ถ้าต้องทำ digital marketing แล้ว นักการตลาดทุกคนคงต้องเคยผ่านการทำสิ่งที่เรียกว่า Call To Action (CTA) กันมา ซึ่ง CTA ซึ่ง CTA นั้นสำคัญอย่างมากในการที่จะบอกกลุ่มเป้าหมายว่าจะให้ทำอะไรต่อไป ทำให้การสร้าง CTA ที่ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งใด ๆ โดยจะน้อยหรือมากหรือว่าจะเป็นการทำ A/B Testing ก็แล้วแต่ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับการทำการตลาดที่จะทำให้เกิดลูกค้า และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมาก
การเข้าใจการสร้าง CTA ที่ดีกลายเป็นเรื่องที่นักการตลาดในตอนนี้ต้องให้ความสนใจ รวมทั้งเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยเค้นประสิทธิภาพทางการตลาดจะเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างมากในการนำคู่แข่งในตลาดไป ทั้งนี้วันนี้ผมจึงเอา 7 เคล็ดลับในการสร้าง CTA ที่ได้ผลมาฝากสำหรับนักการตลาดทุกคนกัน
1. สร้างความแตกต่าง : เคล็ดลับอย่างแรกจะเล่นกับการมองและสมองของมนุษย์ โดยปกตินั้นสมองของมนุษย์โดยเฉพาะส่วนการมองนั้นจะทำการแยกแยะสิ่งที่ผิดปกติออกจากสิ่งปกติ ด้วยความแตกต่าง ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของสายตาไป ดังนั้นการออกแบบ CTA ที่ดีมีความแตกต่างในด้านสีกับเนื้อหาอื่น ๆ จะสามารถช่วยดึงดูดสายตาได้มาก โดยทำให้ CTA มีสีที่สดใส เมื่อเทียบกับเนื้อหาอื่น ๆ ที่มีสีเป็นสีพื้นขึ้นมา เช่นนี้จะสร้างจุดโฟกัสของสายตาขึ้นมาได้ทันที
2. ทำตัวเลือกให้จำกัด : สำหรับการสร้าง CTA ให้เกิดความสนใจและกระตุ้นให้เกิด Action ต่อไปได้อีกแบบคือการสร้างให้ตัวเลือกนั้นมีจำกัดอย่างมาก ทำให้การกระทำของผู้ใช้เว็บจะเกิดจำกัดอยู่ใน Call To Action ที่ต้องการทันที โดยปกตินั้น การมีตัวเลือกแค่ 1 เดียวในหน้านั้นจะเป็นอุดมคติมาก ๆ แต่ถ้ามี 2 ตัวเลือกขึ้นไป ถือว่ากำลังพอดี การมีตัวเลือกมากกว่า 3 ตัวเลือกในหน้าเดียวนั้นจะทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนอย่างมากว่าจะเลือกอะไรในการกระทำ ดังนั้นจำไว้ว่า One page one purpose ดีที่สุด
3. ช่วยผู้บริโภคด้วยภาพ : การมีอะไรที่ช่วยอำนวยความสะดวกผู้บริโภคให้ทำการสังเกตหรือมีโฟกัสนั้นจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นหรือสนใจในตัวเลือกนั้นได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นคนทำ CTA สามารถใช้ภาพต่าง ๆ มาช่วยในการตัดสินใจของผู้บริโภคใน CTA ได้ ไม่ว่าจะเป็น ขนาด ที่ใหญ่กว่าหรือความหนาของตัวอักษร หรือรูปร่าง เช่นรูปร่างกลมนั้นเรียกว่าความสนใจได้ดีกว่ารูปแบบสี่เหลี่ยม และสุดท้ายคือตำแหน่งของ CTA ก็มีผล โดยการมีพื้นที่ว่างโดยรอบ CTA นั้น ๆ ช่วยทำให้ผู้ใช้รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
4. ทำให้ตรงกับความต้องการ : Intent หรือความตั้งใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยถ้านักการตลาดรู้ความตั้งใจของผู้บริโภคนั้นก็สามารถสร้างการตลาดที่ตรงใจได้ทันที ดังนั้นการสร้าง CTA ที่ตรงกับความต้องการหรือความตั้งใจจะสร้างผลแตกต่างได้อย่างทันที โดยสังเกตได้จาก CTA ระหว่าง “Free Trial” กับ “Try it for Free”, “Submit” หรือจะใช้อารมณ์เป็นส่วนผสมใน CTA ก็ได้ด้วยการใช้ “Help us”
5. ใช้ Graphic : การใช้ Graphic นั้นก็มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ CTA นั้นมีความแตกต่างขึ้นมาจนได้ความสนใจกับผู้ใช้ทันที ซึ่งข้อความระวังของการใช้ CTA นี้คือภาพหรือ Graphic ของ Background นั้นต้องไม่เด่นจนแย่งซีนของ Graphic CTA ไป หรือกลืน CTA นั้นไปจนหมดทำให้ผู้ใช้นั้นหาไม่เจอ
6. ใช้หน้าคนมาเลย : สมองของมนุษย์นั้นมีความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ด้วยการที่จะทำการสนใจใบหน้าของมนุษย์เหนือสิ่งอื่นใดในสภาพแวดล้อม อาจจะเพราะเนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคมจึงมีสัญชาตญาณของการสื่อสารด้วยการมองหน้านี้ขึ้นมา พร้อมกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ต้องคอยสังเกตุอากับกริยาของใบหน้าเพื่อรู้ว่าจะสู้หรือหนี ทำให้นักการตลาดสามารถใช้สัญชาตญาณของมนุษย์นี้ในการมาดักทางของมนุษย์ด้วยการใช้ใบหน้ามาบอกเป็น CTA ที่ต้องการสื่อสารออกมา ยิ้งใช้ใบหน้ายิ้มหรือมีความสุขก็ยิ่งได้ผลอย่างมาก เพราะระบบจดจำใบหน้าของมนุษย์ในสมองนั้นมีส่วนใกล้กับสมองส่วนรับรู้อารมณ์ด้วย ทำให้การผูกใบหน้านั้นกับอารมณ์ส่งผลอย่างมากับการทำ CTA ขึ้นมาทันที
7. ทำให้ง่าย สั้น น่าเบื่อ : ในการทำ Call To Action นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างความตื่นเต้นตลอดเวลา หรือสร้าง Call To Action ในเชิงรุกเกินไป ด้วยการถามคำถามเชิงรุก เช่น การขอข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เกิดอาการตั้งการ์ดขึ้นมาทันทีในการที่จะทำตามต่อไป ดังนั้นการใช้ Call To Action ที่ดีก็ควรจะอยู่ในขอบเขตของการมีมารยาท หรือจะเอาให้ดีที่สุดคือ ทำให้เข้าใจง่ายเข้าไว้ สั้น ๆ กระชับได้ใจความ เพราะจะทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทันทีไม่ต้องตีความ พร้อมกับทำให้น่าเบื่อ หรือเรียบง่ายเข้าไว้ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้ลดการ์ดของตัวเองลงแล้วลองกด CTA นั้นดู
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับในการสร้าง CTA ที่นักการตลาดสามารถเอาไปปรับใช้ได้ทันที สำหรับใครที่ทำเว็บไซต์หรือ e-mail marketing อยู่ก็ลองนำไปใช้เผื่อการตลาดที่ทำจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาอย่างทันตาเห็น
