รู้หรือไม่ว่า “รูบิค” หรือ Rubik’s Cube ของเล่นทรงลูกเต๋าตาราง 9 ช่องหมุนได้อิสระรอบทิศทาง ซึ่งกำลังมีอายุครบ 50 ปีในปี 2024 นี้มีจุดเริ่มต้นจาก “ความบังเอิญ” ก่อนที่ “รูบิค” จะได้รับความนิยมอยู่รวมในช่วงเวลา Pop Culture มาอย่างต่อเนื่อง สู่ยุคปัจจุบันที่ “รูบิค” สามารถครองส่วนแบ่ง “ตลาดของเล่นลับสมอง” ทั่วโลกเอาไว้ได้ถึง 42% และทำยอดขายรวมได้แล้วถึง 450 ล้านชิ้น
บทความนี้เราจะย้อนไปเล่าความเป็นมาของ Rubik ที่กลายมาเป็นของเล่นสุดคลาสสิคที่ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันกัน
“รูบิค” เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจาก “ความบังเอิญ” โดย เออร์โน่ รูบิค (Erno Rubik) ประติมากร และอาจารย์สถาปัตย์ชาวฮังการี ที่ปัจจุบันมีอายุ 79 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นเกิดจาก อารจารย์ รูบิค อยากจะมีสื่อการสอนที่ทำให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยในกรุงบูดาเปส ประเทศฮังการี เข้าใจเรื่อง “การเคลื่อนที่ 3 มิติ” อาจาร์ย์รูบิค เลยคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า “Magic Cube” ลูกเต๋า 9 ช่องแบบหมุนได้ทุกทิศทาง ขึ้นมาในปี 1974 หรือเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
เดิมกล่องทรงลูกบาศก์ชิ้นแรกถูกประกอบขึ้นด้วยวัสดุจากไม้ และติดกระดาษสติ๊กเกอร์สีเหลือง, แดง, ฟ้า, ส้ม, ขาว และ เขียวโดยยึดติดเข้าด้วยกันด้วยคลิปหนีบกระดาษ โดยในแต่ละหน้าจะมีสีสันที่แตกต่างกัน
อาจารย์รูบิค เองก็เข้าใจในเวลาต่อมาว่าตัวเองเพิ่งสร้างของเล่นที่เป็นเกม puzzle ลับสมองขึ้นโดยบังเอิญแล้ว หลังจากพยายามจะจัดเรียงให้ รูบิค แต่ละหน้ากลับมามีสีเหมือนกันทั้งหมดเหมือนเดิมแป๊ะๆ โดยอาจารย์ใช้เวลานานถึง 1 เดือนกว่าจะแก้ puzzle ได้ และอาจารย์ก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนที่แก้ puzzle รูบิค ได้เป็นคนแรกของโลกไปด้วย
นับตั้งแต่ปี 1974 เป็นต้นมา อาจาร์ย์รูบิค จดสิทธิบัตรรูบิคและเริ่มขาย “รูบิค” ในประเทศอังกฤษเป็นที่แรกในปี 1978 ก่อนที่จะนำออกขายทั่วโลกในปี 1980 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนหนึ่งของ Pop Culture มาโดยตลอด รูบิค เข้าไปอยู่ในทีวี ทั้งซีรียส์ ภาพยนตร์ มิวสิกวิดีโอ การ์ตูน วิดีโอเกม รวมถึงในพิพิธภัณฑ์ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปมาโดยตลอด และหากนับจนถึงปัจจุบัน รูบิค ขายไปแล้วถึง 450 ล้านชิ้น
รูบิค กลายเป็นของเล่นที่ท้าทายความสามารถมนุษย์ จนมีหลายคนทำลายสถิติการแก้ Puzzle รูบิคที่ เออร์โน่ รูบิค ด้วยเวลาที่น้อยลงได้เรื่อยๆ จนปัจจุบันสถิติโลกแก้ อยู่ที่เวลา 3.13 วินาทีเท่านั้น
ปัจจุบัน “รูบิค” เป็นแบรนด์ของบริษัท “Spin Master” บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่จากประเทศแคนาดา ผู้ทำตลาดของเล่นชื่อดังอย่าง Hatchimals, Tech Deck, Kinetic Sand รวมถึง Etch-a-Sketch ที่เพิ่งซื้อแบรนด์ “รูบิค” มาเป็นของตัวเองในปี 2021
การซื้อ รูบิค เข้ามาอยู่ในพอร์ต สอดคล้องกับกลยุทธ์การตลาดของ Spin Master ที่ต้องการสินค้าของเล่นที่ถูกพิสูจน์ในตลาดมาแล้วว่าประสบความสำเร็จ และเป็นสินค้าประเภท Evergreeen ที่จะสามารถตอบสนองความสนุกสนานท้าทายสมองได้แบบไม่มีตกยุค
ปัจจุบัน Rubik ครองส่วนแบ่งตลาดของเล่นลับสมองมากถึง 42% และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา ยอดขาย รูบิค ทั่วโลกเติบโตเกือบ 4% มีมูลค่าอยู่ที่ 75.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2,644 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขายรูบิค ในปี 2022 อยู่ที่ 6 ล้านชิ้น ซึ่งตัวเลขนี้นับเพียง รูบิค ดั้งเดิมแบบ 3×3 เท่านั้นไม่ได้นับ puzzle อื่นๆที่พัฒนาจาก รูบิค ไปอีกทีในขณะที่ในปี 2023 นับจนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอดขาย รูบิค เมื่อเทียบกับปี 2022 เปรียบเทียบยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันก็ยังเพิ่มขึ้นอีก 14% ด้วย
สิ่งที่ทำให้ Rubik ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ ความท้าทายที่ดึงดูดผู้คนให้เข้าสู่วงการ และมีคนเข้ามาทำความรู้จักกับ รูบิค และเข้าสู่วงการมากขึ้นทุกๆวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีสื่อสังคมออนไลน์และชุมชนคนเล่น รูบิค กระจายตัวอยู่่เป็นจำนวนมากทั่วโลก
นอกจากนี้ เสน่ห์ของ รูบิค ก็คือความซับซ้อนของตัว รูบิค เองที่สามารถสลับรูปแบบกันไปได้ถึง 43 quintillion หรือ 43 ล้านล้านล้าน รูปแบบที่เรียกว่าเป็นความท้าทายสมองมนุษย์แบบสุดๆ และไม่น่าเชื่อว่าของเล่นที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนานชิ้นนี้จะเกิดขึ้นจากความบังเอิญของการสร้างสื่อการสอนในวิชาสถาปัตย์เท่านั้นเอง
ที่มา CNBC