StartupThailand 2017 การันตีคนไทยไอเดียเด็ด ประยุกต์ Tech เติมเต็มได้ทุกไลฟ์สไตล์

  • 50.9K
  •  
  •  
  •  
  •  

SCB_1

ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ภาครัฐทำคลอดแนวคิด “เศรษฐกิจดิจิทัล” เราจึงได้เห็นภาพการสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้เข้าสู่ยุค “ไทยแลนด์ 4.0” ผ่านกิจกรรมและโครงการหลากหลายรูปแบบทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งล้วนเชื่อมโยงไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้เป้าหมายใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองชีวิตดิจิทัล

และแม้ว่าประเทศไทยจะเพิ่งจัดงานใหญ่ด้าน Startup เป็นครั้งที่ 2 แต่ “Startup Thailand 2017” ก็ทำให้เราเห็นอะไรเยอะมาก! ทั้งไอเดียเด็ดๆ แนวคิดเจ๋งๆ ทางเทคโนโลยี ที่เหล่า Startup พากันนำเสนอออกมาในรูปแบบเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิต รวมถึงเป็นตัวช่วยให้ภาคธุรกิจมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สะดวกขึ้นด้วย ใครที่ไม่มีโอกาสเข้าชมงานดังกล่าว คงต้องบอกว่าเสียใจด้วยเพราะงานมีขึ้นเมื่อวันที่ 6-9 กรกฏาคม เพิ่งผ่านมาหมาดๆ แต่ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะเราได้ไปเยี่ยมชมงานครั้งนี้มาแล้ว บอกเลยว่าเดินชมไอเดียของเหล่า Startup ทั้งมือโปร มือใหม่มากกว่าร้อยรายในงาน ละลานตาไปหมด และแน่นอน…เราเก็บรายละเอียดมาฝากคุณแล้ว!

1

ขอเกริ่นเพื่อทำความเข้าใจก่อนว่า…ความน่าสนใจของงานนี้ไม่ได้มีแค่การรวมตัวครั้งใหญ่ของเหล่า Startup แต่ยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การเงิน และภาครัฐ ก็มาออกบูธโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัย ภายใต้ธีม “Scale UpAsia” ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศหรือระดับภูมิภาค กับเทรนด์ที่คาดว่ามีโอกาสเติบโตสูง 9 ด้าน อาทิ เกษตรและอาหาร (AgriTech/FoodTech), การแพทย์และสาธารณสุข (MedTech/HealthTech), เทคโนโลยีการเงิน (FinTech), กลุ่มอุตสาหกรรม 4.0 (IndustryTech), การเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (TravelTech), ไลฟ์สไตล์ (LifeStyle), พาณิชยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce), ภาครัฐและการศึกษา (GovTech/EdTech) และอสังหาริมทรัพย์ (PropertyTech-UrbanTech)

แค่ได้เดินชมเทคโนโลยีและไอเดียต่อยอดสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจก็ว่าเจ๋งแล้ว แต่ภายในงานยังมีเวทีบรรยาย เสวนา จากวิทยากรที่มีชื่อเสียงทั้งแวดวง Startup นักลงทุน หรือแม้แต่ตัวแทนจากศูนย์บ่มเพาะ Startup ก็มี นี่ยังไม่รวมถึงโอกาสดีๆ ที่ผู้สนใจและบรรดาคนมีฝันอยากเป็น Startup จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกัน การให้ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว กิจกรรมสร้างเครือข่าย Startup เวทีแข่งขัน Pitching ประชันไอเดียต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และเท่าที่เดินชมงานดังกล่าวจนทั่ว บอกได้เลยว่าโอกาสลอยอยู่รอบตัวจริงๆ เพราะมีนักลงทุน นักธุรกิจคนดัง มาเดินชมงานอยู่หลายคนทีเดียว! แถมไม่ได้มีแค่คนไทยที่สนใจ เพราะหลายๆ บูธก็มีชาวต่างชาติให้ความสนใจอยู่เหมือนกัน

2

อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือ โซนนิทรรศการจากมหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ที่รวบรวมผลงานต้นแบบและแผนธุรกิจในโครงการ Innovative Startup ที่มีความรู้ความสนใจในเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ มาจัดแสดงเพื่อโชว์ศักยภาพเยาวชนไทยต้นกล้ายุคใหม่ของประเทศไทยอีกด้วย

กลับมาสู่เรื่องสำคัญที่หลายๆ คนกำลังให้ความสนใจ กับความพิเศษที่ฟากผู้ประกอบการรายใหญ่แวดวงต่างๆ พกมานำเสนอภายในงานครั้งนี้ โดยเฉพาะฝั่ง FinTech ภาคการเงินการธนาคาร ต้องเรียกว่าได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ SCB อาจเพราะเป็นภาคการเงินที่มี DVA(Digital Ventures Accelerator) อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องความเชี่ยวชาญคงไม่ต้องสงสัย ทั้งด้านการเงิน เทคโนโลยี และการลงทุน แถม SCB ยังประกาศรับ Startup ที่สนใจเข้าสู่ DVA batch 1 ภายในบูธของงานนี้อีกด้วย เสมือนเปิดประตูต้อนรับเหล่า Startup ตลอดเวลา

3

แถมภายในบูธธนาคารไทยพาณิชย์ & Digital Venture ยังมีบริการ “Startup Clinic” ให้คำปรึกษาผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจกันฟรีๆ ภายในงาน ไม่ว่าจะมีแผนธุรกิจอยู่แล้วหรือเป็นแค่ไอเดียในฝัน เขาก็ให้คำแนะนำตั้งแต่การเตรียมทีมงานคุณภาพ แนวคิดทางธุรกิจ การเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างถูกต้อง โอกาสในการเติบโตเป็นธุรกิจ การระดมทุน หรือแม้แต่เรื่องการวางแผน การบริหารเงิน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ Startup ส่วนใหญ่ขาดความเชี่ยวชาญและเป็นต้นเหตุให้ธุรกิจไปไม่ถึงความสำเร็จ หรือหากใครชอบเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ในบูธดังกล่าวก็มีกิจกรรมเปิดโอกาสให้ Startup ที่ผ่านโครงการบ่มเพาะ DVA รุ่นก่อน มาเปิดเผยเคล็ดลับสู่ความสำเร็จแบบไม่มีหมกเม็ดด้วย ทั้ง Refinn ผู้ให้บริการรีไฟแนนซ์ออนไลน์​ และ OneStockHome แพลทฟอร์มซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างออนไลน์ ใครที่มีโอกาสได้ฟังก็น่าจะได้แรงบันดาลใจหรือไอเดียกลับไปประยุกต์ใช้อยู่ไม่น้อย

หรือถ้าใครสนใจเทคโนโลยีที่ SCB มีไว้ให้บริการทั้ง SCB Ripple, PLUG ‘n PAY, SCB PromptPay และ SCB Connect ก็ขอรับคำปรึกษาได้จากบูธเดียวกันนี่แหละ อย่าเพิ่งคิดว่าบริการของธนาคารจะหลุดธีมงาน Startup นะจ๊ะ เพราะการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของ Startup ก็รวมถึงช่องทางดูแล การชำระเงิน หรือความสะดวกในการโอน-ชำระเงินข้ามประเทศด้วย ซึ่ง “SCB Ripple” ก็เป็นบริการใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย กับการบริการโอนเงินไปญี่ปุ่นผ่าน blockchain ทำให้ลูกค้า SCB ในไทยสามารถใช้บริการโอนเงินข้ามประเทศกับผู้ใช้บริการชาวญี่ปุ่นที่ใช้บริการ Ripple และ SBI Remit เสร็จสิ้นภายในเวลา 30 นาทีต่อรายการ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกครั้งแรกในประเทศไทยก็ว่าได้ แถม SCB ยังประกาศขยายบริการรูปแบบดังกล่าวให้ครอบคลุมทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก เรียกว่าสนับสนุนการขยายธุรกิจของเหล่า Startup ให้เติบโตได้อย่างไม่มีข้อจำกัด


  • 50.9K
  •  
  •  
  •  
  •