กสิกรรุกดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ Bank ที่อยู่ในใจอันดับ 1 ของทุกคน

  • 113
  •  
  •  
  •  
  •  

Kbank

ปฏิเสธไม่ได้แล้วกับเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ จ่ายเงินหรือโอนเงินก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวกทุกที่ทุกเวลาผ่านเทคโนโลยี FinTech ซึ่งในปัจจุบันนี้ธนาคารผู้ให้บริการทางการเงินก็ตระหนักถึงเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อธุรกรรมทางการเงิน หลายธนาคารเริ่มปรับบทบาทของตัวเองใหม่ โดยเน้นไปที่การให้บริการด้านเทคโนโลยีทางการเงิน

ธนาคารกสิกรไทย ผู้นำในตลาดเทคโนโลยีทางการเงินเตรียมรุกครั้งใหญ่ในปี 2561 ด้วยการทุ่มงบประมาณด้านไอทีกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยพบว่ามีปัจจัยด้านบวกหลายอย่างที่ส่งผลให้เทคโนโลยีทางการเงินเติมโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเข้าถึงด้านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือถึง 65.1% ขณะที่การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึง 33.6% และการเข้าถึง Social Media สามารถเข้าถึง 78.2%

02 03

ขณะที่การเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน พบว่ามีการเข้าถึง e-Money อยู่ที่ 65.2% ขณะที่ Mobile Banking สามารถเข้าถึง 34.8% ในส่วนของการใช้บัตรเพื่อชำระเงินสามารถเข้าถึง 117.1% อันเป็นผลมาจากการใช้งานบัตรเดบิตที่เพิ่มขึ้น และการเข้าถึง Internet Banking สามารถเข้าถึง 25.1% ซึ่งคิดจากฐานจำนวนประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป

04

นั่นทำให้การใช้จ่ายผ่านเทคโนโลยีทางการเงินมีปริมาณเพิ่มขึ้น สอดรับกับธุรกิจในหลายตลาดที่เริ่มทำการแข่งขันภายใต้เทคโนโลยีทางการเงิน เช่น กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม, กลุ่มธุรกิจด้านการขนส่ง, กลุ่มธุรกิจด้าน Digital Platform, กลุ่มธุรกิจการค้า, กลุ่มธุรกิจ e-Commerce และธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีด้าน FinTech ซึ่งในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไปเราจะได้เห็นการแข่งขันในรูปแบบของการเพิ่มความสะดวกสบายด้านการธุรกรรมทางการเงินอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนว่าในปี 2561 ธนาคารกสิกรไทยต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งขันมากขึ้นในตลาด นั่นจึงทำให้ธนาคารกสิกรไทยวางแผนที่จะสร้างนวัตกรรม ด้วยการผสมผสานระหว่างความอัจฉริยะของเทคโนโลยี ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญของบุคลากรผ่านรูปแบบการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ

ซึ่งผลที่ได้จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีทางการเงินที่ดีแก่ลูกค้า ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไปธนาคารกสิกรไทยพร้อมที่จะเข้าไปดูแลทุกการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ การใช้บริการหรือแม้แต่การโอนเงิน ผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า AI (Artificial Intelligence) ซึ่งจะช่วยสร้างระบบ Machine Learning เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อประเมินและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าแต่ละราย

 

น้อยปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีการเปิด Application ด้านการเงินแล้วทั้งสิ้น 4 Application ซึ่งประกอบไปด้วย K Plus โดยทางธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าผู้ใช้งานอยู่ที่ 10.8 ล้านราย, K Plus Shop ซึ่งได้ตั้งเป้าผู้ใช้งานไว้อยู่ที่ 1 ล้านราย, K Plus SME ที่ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าผู้ใช้งานไว้อยู่ที่ 5 แสนราย และพรวนฝัน (Pruanfun) Application Marketplace เปิดให้ลูกค้าที่ต้องการพื้นที่ในการขายสินค้าบนโลกออนไลน์ โดยคาดว่าจะมีสินค้าเข้าร่วมขายประมาณ 5 หมื่นรายการ

06

นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยเปิดยุทธศาสตร์ด้าน Digital เพื่อสนับสนุนธุรกิจของธนาคารโดยแบ่งออกเป็น 8 รูปแบบ ประกอบไปด้วย การสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจ, การสร้างประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า, การสร้างระบบ Mobile Payment, การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง Machine Learning, รวมไปถึงการสร้าง Machine Commerce, การนำเทคโนโลยี Biometric และการเปิด Open API เพื่อให้สตาร์ทอัพและผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมพัฒนา สุดท้ายคือการใช้ Blockchain ในการทำให้ธุรกรรมต่างๆ รวดเร็วมากขึ้น

เมื่อทำยุทธศาสตร์เหล่านั้นมาผสมผสานกัน ซึ่งจะทำให้เกิดบริการใหม่ๆ ขึ้นในปี 2561 แบ่งออกเป็นการพัฒนารูปแบบไปสู่ Platform Lifestyle Banking เพื่อสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจและสร้างประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีทางการเงินที่จะตอบสนองทุกมิติความต้องการผ่านมือถือ ด้วย 3 แอพพลิเคชั่นหลักอย่าง K Plus, K Plus Shop และ K Plus SME

บริการด้าน Machine Lending ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า รวมถึงประเมินความเสี่ยงและความต้องการสินเชื่อ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์และประเมินก่อนที่ลูกค้าจะรู้ว่าต้องมาขอสินเชื่อ โดยบริการนี้จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าธุรกิจเป็นหลักและรวมไปถึงกลุ่มลูกค้าบุคคลทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้อย่างแม่นยำโดยไม่จำเป็นต้องกลัวหนี้ NPL

05

บริการด้าน Blockchain ที่ช่วยออกหนังสือค้ำประกันได้อย่างรวดเร็ว สามารถเชื่อมโยงเอกสารอื่นๆ ได้อย่างครบถ้วนภายใต้มาตรฐานเดียวกัน นอกจาดนี้ธนาคารกสิกรไทยยังเตรียมเปิดให้ธนาคารที่ต้องการใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาร่วมใช้กับธนาคารกสิกรไทย เพื่อจะได้เป็นมาตรฐาน Blockchain เดียวกัน ไม่เพียงเท่านี้ธนาคารยังเตรียมบริการด้านการชำระและโอนเงินข้ามประเทศผ่านเทคโนโลยี Blockchain ที่เรียกว่าสามารถทำธุรกรรมได้แบบ Real Time โดยเน้นไปที่เรื่องของความปลอดภัยการลดต้นทุนและความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยี Blockchain และการเปิดบริการ Open API ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจ Start Up สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของธนาคารกสิกรไทยเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี

นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยอย่างตั้งเป้าในการทำธุรกิจของกลุ่มลูกค้าบุคคล โดยตั้งเป้าสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโต 6.8%  ซึ่งจะช่วยให้ฐานลูกค้าบุคคลเพิ่มเป็น 15.1 ล้านราย มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 5%-6% ขณะที่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 46% ซึ่งจะทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 28.5% และกลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่ที่ธนาคารกสิกรตั้งเป้าสินเชื่อไว้ที่ 5%-7% และจะช่วยให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 22%

07 08 09 10

นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังตั้งเป้าในกลุ่มธุรกิจข้ามประเทศไว้ 2 แนวทางภายใต้แผน AEC +3 โดยแยวทางแรกจะเป็นการขยายการลงทุนไปสู่กลุ่มตลาด CLMVI โดยตั้งเป้าไว้ที่อินโดนีเซียและเวียดนามเป็นตลาดอนาคตที่มีความสำคัญ ขณะที่อีกแนวทางหนึ่งจะเป็นการให้บริการผ่านรูปแบบ Digital Banking เพื่อเชื่อมโยงกับธนาคารในภูมิภาค ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศได้ ทั้งการชำระเงินและการโอนทุกสกุลเงิน

รูปแบบของการให้บริการด้านการเงินจะเปลี่ยนไปธนาคารกสิกรก็จะยังคงรูปแบบสาขาไว้ ซึ่งสาขาที่ไม่มีการใช้บริการก็จะใช้วิธียุบรวมกับสาขาที่มีปริมาณการใช้งานสูง นอกจากนี้สาขายังต้องทำหน้าที่ใหม่โดยทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างการทำธุรกรรมกับเทคโนโลยีที่ธนาคารมี เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้แก่ลูกค้า

 

Copyright © MarketingOops.com


  • 113
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา