พิสูจน์คอนเซปต์ที่คิดเพื่อคนเมือง ‘ASHTON Asoke – Rama 9’ กับเกมใหม่คอนโดลักซ์ชัวรี่ Rare Item ที่ให้มากกว่าทำเล – ดีไซน์ 

  • 259
  •  
  •  
  •  
  •  

ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน หรือผู้มองหาที่อยู่อาศัย Location ก็ถือเป็นโจทย์สำคัญอยู่แล้ว ยิ่งได้ทำเลทองที่ยากต่อการเป็นเจ้าของ อย่างย่าน CBD ยิ่งเหมือนถูกรางวัลใหญ่ เพราะไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่ได้ประโยชน์ 2 ต่อ จากทำเลที่ตั้งด้วย ซึ่งโครงการสุดหรูอย่าง ASHTON Asoke – Rama 9 กำลังโดดเด่นในประเด็นดังกล่าว

ทำเล ‘Blue Chip’ ความเอ็กซ์คลูซีพใจกลางย่านทำเงิน!

จุดเด่นของ ASHTON Asoke – Rama 9 กับการเป็น Prime Location คงไม่ต้องย้ำให้เสียเวลา เพราะภาพการเป็น THE NEW ICON บนที่ดินหัวมุมแปลงสุดท้ายใจกลาง CBD ของแยกอโศก – พระราม 9 ช่วยตอกย้ำแล้วว่า ‘อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์’ ตอบโจทย์การเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ตัวจริงได้อย่างแท้จริง เพราะตามปกติ ทำเลที่มีมูลค่าสูงเช่นนี้ มักถูกพัฒนาเป็นประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงานมากกว่านำมาทำโครงการที่อยู่อาศัย ยิ่งทำให้โครงการนี้กลายเป็น Rare Item ยังไม่รวมถึงการเป็น Masterpiece ชิ้นเอกที่อนันดาตั้งใจให้โครงการฯ ได้เป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ผ่านการดีไซน์ 2 ตึก ที่งดงามและสูงระฟ้าอย่าง ‘The Alpha และ The Omega’ กลายเป็น The First & The Last สำหรับย่านดังกล่าว

ดังนั้น หากจะพูดถึงเรื่องทำเลของ ASHTON Asoke – Rama 9 จึงไม่ใช่เพียงความโดดเด่น แต่ถือเป็นความเอ็กซ์คลูซีพทั้งสถาปัตยกรรมและความลักซ์ชัวรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการฯ ยิ่งรวมกับความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่มีผู้ใช้บริการมากถึง 2.8 ล้านคนต่อเดือน เนื่องจากเป็นทำเลแหล่งงานที่มีพื้นที่สำนักงานมากถึง 600,000 ตรม. รวมทั้งบริษัทและพนักงาน ทั้ง MRT สถานีพระราม 9 ที่อยู่ห่างเพียง 230 เมตร หรือ MRT สถานีสุขุมวิท ที่เชื่อมต่อกับ BTS สถานีอโศก ได้ภายใน 2 สถานี ยิ่งทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายแม้จะอยู่ในทำเลกลางเมือง ที่เป็นถนนเส้นหลักและมีการจราจรหนาแน่นมากเป็นอันดับ 5 ของกรุงเทพฯ

งานออกแบบที่ ‘ยกระดับ’ เพื่อมิติใหม่ของการใช้ชีวิต

เป็นอีกสิ่งที่ต้องยอมรับว่า ASHTON Asoke – Rama 9 ทำได้ดี คือ ‘การออกแบบ’ แน่นอนว่าความหรูหราที่โครงการฯ จัดเตรียมเอาไว้ ทั้งเรื่องการพักผ่อน การใช้ชีวิต ทำได้ค่อนข้างดี ตอบโจทย์และลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ มีทั้งพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและโดยรอบโครงการฯ มุมพักผ่อน การออกกำลังกาย รองรับทุกไลฟ์สไตล์ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับพื้นที่อยู่อาศัยระดับคุณภาพ

สิ่งที่โดดเด่นท้าทายสายตาผู้ที่พบเห็น ASHTON Asoke – Rama 9 คือการออกแบบที่คิดมาแล้วว่าให้ตอบโจทย์ได้ดีทุกห้องทุกมุม โดยอนันดาใช้โจทย์ ‘Unique Design’ ที่ออกแบบให้ห้องทุกห้องเป็นห้องมุมซึ่งทุกคนอยากเป็นเจ้าของ เพราะได้พื้นที่กระจกกว้าง เปิดรับแสงธรรมชาติ และเพิ่มการถ่ายเทอากาศภายในห้องได้อย่างสะดวกสบาย หากผสานเข้ากับไอเดีย ‘Natural Ventilation Atrium’ ที่มาพร้อมฟังก์ชันห้องที่เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ ทั้ง Sky Bedroom หรือ Sky Living Room ยิ่งทำให้โครงการฯ มัดใจผู้ที่พบเห็นให้อยากเป็นเจ้าของได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ยิ่งหากได้สัมผัสพื้นที่ส่วนกลางที่ถูกยกให้เป็น ‘Double Facilities’ ก็ยิ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบทั้งการพักผ่อนและกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ Swimming Pool, Jacuzzi, Fitness, Steam Room, Yoga Room, Massage Room, Cinema Room, Co-Kitchen หรือ Co-Working Space เป็นต้น หรือแม้แต่ ‘Urban Forest’ กับพื้นที่สวนขนาดใหญ่ 1 ไร่ ที่ออกแบบให้เป็น Sculptural Landscape เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย

คำนึงถึงโจทย์คอนโดกลางเมือง…ต้องไม่อึดอัด

แม้จะจัดเต็มในเรื่องทำเลและความหรูหราของโครงการแล้ว อนันดายังใส่ใจถึงปัญหาการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมของคนเมือง ด้วยการออกแบบให้อาคารได้องศาที่ดีที่สุด แม้จะเป็นอาคารสูงแต่ไม่หนาแน่นและไม่รู้สึกว่าถูกจำกัดอยู่ในบล็อก เพราะใช้กระจกทรง L Shape เข้ามาช่วยในการออกแบบ ทั้งยังวางรูปแบบ 2 ตึกให้เป็นแนวเฉียง 45 องศา เพื่อเปิดมุมมองการมองเห็นวิวได้ครบทุกห้อง ซึ่งใช้ดีไซน์เนอร์ระดับ Top ทั้งด้าน สถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่ง และภูมิทัศน์ แบบ Art & Craft เปลี่ยนจากไอเดียให้เป็นรูปธรรมที่ลงตัว

อย่างที่บอกว่า ASHTON Asoke – Rama 9 แบ่งออกเป็น 2 อาคาร โดยอาคารแรกคือ ‘Alfa’ ที่มาพร้อมคอนเซปต์ Active Activity จึงรวมห้องกิจกรรมต่าง ๆ เอาไว้หลากหลาย ส่วนอาคารที่สอง คือ ‘Omega’ กับคอนเซปต์ Passive Activity ที่มีพื้นที่สำหรับความบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งทั้ง 2 อาคารยังมี Double Sky Facility พื้นที่สวย ๆ ไว้รองรับกิจกรรมกลางแจ้งและชมวิวสะดวกยิ่งขึ้นเพราะพื้นที่ยื่นออกมาจากตัวตึกถึง 7 เมตร ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้พื้นที่และห้องต่าง ๆ ในชั้น 40-42 ของทั้ง 2 ตึกได้ทุกบริการ นอกจากนี้ทุก 10 ชั้น ก็จะมี Void เพื่อถ่ายเทอากาศทำให้รู้สึกสบาย ทั้งหมดนี้ถือเป็น Flow Function Layout ที่น่าจะตอบโจทย์และถูกใจคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน

‘พร้อมอยู่’ สร้างโอกาส

จากความลักซ์ชัวรี่และทำเลระดับนี้ ยังไม่เท่ากับการเป็น ‘คอนโดพร้อมอยู่’ ที่ ASHTON Asoke – Rama 9 นำเสนอ กับราคาเริ่มต้นที่ 7.59 ล้านบาท เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ พร้อมให้ลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิพิเศษได้จาก anan.ly/329mAO7 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก LINE @ashtoncondo หรือ https://lin.ee/7BZXVM2


  • 259
  •  
  •  
  •  
  •