Facebook ได้มีการอัพเดทข้อกำหนดการขอรับการยืนยันตัวตน (Verification) หรือเครื่องหมายถูกสีฟ้า ทั้งบน Facebook และ Instagram ซึ่งเครื่องหมายดังกล่าวเป็นการแสดงถึงการได้ยืนยันแล้วว่า บัญชีนั้นเป็น ‘ตัวตนที่แท้จริง’ ของครีเอเตอร์ บุคคลสาธารณะ คนดัง หรือแบรนด์ระดับโลกที่มีบัญชีนั้นเป็นตัวแทน รวมถึงเพื่อช่วยให้ผู้คนค้นหาบัญชีที่ต้องการติดตามได้ง่ายขึ้น
การอัพเดทข้อกำหนดครั้งนี้ ทาง Facebook บอกว่า เครื่องหมายการตรวจสอบยืนยันบน Facebook และ Instagram จะปรากฏถัดจากชื่อเพจหรือชื่อบัญชี รวมถึงในการค้นหาด้วย
สำหรับเครื่องหมายยืนยันตัวตนที่ให้แต่ละบัญชี ทั้งบน Facebook และ Instagram จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
-เป็นบัญชีที่แท้จริง
บัญชีของคุณต้องแสดงถึงบุคคล ธุรกิจที่จดทะเบียน หรือหน่วยงานที่มีอยู่จริง
-มีความสมบูรณ์
บัญชีของคุณต้องเป็นสาธารณะ และมีคำอธิบายตัวเอง รูปโปรไฟล์ และโพสต์อย่างน้อยหนึ่งโพสต์ โปรไฟล์ของคุณต้องไม่มีลิงก์ “เพิ่มฉัน” ไปยังบริการโซเชียลมีเดียอื่นๆ
-ไม่ซ้ำบัญชีอื่น
บัญชีของคุณต้องแสดงถึงตัวตนซึ่งไม่ซ้ำกับบัญชีอื่น โดยทั่วไปแล้ว การตรวจสอบยืนยันบัญชีสามารถทำได้หนึ่งบัญชีต่อธุรกิจเท่านั้น ยกเว้นบัญชีที่ต้องการเจาะจงภาษา ทั้งนี้เราจะไม่ตรวจสอบยืนยันบัญชีที่เป็นความสนใจทั่วไป (เช่น มีมเกี่ยวกับลูกสุนัข)
-มีชื่อเสียง
บัญชีของคุณต้องแสดงถึงบุคคล แบรนด์ หรือธุรกิจที่มีชื่อเสียงและถูกค้นหาบ่อย เราจะตรวจสอบบัญชีที่ปรากฏในแหล่งข่าวหลายๆ แหล่ง โดยจะไม่ถือว่าเนื้อหาที่ได้รับสปอนเซอร์หรือมีการโปรโมทเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการตรวจสอบ
การขอรับเครื่องหมายการตรวจสอบยืนยันของ Facebook
-หากบัญชีของคุณเป็นตัวแทนบุคคล ต้องมีสำเนาเอกสารระบุตัวตนที่มีรูปภาพที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ (เช่น หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ บัตรประชาชน) เพื่อตรวจสอบคำขอของคุณ
-หากบัญชีของคุณเป็นตัวแทนองค์กร ต้องมีสำเนาใบเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์หรือสาธารณูปโภค ใบรับรองการก่อตั้ง ข้อบังคับบริษัท หรือเอกสารการยกเว้นภาษี
การขอรับเครื่องหมายการตรวจสอบยืนยันของ Instagram
ทาง Facebook จะมีการพิจารณาจากหลายปัจจัยเมื่อทำการประเมินบัญชี Instagram เพื่อตัดสินว่าบัญชีเหล่านั้นเป็นที่สนใจของสาธารณะและสอดคล้องกับเกณฑ์การตรวจสอบยืนยันหรือไม่ แม้บัญชีนั้นจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับการตรวจสอบยืนยัน แต่การส่งคำขอก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้รับการตรวจสอบยืนยันเสมอไป
หลังจากตรวจสอบคำขอแล้ว ทางผู้ขอรับเครื่องหมายการตรวจสอบยืนยัน จะได้รับการแจ้งเตือนว่า บัญชีได้รับการตรวจสอบยืนยันหรือไม่ ในกรณีที่คำขอถูกปฏิเสธ สามารถส่งคำขอใหม่ได้หลังจากเวลาผ่านไป 30 วัน
สิ่งหนึ่งที่ Facebook ได้กล่าวไว้ก็คือ แม้ผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันตัวตน แต่ทางแพลตฟอร์มจะไม่ให้สิทธิ์ในเรื่องของยอดการเข้าถึง (Reach) หรือให้ลำดับความสำคัญต่างจากผู้ใช้ทั่วไป และไม่มีผลต่อการเอาชนะอัลกอริทึมด้วย
ที่มา : socialmediatoday ,