เป็นอะไรที่ Sexy ดีจัง มันเริ่มได้รับการเปิดรับแล้ว พอมันได้รับการเปิดรับ ก็คงต้องต่อยอดและทำอะไรให้มันแข็งแรงมากขึ้นไปอีก และเชื่อว่าเป็นทางที่เอเจนซี่ โฆษณาต้องไปอยู่แล้ว”

นอกจากนี้ ในสิ่งที่เป็นคอนเซ็ปต์ New World ไอเดียที่ดีมันจะต้องมีประโยชน์กับคน หรือไปจุดประกายความคิดของคนให้ช่วยกันดูแลสังคมหรือทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน ที่สำคัญคือมันเป็นแนวคิดการสร้างแบรนด์ยุคนี้ คือธุรกิจไม่สามารถขายของอย่างเดียวได้แล้ว จะต้องทำอะไรให้สังคมได้ด้วย

ปรับตัวเข้ากับ ดิจิทัล-โซเชียล เน็ตเวิร์ค อย่างไร?

สมเกียรติ – เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่ายุคนี้เป็นยุคโซเชียล มีเดีย แต่อยู่ที่ว่าเรามองโซเชียล มีเดียเป็นอะไร โดย BBDO มองมันแค่ว่าเป็นมีเดียหนึ่ง ที่ทุกคนไปออกันตรงนั้น หน้าที่เราคือการสร้างคอนเท้นต์บางอย่าง แล้วใช้ Social Media เป็นแค่ช่องทางหนึ่งเท่านั้นเองbbdo5

สุทธิศักดิ์ ปัจจุบันสื่อมันเปิดกว้างมาก สื่อใหม่เพิ่มเข้ามามากขึ้น ยิ่งออนไลน์เข้ามาก็เป็นการเปิดกว้างให้เราใช้ไอเดียได้มากขึ้น จากนั้นก็เป็นการเริ่มเข้ามาของ Youtube, Facebook, Twitter และ Instagram เราเห็นแพล็ทฟอร์มใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายตอนนี้ ดังนั้น ในฐานะคนทำโฆษณาก็เห็นว่าจะต้องหาวิธีการสื่อสารใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ไม่ใช่แต่จะแออัดไปในสิ่งที่เขาทำกันอยู่ มันก็จะขาดความโดดเด่น สู้เราหาบ่ออื่นดีกว่าที่คนยังไม่ทำ คือเรามองหาทางเลือกใหม่ๆ อยู่เสมอให้กับแบรนด์หรือลูกค้าของเรา

“สิ่งสำคัญที่เหนือกว่าช่องทางในการสื่อสารต่างๆ ก็คือ Big Idea ที่จะสร้างอิมแพ็คในสังคมได้ คนอาจจะพูดถึงแต่ว่าต้องทำคอนเท้นต์ที่ดีๆ แต่ไม่ทราบว่ารู้หรือเปล่าว่าคอนเท้นต์ที่ดีจะต้องทำยังไง แล้วก็หันไปพูดถึงกันแต่ว่ามีสื่อไหน จะเล่นช่องทางไหนบ้าง มีมีเดียตัวไหนบ้างที่จะนำไปสู่คอนซูเมอร์ได้ แต่กลับลืมรากเหง้าที่แท้จริงว่า ถ้า Big Idea มันดีจริง ไม่ว่าจะไปอยู่ในช่องทางไหนก็ทำได้หมด แล้ว Game Change ทันที”

แล้ว ‘พรีเซ็นเตอร์’ สำหรับโฆษณา ยังจำเป็นหรือไม่?

สมเกียรติ – มันก็เป็นความท้าทายหนึ่ง คือถ้าโจทย์เป็นมาอย่างนั้นว่าจำเป็นจะต้องใช้พรีเซ็นเตอร์ หรือเซเลบิตี้ ก็ถือว่ามาช่วยให้เราได้เอ็กเซอร์ไซส์ความคิดของเราเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าแบรนด์ระบุมาเลยว่าจะต้องเป็นคนนั้นหรือคนนี้ ความคิดก็อาจจำกัดลงหรือแคบลง

“คือมันก็ไม่ต่างจากการตามๆ กันไปทำหนังดราม่านะ คือพอตอนนี้ใช้เซเลบิตี้แล้วดี คนก็เฮกันไปใช้กันหมด จนจำไม่ได้แล้วว่าแบรนด์ไหนกันแน่ เพราะหน้าเดียวกันไปหมด”

บทสรุปก็คือเราต้องหาวิธีใช้ในแบบสร้างสรรค์ได้ อย่างผลงานของวอลโวที่ดึงเอา ฌอง คล็อด แวน แดมม์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็ปรากฏว่าได้รางวัลใหญ่ โดยที่ตัวเซเลบิตี้เองก็ไม่ได้ขโมยซีนแบรนด์เลย กลายเป็นงานคลาสสิคของโลก ซึ่งเราเองก็น่าจะหาทางทำให้ได้แบบนี้

bbdo4

เทรนด์ในต่างประเทศตอนนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

สุทธิศักดิ์–ที่ Cannes Lions 2015 มันเป็นเทรนด์ของการ Utilize Data ซึ่งครีเอทีฟมาก เป็นการนำเอา data มาใช้อย่างสร้างสรรค์ แล้วยังมีการเปิด category ใหม่เรียก Creative Data คือการที่บริษัทโฆษณาเอา data ที่มีอยู่แล้วที่ปกติคนมองว่าเป็นขยะ เอากลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เป็นการดึงดาต้าเอามาใช้ประโยชน์ นี่คือสิ่งที่เมืองนอกทำกันอยู่

“ซึ่งตอนนี้ BBDO เราก็เริ่มทำอยู่บ้างเหมือนกัน แต่อยู่ในกระบวนการทำงาน ยังไม่ได้เอาออกมา และเมืองไทยก็ยังไม่มีใครทำเรื่องนี้เลย แต่ทั้งที่ญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรป เขาก็ทำออกมาเยอะแยะแล้ว ซึ่งรับรองว่าถ้าเราได้ลอนช์งานออกมาจะต้อง ปัง! อย่างแน่นอน”

มองอนาคตอุตสาหกรรมโฆษณาไทยอย่างไร?

สมเกียรติ – เราอยากให้เกิดความหลากหลายในความคิดสร้างสรรค์ คืออย่างที่เราเห็นว่าถ้าทุกคนทำหนังซึ้งน้ำตาแตกร้องไห้เนี่ย ไม่นานก็เบื่อ จริงๆ ตอนนี้ก็เบื่อแล้วนะ อย่างเมื่อก่อนที่เราหันไปทำโฆษณาแนวตลกเค้าก็จะเรียกเราว่า Thai Style Humor แต่ตอนนี้เขาเรียกเราใหม่ว่า Thai Style Drama แล้วหลายๆ ประเทศอย่างเพื่อนบ้านเขาก็พยายามจะทำแบบเรา คือเราก็มีซิกเนเจอร์ที่ดี ที่ชัดเจน แต่ของอะไรที่มันเยอะไป มันก็เฝือเร็ว ดังนั้น เราก็อยากเห็นอะไรที่มันแตกต่าง

แล้วยิ่งเราอยู่กับวัยรุ่นสมัยนี้ที่เสพอะไรที่ใหม่ๆ อยู่เสมอ เน้นความทันสมัย เทคโนโลยีต่างๆ แป๊ปเดียวข้อมูลจากเมืองนอกก็วิ่งเข้าสู่มือเขาแล้ว ในฐานะคนโฆษณาแล้วเราจะทำตามหลังเขาไม่ได้ เราควรจะต้องนำหน้าเขาก้าวหนึ่ง และถ้ามีแต่ BBDO ทำอยู่เจ้าเดียวก็อาจจะเดินช้าหน่อย ก็เลยอยากจะให้เพื่อนๆ ในวงการมาร่วมกันตรงนี้ด้วย

ได้ฟังทั้งมุมมอง ในความเป็น BBDO และยังได้ฟังในแง่ของคนโฆษณาที่อยู่ในวงการนี้มาอย่างยาวนาน คงพอจะทำให้เห็นภาพบ้างว่า ความมุ่งมั่นที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ ความกระตืนรือร้นในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เป็นแรงผลักดันทำให้ผลงานของ BBDO หลายชิ้นได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งสิ่งนี้สามารถนำมาใช้ได้กับคนทุกอาชีพ ดังนั้น หากคุณอยากจะประสบความสำเร็จในสายอาชีพของคุณเช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องทำงานโฆษณา ก็สามารถศึกษาจากพลังในการทำงาน ในแบบ “New World” ของ BBDO ได้

bbdo14

รางวัลของ BBDO Bangkok ในปี 2015

Cannes 2015
Gold Lion – Alex / Ramsay / Tylor : Throatsil campaign
Silver Lion – Beach / Mountain / Waterfall : THAI AIR ASIA DOMESTIC CAMPAIGN

Clio Awards 2015
Silver – Message from the Lungs

Adstars 2015
GrandPrix – Message from the Lungs

SpikesAsia 2015
Bronze –  Message from the Lungs และ Beach/Mountain/Waterfall : THAI AIR ASIA
Silver – Beach/Mountain/Waterfall : THAI AIR ASIA, BlindTaste TV และ The Painted Smile Project
Network Agency of The Year

Adman 2015
คว้ามาได้ทั้งหมด 53 รางวัล
Advertising Agency of the Year
Innovative Idea

(คลิกอ่านประกอบเพิ่มเติม ถอดรหัสเส้นทางความสำเร็จ BBDO BANGKOK ตั้งแต่ระดับ Global ถึง Local)

bbdo2

Copyright © MarketingOops.com


  •  
  •  
  •  
  •  
  •