ธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม อย่าง MK สุกี้, ปลากระป๋อง, Thaibev เริ่มเจาะพฤติกรรมลูกค้าประหยัดที่นิยมกินข้าวบ้าน เนื่องจากไตรมาสแรกผ่านพ้นไปกับวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ทำให้ยอดขายกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ในไตรมาสแรกปีนี้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีแล้ว
ผู้บริหารบริษัทไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ปลากระป๋องและซอสปรุงรสโรซ่า ให้ข่าวว่า ไตรมาสแรกยอดขายไม่ดี ลูกค้าชะลอสั่งสินค้า บริษัทจะรุกตลาดหนักขึ้นในไตรมาส 2 โดยเน้นกลุ่มสินค้าซอสปรุงรส ด้วยกลยุทธ์ตลาด “Create Nitch Market” เจาะตลาดกลุ่มใหม่เป็นหลัก เพื่อเลี่ยงการแข่งขันราคา หลังจากพบว่าผู้บริโภค หันมาปรุงอาหารกินที่บ้านมากขึ้น
ทางด้าน MK Restaurant ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารเอ็มเค สุกี้, ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ และ ร้านอาหารไทย ณ สยาม เผยว่า วิกฤติเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการบริโภคอาหารนอกบ้าน ทำให้ยอดขายและจำนวนคนเข้าร้านลดลงเฉลี่ย 10% ใกล้เคียงวิกฤติปี 2540 ทำให้ MK ต้องออกโปรโมชั่น บุฟเฟ่ต์ในร้าน MK Gold เอสพลานาด ราคา 299 บาท เริ่มเวลา 11.00-17.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์
ด้าน Singha Corp. ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์สิงห์, ลีโอ ไทเบียร์ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ยอดขายเดือน ม.ค. – ก.พ. ลดลง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคช่วงไตรมาสแรกใช้จ่ายลดลง เพราะไม่เชื่อมั่นจากวิกฤติการเงินโลกและปัญหาการเมือง
ทางด้าน Thai Beverage ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง อาชา และ เฟดเดอร์บรอย ยอมรับเช่นกันว่า ยอดขาย 2 เดือนแรกปีนี้ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะเศรษฐกิจถดถอย ปีนี้บริษัทจึงให้ความสำคัญตลาดเบียร์ economy โดยจะปรับจุดขายเบียร์อาชา ในรอบ 5 ปี ด้วยการเปิดโฆษณาใหม่พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดครบวงจร และจะเริ่มไตรมาสสอง ด้วยการเข้าไปทำกิจกรรมดนตรีในกลุ่มคนรุ่นใหม่ คาดว่าจะทำยอดขายเติบโต 20-30% มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 12% ของตลาดรวมเบียร์ 1 แสนล้านบาท คาดว่าไตรมาสที่ 2-4 ตลาดจะกระเตื้องเนื่องจากคู่แข่งเร่งกิจกรรมคาดผลักดันตลาดรวมโต 4-5%
โอสถสภา ผู้ผลิตและจำหน่าย M-150, ฉลาม, ลิโพ ก็กระทบเช่นกัน ยอดขายของไตรมาสแรกปีนี้ตกลง 1-2% ขณะที่ตลาดรวมเครื่องดื่มชูกำลังก็ลดลง 4% เมื่อเทียบกับปี 2551 ในฐานะผู้นำตลาดจึงตัดสินใจเพิ่มงบพิเศษอีก 50 ล้านบาท จากปกติใช้ 150 ล้านบาท บริษัทจัดทัวร์คอนเสิร์ต M-150 ทั่วประเทศ 150 ครั้ง
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์