AWC ประกาศความพร้อม รับ ‘ท่องเที่ยวไทย’ Come back

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

AWC ประกาศความพร้อม รับธุรกิจท่องเที่ยวกำลังจะกลับมาสดใส โดยเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และชัดเจนมากขึ้นจากการประกาศเปิดประเทศเมื่อ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

“การท่องเที่ยวของไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เพียงแต่รอเวลา เพราะไทยเป็น world destination มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งของภูมิภาค มีอาหารเลื่องชื่อ และมีมาตรฐานธุรกิจการบริการด้านการโรงแรมระดับสากล ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการกลับมาเยือนหลังจากสถานการณ์ดีขึ้น” วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด(มหาชน) กล่าว

สัญญาณบวกของภาคการท่องเที่ยวไทยได้เริ่มเห็นตั้งแต่ตุลาคม 2564 และชัดเจนมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กับการเปิดประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต ซึ่งเปรียบเสมือนประตูด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยมีตัวเลขของอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 เท่า รวมถึงแพ็คเกจ Test & Rest SHA+ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ให้บริการที่พักพร้อมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ขณะที่ช่วงต้นปีหน้า เชื่อว่า กำลังซื้อจากกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติจะกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงที่เริ่มเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกๆ รวมถึงงานในรูปแบบที่การประชุมออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้ เช่น งานแต่งงาน งานสัมมนารวมทีมสร้างพลังองค์กรและธุรกิจ ฯลฯ ที่ได้เห็นยอดคอนเฟิร์มการจัดงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ AWC นอกจากโรงแรมทั้ง 18 แห่ง ณ ตอนนี้ได้เปิดโรงแรมแห่งที่ 19 นั่นคือ Courtyard By Marriott Phuket Town ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต หนึ่งใน Top Destination ของโลก ขนาด 248 ห้องพักที่บริหารโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เครือโรงแรมระดับโลก สอดคล้องกับกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจของ AWC ที่มุ่งสร้างเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของโลกและพัฒนาภาพรวมของธุรกิจการบริการและการท่องเที่ยวในอนาคต รวมถึงส่งเสริมความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในภาพรวม

ขณะที่ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงภาพรวมและผลตอบรับหลังการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ อัตราการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ย 2,000-3,000 คน/วัน

โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากสุดได้แก่ สหรัฐอเมริกา รองลงมา คือ เยอรมนี อังกฤษ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน

สำหรับในปี 2564 ททท. เชื่อว่า ไทยจะสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 625,700 ล้านบาท และจะบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในปี 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 1,938,034 ล้านบาท ด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ 160 ล้าน คน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ 18 ล้านคน


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE