Facebook เจอวิกฤตหลังทำการทดลองเล่นตลกกับ “อารมณ์” ของผู้ใช้

  • 91
  •  
  •  
  •  
  •  

FB87707A

พี่มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กของเรางานเข้าอีกครั้ง หลังจากเผยผลทดลองเกี่ยวกับอารมณ์ของผู้ใช้บนโซเชียลเนตเวิร์กเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้ พร้อมกับข้อหา “เล่นตลก” กับความรู้สึกของคนอืน

ล่าสุด Adam D.I. Kramer หนึ่งในทีมวิจัยโพสต์ข้อความลงในโพสต์อย่างเป็นทางการของ Facebook ระบุเหตุผลของการวิจัยว่า เหตุผลที่เราทำการทดลองนี้ขึ้นมาเพราะเราใส่ใจกับความรู้สึกของผู้ใช้มากต่างหากล่ะ!

“พวกเราพยายามสำรวจว่าความกังวลที่เกิดจากการเห็นเพื่อนโพสต์หรืออัพเดทสเตตัสเชิงลบนั้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจพวกเขาจริงหรือเปล่า? หากจริงพวกเราก็สามารถปรับเปลี่ยนมันได้เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของคุณ ในขณะเดียวกันเราอยากพิสูจน์ว่าการอ่านคอมเมนต์เชิงลบเยอะๆ จะทำให้พวกเขาอยากเลิกเล่น Facebook หรือเปล่า?” Kramer กล่าวและว่า เขาขอยืนยันว่าไม่มีการ hide โพสต์อันไหนของผู้ใช้ เขาเพียงปรับเปลี่ยน statistic ของการ feed ข่าวเท่านั้น โพสต์ของเพื่อนๆ คุณยังอยู่เหมือนเดิม

Facebook เผยผลทดลองอะไรเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา?

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Facebook ร่วมกับทีมนักวิจัยด้านสังคมวิทยาจาก Cornell University, University of California ใน San Francisco เพื่อทำการทดลองว่าอารมณ์ที่ผู้ใช้ตอบสนองต่อโพสต์หรือสเตตัสอัพเดทนั้นจะ “แพร่กระจาย” ไปยังเพื่อนๆ ของพวกเขาหรือไม่?

ทีมสุ่มเลือกแอคเคาท์ Facebook กว่า 6.89 แสนแอคเคาท์จากกลุ่มผู้ใช้กว่า 1.3 พันล้านคน และลองใส่โพสต์ลวงลงใน News Feeds ของพวกเขา ผู้ถูกทดลองบางคนถูกลดจำนวนโพสต์ด้านบวกบน feed ของพวกเขา ขณะที่ผู้ถูกทดลองบางกลุ่มถูกลด feed ที่เป็นข่าวด้านลบลง

ทีมสำรวจพบว่าผู้ที่ถูกลดข่าวด้านบวกมีแนวโน้มจะใช้คำเชิงลบมากขึ้น ขณะที่ผู้ใช้ที่ถูกลดข่าวเชิงลบจะมีแนวโน้มใช้คำเชิงบวกมากขึ้น (คือพวกเขามองโลกในแง่ดีหรือร้ายมากขึ้นนั้นเอง) ขณะที่ทางด้านผลของการ “แพร่ระบาด” ทีมพบว่า ผู้ใช้ที่เห็นเพื่อนโพสต์ข้อความเชิงบวกก็จะโพสต์ความเห็นในเชิงบวกตามไปด้วย ขัดแย้งกับการทดลองก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่าโพสต์เชิงบวกจะกระตุ้นให้เพื่อนๆ มีความเห็นเชิงลบแทน

นอกจากนี้ พวกเขายังระบุว่าการที่เราติดต่อกับคนที่ “มีความสุขมากๆ” จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขตามไปด้วย แต่หากเขาไม่มีความสุขผลก็จะออกมาตรงกันข้าม

Source


  • 91
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง