ในยุคที่ชาวมิลเลนเนียลครอบงำโลกดิจิตอลไว้ ดิจิตอลมาร์เกตเตอร์จำเป็นต้องอ่านให้ออกว่าเทรนด์ไหนที่จะเป็นที่สนใจของผู้ใช้กลุ่มนี้ และเรื่องพวกนั้นก็คงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีหรอกใช่ไหม?
วันนี้เราจะมาดู 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจะมาแรงในปี 2016 เพื่อให้ดิจิตอลมาร์เกตเตอร์อย่างคุณทำงานง่ายขึ้น
1.ข่าว
63% ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียจะพึ่งพาข่าวสารจากทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ค การวิจัยจากเฟียวรายงานว่าโซเชียลมีเดียมีการปรับตัวเพื่อต่อสู้กับแอพฯ รายงานข่าวโดยเฉพาะ โดยแฟลตฟอร์มเหล่านี้จะมีข่าวเด่นที่ถูกฟีตขึ้นมาแบบเรียลไทม์และสามารถดึงดูดความสนใจของคนเจนฯ ใหม่ให้คนใจข่าวได้อย่างง่ายดาย
ฟีเจอร์โมเมนต์ของทวิตเตอร์ช่วยให้ผู้อ่านเห็นเทรนด์แบบเรียลไทม์ และคุณยังสามารถติดตามหรือแชร์โมเมนต์เหล่านั้นออกไปได้ ขณะที่เฟซบุ๊คมี Instant Articles ที่รวบรวมข่าวสารจากบริษัทด้านสื่อสารมวลชนกว่า 20 แห่ง
ความสะดวกสบายในการรับข่าวสารบนโซเชียลมีเดียก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้คนนิยมใช้เพื่อรับข่าวสารมากขึ้นในยุคนี้
2.Virtual Reality
เทคโนโลยีวีอาร์นี้ไม่ได้เป็นเพียงอนาคตอีกต่อไป ข้อมูลที่ไหลผ่านวีอาร์นั้นมีทั้งภาพและเนื้อหามากมายที่สมจริงและตอนนี้ก็มีผู้พัฒนาและผู้ผลิตสื่อมากมายพยายามสร้างคอนเทนต์ในส่วนนี้ให้หลากหลายยิ่งขึ้น
ตั้งแต่ปี 2014 Google ประกาศสนับสนุนผู้สร้างคอนเทนต์มือสมัครเล่นเพื่อสร้างคอนเทนต์ให้แก่ VR headset และในอีกไม่กี่ปีนี้ ความพยายามนี้น่าจะผลิดอกออกผลไม่มากก็น้อยล่ะ
3.วีดีโอเกม
เกมคอนโซลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รายงานจาก SuperData ระบุว่าปีนี้ผู้เล่นจ่ายเงินกว่า 1.5 พันล้านดอลล่าร์เพื่อเล่นเกม virtual-reality ทั้งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์และซอฟท์แวร์ ซึ่งเพิ่มมากกว่าปี 2015 ที่ตัวเลข 660 ล้านดอลล่าร์เยอะ
เทคโนโลยีคลาวน์ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มฐานเก็บข้อมูลเกมและน่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญในปีนี้
4.บริการสตรีมมิ่ง
แม้เทคโนโลยีและแฟลตฟอร์มจะสำคัญแต่ข้อมูลที่มีคุณภาพก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อน ในปี 2015 Sling TV บริการสตรีมวีดีโอออนไลน์กวาดเงินจากผู้ใช้ไปได้กว่า 5 ล้านดอลล่าร์ต่อเดือนและมียอดผู้ใช้ผ่านจุด 2.5 แสนยูสเซอร์ไปแล้ว ขณะที่ผู้ให้บริการทีวีออนไลน์หลายเจ้าก็สร้างสรรค์แอพฯ เพื่อให้ดูทีวีออนไลน์ได้
ในอนาคตเราจะเห็นผู้เล่นหน้าใหม่โดดเข้ามาเล่นในกระแสนี้อีกมากแน่นอนซึ่งจะทำให้ตลาดกว้างขึ้นและมีการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจมากขึ้น
5.เทคโนโลยีด้านการเงิน
เมื่อการค้าดิจิตอลมา เทคโนโลยีการเงินก็จะต้องปรับตัวตามให้ทัน
เทคโนโลยีการเงินใหม่นั้นจะทำให้ตลาดขายสินค้าได้ง่ายขึ้นและจับกลุ่มผู้ใช้ชาวมิลเลนเนียลได้ดีกว่าเดิม บริษัทอย่าง WePay, Affirm และ Betterment จะเริ่มมีบริการชำระเงินโดยตรงสำหรับออนไลน์ช็อปปิ้งและมีบริการกู้ยืมออนไลน์โดยไม่ต้องไปธนาคารเลยทีเดียว