Vanity Metric ตัวเลขที่สวยหรู แต่ไม่รู้ทำแล้วได้อะไร

  • 83
  •  
  •  
  •  
  •  

การทำการตลาดนั้นสิ่งสำคัญในการลงมือทุกครั้งคือการวัดผลว่าสิ่งที่ทำไปนั้นได้ผลหรือไม่ได้ ซึ่งจะมีเครื่องมือวัดหรือตัวเลขค่าการวัดนั้นมากมาย แต่หลาย ๆ ครั้งที่เราไปชอบกับตัวเลขบางตัวที่ไม่ได้มีค่าต่อการตลาดหรือไม่ได้มีผลต่อธุรกิจเลย ซึ่งค่าวัดพวกนี้ในต่างประเทศเรียกว่า Vanity Metric ซึ่งบางครั้งการเอาประสิทธิภาพในการทำงานไปฝากไว้กับ Vanity Metric อาจจะมีผลทางธุรกิจเลย โดยเฉพาะในหมู่ Startup

vanity-metrics-800x400

Vanity Metric คืออะไร ค่าการวัดที่หลอกตัวเอง หรือเป็นค่าที่ไม่ได้ผลอะไรต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างแท้จริง แต่ดูแล้วสบายใจ หรืออาจจะได้หน้าสำหรับบางคน ซึ่งในความจริงแล้วค่าพวกนี้สามารถสร้างหรือปั้นแต่งขึ้นมาก็ได้ หรืออาจจะเป็นการอัดเม็ดเงินลงไปเพื่อให้ได้ค่าวัดบางอย่างกลับมา และบางทีถ้ามัวหลงกับค่าตัวเลขที่หลอกตัวเองไปเช่นนี้ก็อาจจะทำให้ธุรกิจนั้นล่มจมได้เลยทีเดียว เช่นในหมู่ Startup ที่ตอนนี้ทุกคนไปหลงกับ Startup ที่มี Valuation สูง ๆ ที่มีมูลค่ารวมเป็นพัน ๆ ล้านดอลลาร์ และคิดว่านี้ละคือ Startup ที่ยิ่งใหญ่   แต่หลายคนนั้นลืมไปว่า การทำธุรกิจคือการสร้างกำไรหรือมีรายได้ต่อธุรกิจเข้ามา ซึ่ง Valuation นั้นคือมูลค่าที่เกิดการลงทุน แต่ไม่ได้บ่งบอกถึงยอดรายได้ หรือยอดรายจ่าย และกำไรออกมา ซึ่งในศัพท์ทางธุรกิจเรียกว่า Bottom line หรือ P&L (Profit & loss) ซึ่งเป็นตัวชี้ว่าบริษัทนั้นมีศักยภาพที่จะอยู่รอดต่อไปหรือไม่

Screen-Shot-2014-01-07-at-1.33.21-PM

ในการทางการตลาดเองก็มีค่า Vanity Metrics มากมายซึ่ง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่นักการตลาดนั้นสนใจกระบวนการทำการตลาดผ่านช่องทาง Digital กันอย่างมาก กับการใช้ Social Media เพื่อการสื่อสารการตลาดหรือสร้างชุมขนออนไลน์ของตัวเองขึ้นมาอย่างมาก ก็มีค่า Vanity Metrics ที่คนนั้นคุ้นเคยกันดีมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของการมี การตลาดผ่านดิจิทัลกันเลยทีเดียววันนี้เราลองมาดูค่า Vanity Metrics ขั้นต้นในแต่ละค่ากันว่าวัดไปทำไม วัดแล้วได้อะไรในบางที

  1. ยอด Impression : Impression นั้นคือจำนวนการโหลดหน้าของเว็บนั้น ๆ หรือจำนวนครั้งของการโหลดโฆษณาบนเว็บนั้น แต่ความจริงนั้น Impression ก็เทียบได้กับ Eyeballs ของสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่นับแค่การเห็น (อ่านหรือยังก็ไม่รู้) ทั้งนี้ Impression นั้นก็เป็นเช่นกันคือหลาย ๆ ครั้งการโหลดหน้านั้นยังไม่มีคนเห็นหรือคนอ่านเลย หรือโหลดแล้วก็ยังไม่ทันเห็นก็ออกไป ทั้งนี้ค่าที่ควรสนใจควรจะเป็นเวลาที่คนที่เข้ามาในหน้านั้นใช้เวลาแค่ไหน หรือเข้าไปกี่หน้าและออกที่หน้าไหน มากกว่ามาโฟกัสที่จำนวนการเห็นที่บางทีอาจจะไม่เห็นเลย หรือกลายเป็นหน้าที่มีแต่หุ่นยนต์เข้ามาโหลดสร้าง Traffic เว็บไซต์
  2. ยอด Likes : ยอด Like เป็นอีกยอดหนึ่งที่เหล่าผู้บริหารระดับสูงที่ไม่เข้าใจเรื่องดิจิทัลนั้นชอบกัน เพราะจะได้เอายอด Likes นี้ไปทำ PR หรือเอาไปคุยข่มกันระหว่างเพื่อนฝูงหรือคู่แข่งได้ แต่รู้ไหมว่ายอด Like บางทีไม่ได้หมายถึงอะไรเลย เพราะยอด Likes จำนวนมากมายอาจจะไม่ใช่ลูกค้าคุณเลย สิ่งที่ควรสนใจคือจำนวนแฟนที่เป็นลูกค้าที่สนใจคุณจริง ๆ มากกว่า ว่ามีมากแค่ไหน เพราะจำนวนแฟนที่มีคุณภาพเหล่านี้จะสามารถเปลี่ยกลับมาเป็นยอดขายให้กับบริษัทหรือสินค้าคุณได้ต่อไป
  3. ยอด Views :  ยอด Views ตอนนี้ทุกคนฮิตมานับยอดวิวของการให้ดูวิดีโอว่ามีคนดูไปแล้วกี่คน แต่รู้ไหมว่ายอด Views นั้นไม่ต่างอะไรจากยอด Impression ที่บางทีคนนั้นดูผ่าน ๆ ไม่ได้สนใจว่าวิดีโอนั้นคืออะไร บางทีการนับวิวนั้นเริ่มนับที่ 3-5 วินาทีอีกตั้งหาก ซึ่งวิดีโอนั้นยังแทบไม่สื่อสารอะไรเลยและคนที่ดูก็ยังไม่รู้ว่าจะจำอะไรเลยจากวิดีโอนั้น สิ่งที่ควรสนใจจากยอดวิว คือการที่คนนั้นดูวิดีโอจบมากแค่ไหน และมีความเข้าใจในการสื่อสารของวิดีโอที่ทำมานั้นรึเปล่า หรือสามารถสร้างยอดการมาที่หน้าเว็บหรือหน้าสินค้าได้ไหม
  4. ยอด Download : คนทำแอพหรือบริษัทที่ทำแอพออกมานั้นมักจะสนใจที่ยอด Download ว่ามีคนนั้นดาว์นโหลดไปมากแค่ไหนแล้ว แต่ยอดดา์วนโหลดไปนั้นบางทีไม่ได้สื่ออะไรเลย เพราะหลายคนดาว์นโหลดไปทิ้งไว้แล้วไม่ได้ทำอะไรต่อทำให้ยอดที่เรียกว่า MAU (Monthly active users) นั้นไม่มี หรือที่ร้ายไปกว่านั้นคือดาว์นโหลดไปแล้วไม่มียอดรายได้กลับมา ซึ่งในความจริงแล้วสิ่งที่ควรสนใจมากกว่ายอดดาว์นโหลดคือจำนวน Active Users ที่เกิดขึ้นว่ามีแค่ไหน และจะสร้างให้เป็น Average revenue per user (ARPU) หรือยอดรายได้ต่อคนอย่างไรมากกว่า

ทั้งนี้ Vanity Metrics ยังมีอีกมากมายที่นักการตลาดไม่ได้สนใจ สนใจแต่ยอดตัวเลขที่ได้มา สิ่งที่นักการตลาดหรือคนทำเรื่องข้อมูลที่ดีพวกนี้ควรทำคือการขุดลึกเข้าไปในค่าแต่ละค่าว่ามีความหมายอย่างไร หรือจะใช้ค่าอะไรที่ควรวัดเป็นผลต่อธุรกิจจริง ๆ โดยเฉพาะค่าที่สามารถสื่อกลับมาเป็นรายได้ของสินค้าหรือบริษัทได้


  • 83
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ