หลังจาก “วีรีเทล” บริษัทในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ประกาศลงทุนพัฒนาโครงการ Mixed-use พื้นที่ 13 ไร่ ริมถนนรัชดาภิเศษ ติด MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน และพื้นที่รีเทล ทั้งในอาคารและกลางแจ้ง (Indoor & Outdoor) มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จปี 2567
ในส่วนพื้นที่รีเทล ผนึกกำลังกับ “จ๊อดแฟร์” (JODD FAIRS) ตลาดนัดกลางคืนชื่อดังที่ติด 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมากรุงเทพฯ มาเป็นผู้บริหารพื้นที่รีเทลทั้งหมด ภายใต้ชื่อ “จ๊อดแฟร์ รัชดา” มีทั้ง Indoor และ Outdoor ด้วยสัญญาระยะเวลา 20 ปี
ภายใน “จ๊อดแฟร์ รัชดา” ประกอบด้วย พื้นที่ร้านค้าภายในอาคาร ขนาด 25,000 ตารางเมตร มีร้านค้ารวมกว่า 900 ร้าน ประกอบด้วยชั้น G เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง, ชั้น 1 – 2 – 3 และส่วนพื้นที่กลางแจ้งด้านหน้าอาคาร ประมาณ 5.6 ไร่ จะเป็นไนท์มาร์เก็ตแห่งใหม่ รวมประมาณ 800 ร้าน
นอกจากจ๊อดแฟร์ รัชดาแล้ว “คุณไพโรจน์ ร้อยแก้ว” เจ้าของตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ และจ๊อดแฟร์ ได้เผยกับ Marketing Oops! ว่า เตรียมเปิดจ๊อดแฟร์อีก 1 แห่งคือ ที่แดนเนรมิต (สวนสนุกแดนเนรมิตเก่า) ในเร็วๆ นี้
“จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต” ปักหมุดแลนด์มาร์กใหม่ย่านลาดพร้าว
“เร็วๆ นี้เราจะเปิดจ๊อดแฟร์ที่แดนเนรมิต บนพื้นที่ 33 ไร่ พอดีทางผู้ใหญ่ให้ความอนุเคราะห์ให้เราเช่าที่ดิน แต่คอนเซ็ปต์แตกต่างกับจ๊อดแฟร์ รัชดา เราจะทำที่แดนเนรมิตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และถ่ายรูป คล้ายกับ “ม่อนจ๊อด” (MON JODD) สถานที่ท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ที่เราได้พัฒนาขึ้น ยกมาอยู่ในแดนเนรมิต
จ๊อดแฟร์ ที่แดนเนรมิตจะพัฒนาเต็มพื้นที่ โดยเรายังคงเก็บรักษาตัวปราสาทแดนเนรมิตดั้งเดิมไว้อยู่ และคุณอาจจะได้เห็นเรือใบในกรุงเทพฯ ก็ได้ และมีที่จอดรถด้วย
ถ้าเปรียบเทียบ “จ๊อดแฟร์ รัชดา” จะเป็นสไตล์อังกฤษ แมนๆ เท่ๆ ขณะที่ “จ๊อดแฟร์ ที่แดนเนรมิต” เป็นผู้หญิง โรแมนติแบบฝรั่งเศส” คุณไพโรจน์ เล่ารายละเอียดให้กับ Marketing Oops!
ต่อยอดแบรนด์ “จ๊อดแฟร์” ชื่อนี้ขยายไปที่ไหนก็ได้!
จุดเริ่มต้นของ “จ๊อดแฟร์” (JODD FAIRS) มาจากเมื่อครั้งที่ทาง GLAND ติดต่อเข้ามาสอบถามว่าสนใจเช่าที่ดินหลังเซ็นทรัลพระราม 9 ไหม ซึ่งด้วยค่าเช่าที่เหมาะสม ทางคุณไพโรจน์จึงตัดสินใจทำตลาดนัดกลางคืน (Night Market) ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ในปี 2564 โดยนำชื่อเล่นของคุณไพโรจน์ที่เรียกกันในหมู่เพื่อนๆ คนสนิทว่า “จ๊อด” มาตั้งเป็นชื่อตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้ ประกอบกับก่อนหน้านั้น คุณไพโรจน์ และภรรยาได้พัฒนาที่ดินของตัวเองที่เชียงใหม่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในชื่อ “ม่อนจ๊อด” ดังนั้นเมื่อมาทำตลาดนัดกลางคืนบนถนนพระราม 9 จึงได้ใช้ชื่อ “จ๊อดแฟร์ (JODD FAIRS)
“วันที่เราเปิดโครงการจ๊อดแฟร์ เปรียบเสมือนคือ เราจุดพลุในที่ๆ เงียบหมด ทุกคนเงียบหมด ไม่มีใครกล้าทำตลาด แต่เราเปิดท่ามกลาง COVID-19 เสียงดัง คนได้ยินหมด พอดัง ก็ดังไปทั่วสารทิศ และแสงสีเสียงที่อยู่ในที่มืด คุณก็จะเห็นชัดหมด ความสวยงามมันชัดเจนมากเลย เท่ากับในเวลานั้น มีเราคนเดียว ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าเราก็เจ๋งกว่าเดิมนะ”
แม้ในช่วงแรกคนยังไม่เข้าใจว่า “จ๊อดแฟร์” คืออะไร แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ด้วยสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ และการเปิดประเทศ ทำให้ “จ๊อดแฟร์” เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งใน Destination สุดฮิตของทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยติด 1 ใน 5 สถานที่ที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ชาวต่างชาติชอบไปมากที่สุด จากผลสำรวจของ Grab Travel Insight 2022
จากความนิยมดังกล่าว เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จในการทำตลาดนัดกลางคืนอีกครั้งของ “คุณไพโรจน์” หลังจากเป็นผู้ปลุกปั้นตลาดนัดรถไฟสวนจตุจักร และตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ทำให้ “จ๊อดแฟร์” เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านการรับรู้ และการนำไปต่อยอดในสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินนั้นๆ
ล่าสุด “จ๊อดแฟร์ หลังเซ็นทรัลพระราม 9” ได้เปิดจองล็อคโซนใหม่อีก 400 ร้านค้า และหลังจากนั้นจะหมดสัญญาเช่า 2 ปีในเดือนธันวาคม ปี 2566 กับทาง GLAND (บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีเซ็นทรัลพัฒนาถือหุ้นใหญ่) ก่อนจะย้ายไปอยู่ในโครงการ Mixed-use ของกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และใช้ชื่อ “จ๊อดแฟร์ รัชดา” ในสเกลที่ใหญ่ขึ้นในปี 2567
ขณะที่อีกหนึ่งโปรเจคท่ีจะเปิดเร็วๆ นี้ “จ๊อดแฟร์ ที่แดนเนรมิต” เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นการพลิกฟื้นที่ดินที่เป็นตำนานสวนสนุกของเมืองไทยที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ให้กลับมามีสีสัน มีชีวิตชีวา และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ
“ชื่อจ๊อดแฟร์ มันไม่ตายตัวเหมือนตลาดนัดรถไฟ แต่เป็นชื่อที่ไปที่ไหนก็ได้กับโลเคชั่นที่ดี แล้วแต่ความอนุเคราะห์ของ Landlord ต่างๆ” คุณไพโรจน์ สรุปทิ้งท้ายกับ Marketing Oops!
