“อุบัติเหตุ” คำนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่หากมีปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในเวลาที่เหมาะเจาะ ก็เลี่ยงไม่ได้ การพยายามป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจึงมีความสำคัญ แต่ในความเป็นจริงเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วสิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ เราจะบรรเทาภาระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง นั่นจึงทำให้เกิดการประกันภัยรถยนต์ขึ้น เพื่อให้สามารถคุ้มครองและดูแล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังประสบอุบัติเหตุ
แต่ใครจะทราบว่าประกันภัยที่ตัวเองมีอยู่คุ้มครองด้านใดบ้าง แม้ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 ก็ตาม นั่นเป็นเพราะตั้งแต่ตอนทำสัญญาประกันภัยจะเห็นว่ามีดอกจัน (*) มากมายในการทำสัญญาประกันภัย ซึ่งแต่ละดอกจันก็มีขนาดเล็กจนหลายท่านอาจจะไม่สังเกตเห็น นอกจากขนาดของดอกจันที่เล็กแล้ว ยังมีจำนวนดอกจันมากมายหลายข้อที่ผู้ทำประกันต้องศึกษาอย่างละเอียด ทำให้หลายคนสับสนกับเงื่อนไขข้อยกเว้นมากมายผ่านดอกจัน (*)
มร. นิค สมาร์ท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เข้าใจในความต้องการของลูกค้า ด้วยการนำเสนอแคมเปญประกันภัยรถที่โดนใจลูกค้ากับแคมเปญ “โปรแรงแห่งปี” ด้วยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ไม่มีดอกจัน (*) ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ครั้งเดียวจบ เริ่มต้นที่ 9,990 บาทต่อปีสามารถผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ตั้งแต่ 15 สิงหาคมถึง 31 มกราคม 2561 ตอบโจทย์ลูกค้าที่เข้าใจง่ายและไม่มีเงื่อนไข
httpv://youtu.be/0huzFcnKy7U
พร้อมกันนี้ บริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในแคมเปญนี้ด้วยภายใต้คอนเซ็ปต์ ประกันภัยรถชั้น 1 ไม่มี * ดอกจัน ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม กับราคาค่าเบี้ยประกันเบาๆ สำหรับรถกระบะเริ่มต้นเพียง 9,990 บาทต่อปี และสำหรับรถยนต์ซิตี้คาร์เริ่มต้น 11,000 บาทต่อปีเท่านั้น ด้วยความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยชั้นนำ 7 บริษัทด้วยกันทั้ง บริษัท สินมั่นคง ประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน),บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท แอลเอ็มจี จำกัด (มหาชน), บริษัท เอไอจี ประเทศไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
สำหรับจุดเด่นของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จากเทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ ประกอบไปด้วย 4 ด้านด้วยกัน
- ไม่มีค่าความเสียหายส่วนแรก
- คุ้มครองชนทุกกรณี
- รับประกันภัยโดยบริษัทประกันภัยชั้นนำของเมืองไทย
- ไม่ระบุผู้ขับขี่
ทั้งหมดนี้คือ 4 เงื่อนไขที่กรรมธรรม์ส่วนใหญ่มักจะมีดอกจันและมีเงื่อนไขต่างๆ นานา
สำหรับ ค่าความเสียหายส่วนแรก ส่วนใหญ่ ผู้เอาประกันจะไม่ทราบว่ามีการระบุเงื่อนไขค่าเสียหายส่วนแรกนี้ไว้ ซึ่งหากมี แปลว่า ผู้เอาประกันอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกนี้ในอัตราครั้งละ 2,000 ถึง 5,000 ทุกครั้งที่มีการแจ้งเคลม หรือมีอุบัติเหตุที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด หากผู้เอาประกันมีการแจ้งเคลมหรือประสบอุบัติเหตุโดยเป็นฝ่ายผิด 2 ครั้งขึ้นไปอาจจะต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรกนี้มากกว่าค่าเบี้ยประกันทั้งปี
ในส่วนของ ความแตกต่างระหว่างประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท เป็นอีกสิ่งที่ทำให้สับสน นั่นเป็นเพราะการโฆษณาที่มักจะได้ยินว่า ประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ เทียบเท่ากับประกันภัยชั้น 1 แต่ราคาถูกกว่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ มีข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ มากมายในการเครมสินไหม โดยทั้ง 2+ และ 3+ จะคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกัน เฉพาะกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถและจะต้องเกิดในทางสาธารณะเท่านั้น หากไม่ใช่เข้าเงื่อนไขที่กล่าวมา ประกันภัยจะไม่คุ้มครองความเสียหายรถยนต์ของผู้เอาประกันได้เลย
การระบุผู้ขับขี่ เป็นอีกเงื่อนไขที่ช่วยให้เบี้ยประกันภัยถูกลง โดยทั่วไปจะสามารถระบุผู้ขับขี่ได้สูงสุด 2 คน แต่กรณีที่รถยนต์ของผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุและเป็นฝ่ายผิด แต่ผู้ขับขี่ไม่ใช่ผู้เอาประกันหรือไม่มีชื่อระบุเป็นผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ บริษัทผู้รับประกันภัยจะเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกกับผู้ถือประกันสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาทก่อนจะทำการชดเชยค่าสินไหมให้
และ ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เพราะโบรคเกอร์หรือตัวแทนจำหน่ายประกันภัยรถยนต์จะขายกรมธรรม์ให้กับบริษัทประกันภัยหลายแห่ง การที่เราซื้อประกันภัยรถจากโบรคเกอร์ที่เชื่อถือได้ ที่ร่วมมือกับบริษัทประกันภัยรถที่มีคุณภาพ เกิดเหตุที่ไม่คาดคิด ก็เคลมง่าย มีจำนวนอู่ที่รับเคลมเยอะ เราก็จะสบายใจไปส่วนหนึ่ง และถ้าโบรคเกอร์มีสาขาที่ให้เราติดต่อ ไม่ว่าจะอยู่ที่จังหวัดไหน เช่นที่ เทสโก้โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย ที่เชื่อถือได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส บริการด้านการเงินและโบรคเกอร์ประกันภัยที่ Tesco Lotus 189 สาขาทั่วประเทศหรือที่ www.tescolotusfs.com หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้า โทร 1712 กด 1 กด 2