ถ้านมอัดเม็ด ทุเรียนอบแห้ง คือ ของฝากยอดฮิตจากไทย อีกหนึ่งสิ่งที่ชาวจีนนิยมไม่แพ้กัน ก็คือ “หมูเส้นอบแห้ง” ที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาติอื่น ๆ ชื่นชอบในรสชาติ และนิยมซื้อกลับไปฝากเพื่อนฝูงและครอบครัวยังประเทศของตน จึงถือเป็นโอกาสของการสร้างธุรกิจใหม่ให้กับ “กัปตันหมูเส้น” แบรนด์หมูเส้นน้องใหม่ที่มีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดระยอง ที่เร็ว ๆ นี้กำลังจะได้ขึ้นเชลฟ์ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีแห่งใหญ่ของไทย และกำลังจะเตรียมขยายตลาดสู่การขายบนสายการบินของจีน ซึ่งจะเป็นการขยายตลาดสินค้าไทยสู่ตลาดโลก
กัปตันตูน หรือ นาวาอากาศโท รณชย พูนบุญ เล่าให้ฟังถึงที่มาของการทำธุรกิจหมูเส้นพรีเมียม
ย้อนไปเมื่อปี 2560 ตนได้ไปประจำการที่ศูนย์ฝึกพัฒนาบุคลากรด้านปิโตรเลียมและพลังงานทหาร ซึ่งในวันนั้นมีชาวบ้านเอาหมูเส้นมาให้ชิมและขอให้ช่วยทำตลาดให้หน่อย เพราะจะได้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ตนเห็นว่าเป็นเรื่องดีก็เลยตัดสินใจช่วย แต่ติดอยู่ตรงที่รสชาติที่คิดว่ายังไม่กลมกล่อมพอ เลยให้คำแนะนำในการปรับรสชาติเพื่อให้ดีขึ้น พร้อมทั้งให้คำแนะนำเรื่องการผลิตให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น มีมาตรฐาน มีความเป็นพรีเมียม
คุณภาพและความพรีเมียม คือ จุดขายที่สำคัญ
สำหรับหมูที่เราเลือกใช้ จะไม่ใช่หมูแปรรูป แต่จะเน้นคัดสรรหมูสด หมูคุณภาพ เมื่อต้มแล้วเนื้อหมูจะตั้ง ฉีกยังไงก็ยังเป็นเส้น ซึ่งจะแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่เลือกใช้หมูแปรรูปหรือหมูจากเขียงที่ขายไม่ออก เมื่อนำมาทำเป็นหมูเส้น จะทำให้ได้เนื้อยุ่ยไม่มีคุณภาพ ทอดแล้วจะเป็นเส้นฝอย ๆ ไม่น่ารับประทาน
นอกจากเรื่องหมูสดแล้ว อีกสิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือ น้ำมัน เราเลือกใช้น้ำมันใหม่ 100% และมีการเปลี่ยนน้ำมันทุกวัน ทำให้ได้ความใสสะอาด รวมทั้งไม่ใส่ผงชูรส ทำให้ทานได้เรื่อย ๆ โดยไม่กระหายน้ำ รวมทั้งมีระบบ QC ด้านความสะอาดอื่น ๆ เช่น ใส่ผ้าคลุมผม เป็นระบบปิดป้องกันแมลง เป็นต้น
“เพราะเรายึดหลักว่า สิ่งที่ไม่ดี หรือสิ่งที่ตัวเราเองก็ยังไม่กล้ากิน เราจะให้ลูกค้ากินได้อย่างไร และแม้ว่ามันจะทำให้ต้นทุนสูง แต่ปณิธานของเราคือ เราทำแบบใส่หัวใจลงไป เมื่อได้รับคำชมผมก็นำไปบอกชาวบ้าน พวกเขาก็ปลื้มใจที่ฝีมือของเขาได้รับคำชม มันคือความตั้งใจที่ถ้าเราจะทำอะไรสักอย่างก็ต้องทำให้ดีที่สุดไปเลย”
ปัจจุบัน นอกเหนือจากการวางขายที่คิง พาวเวอร์แล้ว ก็ยังเตรียมที่จะนำขายบนสายการบินเช่าเหมาลำของจีน ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่ชื่นชอบทานหมูเส้นจากประเทศไทยอยู่แล้ว ปัจจุบันตอนนี้สามารถผลิตได้ 2,000 กระปุกในหนึ่งเดือน แต่มีออเดอร์เข้ามามากกว่านี้เพียงแต่เรารับมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะผลิตไม่ทัน เรียกได้ว่าเป็นความก้าวกระโดดจริง ๆ
กำไรไม่ต้องมาก ขอได้ช่วยชาวบ้านบ้าง
กัปตันตูนเล่าว่า เริ่มสร้างแบรนด์มาตั้งแต่ปี 2560 นอกเหนือจากหมูเส้นแล้วก็ยังมีคางกุ้ง แล้วเร็ว ๆ นี้ก็จะมีสับปะรดแปรรูป และที่เลือกสับปะรดเพราะตอนนี้เกษตรกรผู้ปลูกกำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำมาก ก็เลยอยากจะช่วย ซึ่งตอนนี้ทางคิง พาวเวอร์ก็สนใจอยากให้มาทำเป็นไส้ขนมไหว้พระจันทร์
“ที่เน้นและเลือกผลไม้ท้องถิ่น เพราะผมมองว่าของไทยเรามีดีหลายอย่าง แต่ยังไม่ค่อยมีใครหยิบมันขึ้นมา เราอยู่คลุกคลีกับชาวบ้าน ทำให้เห็นว่ากว่าพวกเขาจะได้ของมามันเหนื่อยนะ มันยากลำบาก แต่ไม่มีใครส่งเสริมไปถึงรากหญ้าจริง ๆ พอเรารู้ก็อยากจะช่วยหาตลาดให้ พัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น ผมเองก็ทำธุรกิจคนหนึ่ง เราก็อยากได้กำไร แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาก แต่นอกเหนือจากการช่วยชาวบ้านแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ทำให้ผู้บริโภคได้กินของดี ในราคาที่เหมาะสม ผมมองว่าช่วยให้ทั้งระบบมันดีขึ้นได้”
ค้นพบ ‘โอเอซิส’ ที่เป็นทั้งแหล่งความรู้และคอนเนคชั่น
อย่างไรก็ตาม ในการทำธุรกิจสิ่งสำคัญนอกเหนือจากเรื่องคุณภาพของสินค้าแล้ว การตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญ “กัปตันหมูเส้น” เองก็เกิดจากความรู้ด้านการตลาดที่เท่ากับ ‘ศูนย์’ แต่ความมุ่งมั่นที่ต้องการทำให้สำเร็จ กัปตันตูนจึงตัดสินใจเริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยการแสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง ผิด ๆ ถูก ๆ จนมาเจอแหล่งความรู้แห่งใหม่ SCB Business Center สถานที่ที่เขาเปรียบว่าเป็นการค้นพบ “โอเอซิสของแห่งความรู้และคอนเนคชั่น” ที่ช่วยนำพาธุรกิจของเขาให้ประสบความสำเร็จได้
กัปตันตูนเล่าว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรมสัมนามที่ SCB Business Center เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีการอบรมให้ความรู้ต่าง ๆ ในเรื่องของการทำธุรกิจและการตลาด รวมไปถึงเรื่องของการทำ Storytelling การทำคอนเทนต์ การทำการตลาดและอื่น ๆ ให้ความรู้กันตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน จากคนที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเข้าใจวันนี้ก็ได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น
“เหมือนผมเดินอยู่ในทะเลทรายแล้วเจอ โอเอซิส มันคือหัวใจเลยนะ หยิบใช้ได้เลย ที่ผ่านมาเราลองผิดลองถูกเยอะ เราเรียนมหาวิทยาลัย 4-5 ปี แต่การสัมมนาในวันนั้น เหมือนได้ขมวดสิ่งที่เราเรียนไว้ใน 2-3 ชั่วโมง เหมือนการรวบยอดวิชาความรู้ให้เรา แถมยังได้มาจากคนที่ผ่านประสบการณ์จริง ที่เขาถ่ายทอดย่นย่อประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาให้เรา ซึ่งหาที่ไหนในตำราไม่ได้ แต่ที่ SCB Business Center มีให้ได้ตรงนี้”
SCB Business Center คือของจริง ทุกคำแนะนำ ทำให้เราไม่ก้าวพลาด
สิ่งที่กัปตันตูนได้รับจาก SCB Business Center นอกจากความรู้ในการทำการตลาดแล้ว เขายังได้คำแนะนำที่ถือว่าได้ทิศทางของช่องทางจำหน่ายที่ลดความเสี่ยงอีกด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้ตั้งใจจะนำสินค้าไปวางขายที่ 7-Eleven แต่จากคำแนะนำที่ถือว่าได้ช่วยธุรกิจให้เดินถูกทาง ทำให้เห็นถึงขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับธุรกิจ SME ของตนที่มีขนาดเล็ก จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณและอาจไม่คุ้มค่า
“การได้มาเรียนแล้วได้รับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์จากทาง SCB Business Center ที่ผมมองว่า เขาคือของจริง เขาช่วยให้เราไม่ต้องมาเสียเวลาลองผิดลองถูก ไม่ต้องเสี่ยง เราอาจจะเดินซ้ายหรือขวา เรามีทางเลือกซึ่งอาจจะผิดก็ได้ แต่เมื่อเขาแนะนำมาให้เราเดินในทางที่ถูกต้อง ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินเป็นล้าน ตรงนี้คือการชี้ช่องทางที่ทำให้เราไม่ก้าวพลาดได้”
SCB Business Center แหล่งรวมคอนเนคชั่น คนมีไฟ และผู้ที่อยากประสบความสำเร็จ
อีกสิ่งที่เรียกว่าเป็นผลพลอยได้จากการไปร่วมสัมมนาที่ SCB Business Center คือคอนเนคชั่นทางธุรกิจต่าง ๆ กัปตันตูน เล่าว่า SCB Business Center คือสถานที่ที่ดึงดูดคนที่มีไฟในการทำธุรกิจ ทำให้เขาได้พบกับคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คืออยากประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ เราได้มีการแลกเปลี่ยน พูดคุยในแง่มุมของการค้าขายร่วมกัน บางคนขายน้ำพริก บางคนขายทุเรียน บางคนขายอาหาร ฯลฯ ทำให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ คอนเนคชั่นใหม่ ๆ รวมทั้งแลกเปลี่ยนวัตถุดิบให้แก่กันอีกด้วย
“ต้องขอบคุณ SCB SME ที่สร้าง SCB Business Center และจัดสัมมนาดี ๆ ทำให้เจอคนดี ๆ มีเป้าหมายเดียวกัน มีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจได้มาเจอกัน แต่ที่อยากฝากคือการต่อยอด คืออยากให้มีลักษณะรูปแบบในการรวมกลุ่มกันให้มากกว่านี้ เช่นจัด Meeting นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียความคิดกัน ไม่อยากให้เรียนแล้วก็จบกันไป”
จากบทบาท ‘ธนาคาร’ สู่การเป็น ‘ครู’ มุมมองใหม่ที่ได้จาก SCB SME
หลังการเข้าร่วมอบรมกับ SCB Business Center กัปตันตูนบอกว่า ทำให้เขามองธนาคารเปลี่ยนไป สิ่งที่ SCB SME ทำคือมันดีมาก มันทำให้เกิดความใกล้ชิดกับลูกค้า
“มันมากกว่าการเป็นสถาบันการเงิน แต่สำหรับผมธนาคารไทยพาณิชย์ คือ ครู เป็นครูที่ให้ความรู้ ถ้าตอนนี้ธุรกิจผมไปได้ 100 ล้านบาท ผมจะกลับมาฝากเงินกับเขานะเพราะเขาคือครูของผม ดังนั้น มองว่าการที่ SCB SME มอบความรู้ไม่ใช่ทำวันนี้แล้วเห็นผล มันต้องเกิดจากการตกผลึก ผมอาจจะไม่รวยภายในปีนี้แต่ระยะยาวยังไงก็สำเร็จ และเมื่อเราดีขึ้นชาวบ้านดีขึ้นก็จะกลับมาต่อยอดกู้เงิน ก็จะทำให้เกิดวงจรที่ดี โดยมี SCB SME เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อน”
อัดแน่นประสบการณ์ความรู้ ที่รอให้ไปตักตวง
ท้ายที่สุดคำแนะนำสำหรับเพื่อน SME กัปตันตูนมองว่า สิ่งที่คุณต้องมีคือ หนึ่ง “ความรู้” ซึ่งอาจจะหาได้จากหนังสือหรืออินเทอร์เน็ต สองคือ “ประสบการณ์” ซึ่งอาจจะหาได้จากการทำงาน แต่ถ้ามันต้องเก็บเกี่ยวไปเรื่อย ๆ ลองผิดลองถูกเรื่อย ๆ มันอาจจะช้าไป ดังนั้น ถ้าคุณมาที่ SCB Business Center ก็จะมีผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วมาย่นย่อประสบการณ์ของเขาให้เราฟัง เราจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาลองผิดลองถูก หรือทำธุรกิจแบบผิดทิศผิดทาง
“มันคือระบบความคิดและประสบการณ์ที่เมนทอร์ได้ใช้เวลาหลายปี แต่มาถ่ายทอดให้เราฟัง แล้วมันทำให้เราสามารถปักธงเลยว่า Goal อยู่ตรงนั้น เราจะไม่เขวหรือหลงทาง นี่คือสิ่งที่ SCB SME มีให้ ทำให้เราเดินเรือไม่ผิดทิศทาง”
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ทางลัดแห่งความสำเร็จในการปั้นเสกธุรกิจที่เริ่มต้นจากศูนย์ให้ก้าวกระโดดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ความรู้และประสบการณ์เหล่านี้รอให้คุณเข้าไปเก็บเกี่ยวที่ SCB Business Center อยู่ที่คุณจะเลือกเดินทางไหน
httpv://youtu.be/W1ik6b4droY