จับตา CPN ผุดห้างกลางเมืองหลังประมูลได้พื้นที่สยามสแควร์ ต่อยอดการเข้าหุ้น SF พัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์

  • 61
  •  
  •  
  •  
  •  

กลายเป็นที่ฮือฮา CPN หรือ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา ประมูลพื้นที่โครงการ Block A ในย่านสยามสแควร์ไปได้โดยมีสัญญาระยะยาวถึง 30 ปี สำหรับพื้นที่ Block A ในปัจจุบันคือพื้นที่โรงหนังสกาล่า หรือถ้าเปรียบให้เห็นภาพได้ชัดเจนคือพื้นที่หัวมุมทั้งหมดบริเวณแยกปทุมวันในพื้นที่ Siam Square ซึ่งพื้นที่นี้อยู่ระหว่างตรงข้ามกับห้าง MBK และห้าง Siam Discovery โดยเนื้อที่รวมทั้งสิ้นมีขนาด 7 ไร่ 31 ตารางวา และถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญใจกลางเมืองที่ CPN สามารถชนะการประมูลจาก สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU)

พื้นที่นี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เนื่องจากเป็นจุดทำเลทองย่านใจกลางเมือง และเป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมไปถึงยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสำคัญของกรุงเทพฯ อีกทั้งพื้นที่ยังกล่าวยังถือเป็นพื้นที่สำคัญของกลุ่มคนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าด้วยขนาดพื้นที่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างห้าง MBK และห้าง Siam Discovery พื้นที่ขนาด 7 ไร่เศษจัดได้ว่าเล็กมาก หากจะสร้างห้างขึ้นมาเทียบกับทั้ง 2 คู่แข่ง ซึ่ง CPN ในฐานะเด็กใหม่ของพื้นที่ดังกล่าว ต้องสร้างความแตกต่างและสร้างจุดสนใจเพื่อให้ห้างบนพื้นที่ Block A น่าสนใจ

หนึ่งความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นคือ CPN อาจดำเนินการสร้างห้าง Community Mall บนพื้นที่ Block A ดังกล่าว เนื่องจาก CPN มีศักยภาพ ในการบริหารจัดการ Community Mall จัดการเข้าซื้อหุ้นของ Siam Future Development (SF) ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าอาจมีแผนให้ Community Mall แห่งนี้กลายเป็นจุดนัดพบของทุกคน อาจจะไม่ใช่ห้างที่มีความสูงหลายชั้น แต่คาดว่าจะเป็นห้างที่ทุกคนสามารถนัดทานข้าว พูดคุยหรือร่วมทำงานด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้หลายคนใช้เวลาอยู่ใน Community Mall แห่งนี้ นานมากพอที่จะสนใจสินค้าและบริการภายในห้าง

ที่สำคัญ CPN ยังมีธุรกิจในเครืออย่าง Shopping Online และห้าง Community Mall แห่งนี้ อาจจะกลายเป็นจุดศูนย์รวมการทำตลาดแบบ O2O (Online 2 Offline) ช่วยให้ธุรกิจ Shopping Online ในเครือของ CPN มีศักยภาพมากขึ้น ด้วยทำเลที่มีความพร้อมหลายๆ ด้าน รวมไปถึงยังอาจกลายเป็นศูนย์รวม Event ที่สำคัญของกรุงเทพฯ

 

CPN ขยายความเชี่ยวชาญจากการซื้อหุ้น SF

เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา CPN ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ Siam Future Development (SF) จากเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในสัดส่วน 30.36% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ในราคาหุ้นละ 12 บาท เมื่อคิดมูลค่าการซื้อขายหุ้นครั่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 7.7 พันล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จไปช่วงปลายเดือนที่ผ่าน ผลจากธุรกรรมครั้งนี้จะช่วยให้ CPN มีห้างสรรพสินค้าในระดับ Super Regional Mall อย่าง เมกะบางนา (Mega Bangna)

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ที่ CPN วางไว้ โดยเฉพาะในกลยุทธ์ที่ 3 ที่เน้นไปในด้านการกระจายความเสี่ยงและการสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ อย่างที่ทราบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในการเดินห้างสรรพสินค้าเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยรวมไปถึงการทำกิจกรรมต่างๆ กลายเป็นสถานที่สร้างประสบการณ์แทน ในขณะที่การจับจ่ายใช้สอยแบบออฟไลน์ ผู้บริโภคนิยมเดินทางไปที่ห้างหรือร้านค้าใกล้บ้าน มากกว่าการไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็น

นั่นจึงทำให้ Community Mall กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยพื้นที่ขนาดเล็กและเป็นการรวมตัวของหลากหลายร้านค้า ทำให้ Community Mall สามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่เมืองตามย่านต่างๆ ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ SF จะช่วยให้ CPN สามารถเข้าไปพัฒนา Community Mall ต่างๆ ของ SF ได้ ส่งผลให้ CPN มีพื้นที่ Community Mall รวมทั้งสิ้น 17 แห่ง ซึ่งจะช่วยขยายพอร์ตการลงทุนและกระจายความเสี่ยงให้กับ CPN

อย่างที่ทราบว่า นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว CPN ยังมีการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เช่น โรงแรม อาคารออฟฟิศ เป็นต้น และด้วยพฤติกรรมความเร่งรีบและความต้องการที่รวดเร็วของผู้บริโภค โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส (Mix Use) ที่ผสานทั้งพื้นที่อยู่อาศัย รวมเข้ากับพื้นที่การทำงาน ทั้งในส่วนของสำนักงานออฟฟิศและ Co Working Space ร่วมกับพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้โครงการมิกซ์ยูสได้รับความสนใจอย่างมาก และมีการก่อสร้างขึ้นหลากหลายโครงการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 CPN ประกาศชัดเจนในการเดินหน้าโครงการมิกซ์ยูสต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

จะเห็นได้ว่า CPN เริ่มให้ความสำคัญกับอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้าซื้อหุ้นของ Siam Future Development (SF) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งที่ดินเปล่าที่ SF ถือครองอยู่ยังเป็นพื้นที่รอการพัฒนาให้เกิดศักยภาพ นั่นหมายความว่า CPN สามารถเข้าไปใกล้ชิดกับผู้คนต่างๆ มากขึ้น ทั้งในรูปแบบของการเป็นห้าง สรรพสินค้า ห้างขนาดใหญ่ระดับ Super Reginal Mall หรือห้างขนาดเล็กอย่าง Community Mall ไม่เว้นแม้แต่อาคารในรูปแบบมิกซ์ยูส (Mix Use) ทั้งหมดนี้จึงเป็นไปตามกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและการสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ


  • 61
  •  
  •  
  •  
  •