นับว่าเป็นความพยายามของ JD.com ผู้ให้บริการ E-Commerce อันดับ 2 ของจีน ที่เป็นรองเพียงแค่ยักษ์ใหญ่ที่มาก่อนอย่าง Alibaba แต่พวกเขาก็ได้พยายามทำสิ่งหนึ่งที่ Alibaba ยังทำไม่สำเร็จ นั่นคือการบุกตลาดยุโรป โดยกลยุทธ์ที่ใช้คือ การมุ่งจับกลุ่มตลาดบน หรือผู้มีรายได้สูงแบบ Luxury
สำหรับแนวทางการบุกตลาดของ JD.com พวกเขาเห็นว่าเวลานี้รากฐานของการให้บริการด้าน E-Commerce ในจีนได้รับความนิยมอย่างสูงสุด และเข้าถึงผู้มีรายได้แทบทุกระดับ ดังนั้นการที่จะโกอินเตอร์ให้ได้ผล ก็ต้องพยายามยกระดับมูลค่าของแบรนด์ให้สูงยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา โดยในต้นปี 2018 ทางบริษัทได้ออกมาประกาศถึงความทะเยอทะยานที่ว่านี้ด้วยการเปิดสำนักงานใหญ่ภาคพื้นยุโรปที่กรุงปารีส
สำนักง่านที่ว่านี้ ได้อาศัยการตกลงทำสัญญาความร่วมมือกับเอเจนซี่ในฝรั่งเศส มีการวางแผนว่าจะให้บริการ E-Commerce สินค้าปลีกประเภทของแบรนด์เนมบน Platform ของ JD.com ซึ่งเท่ากับว่าจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงเป็นหลัก การจัดแต่งออฟฟิศก็สะท้อนถึงการยกระดับ Brand สำหรับตลาดบนโดยเฉพาะ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายกับสินค้าปลีกของฝรั่งเศสได้มากกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในสองปีต่อจากนี้
สำหรับ Platform สำหรับตลาดบนที่ว่านี้ก็คือ Toplife ซึ่งเท่ากับว่าได้กลายเป็น E-Commerce สำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Luxury สัญชาติจีน เป็นครั้งแรกบนแผ่นดินฝรั่งเศส
“เป้าหมายของ Toplife คือการจัดหาผลิตภัณฑ์แนว Luxury สำหรับซื้อขายบนโลกออนไลน์ พร้อมกับมอบประสบการณ์ให้ผู้ใช้บริการว่าได้จะรับความรู้สึกเหมือนการเดินเข้าไปช็อปปิ้งในร้านหรู” ประธานบริหารของ JD.com คือ Josh Gartner ได้กล่าวไว้ “ฝรั่งเศสได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความหรูหราอลังการ เต็มไปด้วยแบรนด์ชื่อดังระดับโลก เราอยากมอบประสบการณ์ให้คนจีนที่เข้ามาจับจ่ายทางออนไลน์ได้ราวกับเดินทางไปถึงฝรั่งเศสจริงๆ”
กล่าวกันว่าการเปิดตัวให้บริการของ Toplife เกี่ยวข้องกับการที่ประธานาธิบดีมาครอง เดินทางไปประเทศจีนเพื่อเข้าเยี่ยม สีจิ้นผิง ซึ่งนับเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีนและฝรั่งเศส ซึ่งน่าจะได้มีความร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ก็ยังต้องรอดูว่า Toplife จะไปถึงเป้าหมายภายในสองปีนี้ได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งทางบริษัทก็เล็งที่จะบุกไปยังตลาดที่อังกฤษต่อไป ซึ่งการกรุยทางของ JD.com ก็น่าจะส่งผลต่อแผนการบุกยุโรปของ Alibaba ที่กำลังเริ่มดำเนินการอีกครั้งเช่นกัน
นอกจากนี้ Toplife ยังได้กระตุ้นความสนใจและความร่วมมือกับแบรนด์เนมชื่อดังและศิลปิน กับดีไซน์เนอร์ระดับโลก ที่จะเข้าร่วมกับบริการนี้ด้วย ได้แก่ Armani, La perla, Derek Lam เป็นต้น
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com