5 กลยุทธ์ “AIS” เร่งสปีดทิ้งห่างคู่แข่ง รับเทรนด์คนไทยใช้เน็ตมือถือพุ่ง 8.4 GB ต่อเดือน!

  • 50
  •  
  •  
  •  
  •  

AIS_cover

พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตในไทย เติบโตอย่างรวดเร็ว ยิ่งในยุค “Mobile First” ที่เราทุกคนพกโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา ส่งผลให้อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง จากปี 2558 อยู่ที่ 3.8 GB ต่อเดือน ขณะที่ปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 7.3 GB ต่อเดือน และเมื่อไตรมาส 1 ปีนี้ ขยับขึ้นเป็น 8.4 GB ต่อเดือน และถ้าเป็นกลุ่ม Heavy User อัตราการใช้เน็ตมือถือ ไม่ต่ำกว่า 10 – 15 GB ต่อเดือน !!

ยิ่งคนไทยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมากขึ้นเท่าไร นั่นเท่ากับเป็น “โอกาส” มหาศาลให้กับผู้ให้บริการโอเปอเรเตอร์ ที่ปัจจุบันไม่ได้แข่งกันแค่การมีเครือข่ายแรงสุด เร็วสุด ครอบคลุมทั่วไทยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้าง “Business Ecosystem” ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในด้านต่างๆ เช่น ด้านความบันเทิง การให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในบ้าน รวมไปถึงการเป็น Payment Gateway

“AIS” ในฐานะเป็นผู้นำตลาด ไม่ยอมปล่อยโอกาสมหาศาลนี้อย่างแน่นอน ได้งัด 5 กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม

1. อัพเกรดเครือข่ายเป็น “AIS NEXT G” ที่ควบรวมความเร็วระหว่าง “4G” และ “AIS Super WiFi” พร้อมขยายสู่ลูกค้า Mass ทั่วไทย

“AIS” ใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนาเทคโนโลยี NEXT G จากนั้นได้เปิดตัวให้บริการเมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มจากการจับมือกับ “Samsung” ในตระกูล Galaxy S7 , S7edge , S8 และ S8+ ในการติดตั้ง NEXT G ในตัวเครื่อง แต่ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียม จึงทำให้สเต็ปแรกของเทคโนโลยี “AIS NEXT G” จึงมีผู้ใช้ในวงจำกัด

เพื่อให้เทคโนโลยีเข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง ในปีนี้กลยุทธ์ใหญ่ของ “AIS” คือ การขยายฐานผู้ใช้เครือข่าย AIS NEXT G สู่ตลาดแมสทั่วประเทศ ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “NEXT G” ที่เปิดให้สมาร์ทโฟน Android ที่รองรับเวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป ที่ปัจจุบันมีกว่า 15 ล้านเครื่อง สามารถดาวน์โหลดเพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าว และสมัครแพ็กเกจใช้งานได้ทันที

ความน่าสนใจของการขยายฐานไปยังตลาดแมส บ่งบอกได้ว่าปัจจุบันคนไทยเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก

Resize AIS NEXT G_01

ในงานสัมมนา “GroupM Focal 2018” เผยรายงานพฤติกรรมผู้บริโภค หนึ่งในกลุ่มที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง คือ กลุ่ม “New Internet User” เป็นผู้บริโภคที่ในอดีตไม่ได้ใช้เทคโนโลยี หรือไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีมากนัก โดยกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคที่เป็น New Internet User คือ “กลุ่มผู้สูงวัย”

เช่น โทรศัพท์มือถือ เมื่อก่อนผู้บริโภคกลุ่มนี้ใช้ฟีเจอร์โฟน แต่หลังจากเปลี่ยนไปใช้ “สมาร์ทโฟน” ค่อยๆ พัฒนาจากใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร ไปสู่การใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ ของสมาร์ทโฟนได้คล่องมากขึ้น เช่น ใช้แอปพลิเคชัน LINE, ดูวิดีโอผ่าน YouTube และใช้มือถือถ่ายรูป อัพขึ้น Facebook หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ทำให้ปัจจุบันผู้บริโภคกลุ่มนี้ เปลี่ยนจาก “New Internet User” ไปเป็นกลุ่มที่เรียกว่า “Now Generation” ที่เปิดรับเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว

2. ผนึกพันธมิตรสมาร์ทโฟน

ในอดีตโอเปอเรเตอร์ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสารอย่างเดียว ในขณะที่ช่องทางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ต้องซื้อผ่านดีลเลอร์ หรือร้านลูกตู้ แต่ทุกวันนี้โอเปอเรเตอร์ ขยายบทบาทมาเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน ด้วยการแข่งชิงเป็นพันธมิตรแบรนด์สมาร์ทโฟน เพื่อทำโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งราคาเครื่อง และแพ็กเกจ

เหตุผลสำคัญที่ค่ายผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสาร มาเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่อง เพราะต้องการสร้างความครบวงจรด้านการให้บริการ และที่สำคัญการทำโปรโมชั่นมือถือราคาพิเศษ มาพร้อมกับแพ็กเกจ เป็นกลยุทธ์สร้างฐาน “ลูกค้าใหม่” และล็อคฐาน “ลูกค้าเดิม” เพื่อรักษา Loyalty ลูกค้า ยิ่งในจังหวะที่ลูกค้าจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ หากโอเปอเรเตอร์สามารถนำเสนอเครื่องใหม่ที่ตรงใจ ลูกค้าเดิมก็จะเปลี่ยนเครื่องใหม่กับโอเปอเรเตอร์ที่ตนเองใช้บริการอยู่

อย่างล่าสุด “AIS” เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ “Xiammi” ทำโปรโมชั่นเครื่องรุ่น Redmi S2 ราคาพิเศษจากปกติ 5,590 บาท ลดเหลือ 1,490 บาท

การที่ค่ายโอเปอเรเตอร์ แข่งกันทำโปรโมชั่นเครื่อง-แพ็กเกจพิเศษ ประกอบกับแบรนด์มือถือ ต่างออกสินค้าหลายเซ็กเมนต์ และมีหลายราคาตั้งแต่กลุ่ม Economy – Mid-range – Premium Market ยิ่งทำให้ Penetration ของสมาร์ทโฟนในไทย ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และกระตุ้นให้ตลาดโทรศัพท์มือถือในไทย เปลี่ยนจากตลาดฟีเจอร์โฟน เป็นสมาร์ทโฟน

Resize AIS NEXT G_02

3. ออกแพ็กเกจ เซ็กเมนต์หลายระดับราคา

สมาร์ทโฟนได้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือจาก “Voice” มาเป็น “Data” มากขึ้น ดังนั้นโอเปอเรเตอร์ได้ออกแพ็กเกจหลายรูปแบบ และระดับราคา เพื่อรองรับการใช้ Data เพิ่มสูงขึ้น และกระตุ้นให้คนที่เคยใช้ระบบ Prepaid ขยับไปใช้ระบบ Postpaid เนื่องจากมีโอกาสสร้าง Customer Loyalty ได้มากกว่าลูกค้าแบบเติมเงิน และต่อไปแพ็กเกจจะมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งความเร็วสูงสุด, ปริมาณการใช้ Data และระดับราคา

สำหรับแพ็กเกจ AIS NEXT G แบบรายเดือน เริ่มต้นที่ 799 บาท อินเทอร์เน็ต 4G จำนวน 5 GB, 3G รวม 10 GB, AIS SUPER WiFi ไม่จำกัด โทรทุกเครือข่าย 350 นาที และคอนเทนต์ความบันเทิง / รายสัปดาห์ ราคา 159 บาท รับเน็ต 5GB และ AIS SUPER WiFi ไม่จำกัด / รายวัน ราคา 89 บาท รับเน็ต 8GB และ AIS SUPER WiFi ไม่จำกัด

“วันนี้แพ็กเกจในตลาดมีความหลากหลายมาก ทั้งความเร็ว ราคา และมีผู้บริโภคที่เคยใช้ Prepaid เปลี่ยนมาใช้ Postpaid มากขึ้น เพราะไลฟ์สไตล์การใช้งานโทรศัพท์มือถือของคนไทยทุกวันนี้ ใช้งาน Data สูงขึ้น” คุณปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS ฉายภาพความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค

Resize AIS NEXT G_03

4. สร้างความได้เปรียบด้วย “Business Ecosystem”

การแข่งขันของธุรกิจโทรคมนาคมในวันนี้ ประกอบด้วยกัน 2 ด้านหลัก คือ 1. Network ครอบคลุม เร็ว และแรงทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็น Fundamental ของธุรกิจ และ 2. บริการต่างๆ บนเครือข่ายที่เติมเต็มให้ Business Ecosystem สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น คอนเทนต์ด้านความบันเทิง, E-Payment โดยทั้งสองส่วนนี้ต้องไปด้วยกัน เพราะโดยหลักแล้วผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกใช้โอเปอเรเตอร์ค่ายไหน จะพิจารณาคุณภาพเครือข่าย ราคาเหมาะสม และบริการ ขณะเดียวกันส่วนที่ทำให้รักษาฐานลูกค้า และสร้าง Value Added ให้กับโอเปอเรเตอร์ค่ายนั้นๆ ยังมีเรื่องบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รอบด้านของผู้บริโภคเข้ามามีบทบาทด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ “AIS” จึงสร้างความแข็งแกร่งในส่วนบริการให้มีความครบวงจรมากขึ้น ทั้งด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น AIS PLAY, HOOQ, VIU และการเป็น Payment Gateway โดยจับมือกับ Rabbit LINE Pay ซึ่ง Rabbit เป็นผู้ให้บริการรูปแบบ micro-payment รายใหญ่ในกรุงเทพฯ ด้วยฐานสมาชิกบัตร Rabbit มากกว่า 8.5 ล้านคน

5. พรีเซนเตอร์ กระชากลุคแบรนด์ – ขยายฐานลูกค้า Millennials

กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ 3 ค่ายโอเปอเรเตอร์แข่งกันดุเดือด สำหรับการใช้ “ศิลปินดารา” ที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อช่วงชิงสร้างการจดจำทั้ง Corporate Brand และ Product Brand ขณะเดียวกันเพื่อสร้างลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าเก่า ให้เป็นฐานแฟนแบรนด์

อย่างล่าสุด “AIS” เปิดตัวพรีเซนเตอร์ “แบมแบม GOT7” ประกบ “เป๊ก ผลิตโชค” เพื่อกระชากลุคแบรนด์ “AIS” ให้มีความทันสมัย และเข้าถึงกลุ่ม Millennials จากก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ของ AIS มีความเป็นนักธุรกิจ หรือคนวัยทำงาน

Resize AIS NEXT G_PECK

“เวลาแบรนด์หนึ่งเคลื่อนตัว อีกแบรนด์จะเคลื่อนตัวตาม เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเมื่อแบรนด์หนึ่งออกโปรโมชั่น อีกแบรนด์จะออกตามมา เช่นเดียวกันการใช้พรีเซนเตอร์ มีข้อดีในแง่สร้างการจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้พรีเซนเตอร์ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จเสมอไป ไม่ใช่ว่าทุกการสื่อสารต้องใช้พรีเซนเตอร์ แต่ครั้งนี้เป็นแคมเปญที่เราอยากเข้าถึงคนกลุ่มกว้าง และเราต้องการขยายฐานไปยังกลุ่ม Millennials ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้บริโภคกลุ่มนี้มากกว่า 15 ล้านคน” คุณปรัธนา กล่าวทิ้งท้ายถึงภารกิจยกระดับสู่ AIS NEXT G

Resize AIS NEXT G_BAMBAM


  • 50
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ