5 กลยุทธ์ สร้างวัฒนธรรมการทำงานให้ “สนุก” แต่ยังคงประสิทธิภาพ

  • 13
  •  
  •  
  •  
  •  

funwork1

ถ้าถามทุกคนว่าต้องการทำงานในที่แบบไหน คงไม่มีใครบอกหรอกว่า อยากทำงานในห้องทำงานที่น่าเบื่อ กับผู้คนที่นั่งทำงานแบบหดหู่ สิ่งแวดล้อมน่าอึดอัด แน่นอนว่าทุกคนต้องอยากทำงานในที่ที่มีสภาพแวดล้อมดีๆ ทั้งนั้น การทำงานในสถานที่ๆ เรารู้สึกสนุก กระตือรือร้น มีความสุข น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในขณะเดียวกันการดำเนินธุรกิจก็ต้องการประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

แต่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่กลับคิดแค่ทางเดียวคือ ตัดหนทางที่จะทำให้เกิดความสนุกเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นกันอยู่หลายบริษัท (แต่ถ้าบริษัทของคุณเป็นไปในทางตรงกันข้ามโชคดีมากค่ะ)

อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้จะมีวิธีที่จะทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานเต็มไปด้วยเรื่อง “สนุก” แล้วยังทำให้ผลลัพธ์การทำงานออกมาดีได้ไปพร้อมกัน ลองทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ดู

Organize challenges.

การแข่งขันบนมิตรภาพมันให้ผลดีเสมอ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจแบ่งทีมการตลาดออกเป็น 2 ทีม โดยให้ทั้งสองทีมนั้นแข่งกันบนกิจกรรมอะไรสักอย่างโดยที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยแม้แต่น้อย เช่น แข่งตีปิงปอง ตีแบต หรือบาสเก็ตบอล เป็นต้น ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการทำงานเกิดความคึกครื้น แล้วยังส่งเสริมความรู้สึกของการแข่งขันไปในตัวได้ด้วย

Encourage breaks.

มีหลายออฟฟิศทั้งที่เจตนาและไม่เจตนาส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานโดยให้พนักงานทำงานแบบยาวๆ เท่าที่เป็นไปได้ เป็นกระบวนการคิดที่ว่าการทำงาน 12 ชั่วโมงโดยไม่ได้พักเบรกเลยจะทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าคนที่ทำงาน 8-9 ชั่วโมงและมีเบรก แต่ในความเป็นจริงแล้วการพักเบรก คือโอกาสอันดีที่จะช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานได้

การพักเบรกจะทำให้จิตใจคุณสดชื่นขึ้นอีกครั้ง และจะช่วยให้เกิดสมาธิโฟกัสในงานได้ดี แล้วยังมีประโยชน์ต่องานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย ดังนั้น ควรสนับสนุนให้พนักงานของคุณได้พักเบรกบ้าง แม้ว่าพวกเขาจะดูฟิตแค่ไหนก็ตาม

คำแนะนำคือ ลองจัดห้องสำหรับการพักเบรกโดยเฉพาะ และเติมเต็มห้องด้วยสิ่งของที่ทำให้พนักงานของคุณรู้สึกผ่อนคลาย รีแล็กซ์ เช่น อาจจะเป็นเครื่องชงกาแฟ อาหารว่าง โต๊ะปิงปอง หรือแม้แต่วิดีโอเกมส์ ก็ได้

Socialize offsite.

สถานที่ทำงานนอกเหนือจากเป็นที่ทำงานแล้ว ยังเป็นที่ๆ พนักงานได้ใช้เวลาร่วมกันในฐานะเพื่อนด้วย วิธีที่จะทำให้เกิดความผ่อนคลายในที่ทำงานมากขึ้น ก็คือการสร้างทีม และส่งเสริมโอกาสที่จะทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างแผนกให้มากขึ้น ซึ่งเรียกสิ่งนี้สังคมแบบ ‘ออฟไซต์’

หาโอกาสที่จะทำให้ทีมของคุณมีมื้อกลางวันแบบออฟไซต์ คือให้มีช่วงเวลากินข้าวและพูดคุยในบรรยากาศแบบสบายๆ แฮงก์เอาท์เบาๆ ในมื้อกลางวัน พร้อมกับสนับสนุนในการมีกิจกรรมแบบออฟไซต์ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่นอกเหนือจากงาน เช่น การจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวที่สวนหลังบ้าน เป็นต้น

แม้พนักงานในออฟฟิศอาจจะไม่ใช่เพื่อนซี้กันไปหมดทุกคน แต่ถ้าคุณสามารถพาเขาออกมาจากออฟฟิศบ้าง ได้ทำความรู้จักพูดคุยกันในเรื่องอื่นๆ ในแบบส่วนตัวบ้าง ทีมก็จะทำงานร่วมกันดีขึ้นและสนุกมากขึ้นอีกด้วย

Celebrate achievements.

ออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีวิธีจัดงานเพื่อให้จดจำถึงการบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายต่างๆ ของบริษัท เช่น การขึ้นโบนัส ขึ้นเงินเดือน การเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น เมื่อไหร่ก็ตามที่บริษัทมีเหตุการณ์เหล่านี้ คุณควรจะสนับสนุนลูกทีมให้เข้าร่วมเฉลิมฉลองด้วยทันที เช่น เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน หรือมอบรางวัลต่างๆ เป็นการให้กำลังใจในการทำงานหนัก เสียเวลาและเสียเงินเพียงเล็กน้อยใส่ใจในเรื่องนี้ แล้วคุณจะได้ความรู้สึกดีๆ และสิ่งดีๆ ตอบแทนกลับมาจากพนักงานของคุณด้วยการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพอย่างคุ้มค่า

Focus on productivity, not schedules.

สุดท้าย วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานที่มีประสิทธิภาพก็คือการให้กำลังใจ ไม่ใช่การจัดสรรเวลาทำงานแบบเคร่งครัด กฎต้องเป็นกฎ ยืดหยุ่นกับพนักงานของคุณบ้างตามความเหมาะสม เช่น อนุญาตให้ทำงานที่บ้านได้ในกรณีฉุกเฉิน เข้าสายได้เมื่อมีเหตุจำเป็น หรือให้โอกาสพักนานๆ ได้บ้างเป็นบางคราว เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าบรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างผ่อนคลาย แม้ในบางครั้งอาจจะทำงานได้น้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น แต่ระยะยาวการที่เราแสดงความยืดหยุ่นนี้จะทำให้พนักงานเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับตัวเขา ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะตอบแทนมาเป็นการทำงานอย่างทุ่มเทของพนักงานเองโดยที่คุณไม่ต้องร้องขอ

ถ้าคุณได้ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ สร้างบรรยากาศที่ดีน่าอยู่ น่าทำงานให้เกิดขึ้นภายในบริษัท ในเวลาไม่ช้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด พนักงานจะรู้สึกผ่อนคลาย มีความสนุก และสนุกกับการทำงานทุกวัน แล้วสุดท้ายมันก็จะย้อนกลับมาเป็นผลกำไรที่ดีต่อบริษัทในที่สุด.

แหล่งที่มา 


  • 13
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!
CLOSE
CLOSE