รู้จัก Jera Cloud ระบบคลาวด์ที่ตอบโจทย์ CRM และ Marketing สำหรับธุรกิจคลินิกความงาม

  • 3.9K
  •  
  •  
  •  
  •  

การให้บริการเสริมความงาม ไม่ว่าจะเป็น คลินิกเสริมความงามหรือคลินิกศัลยกรรมได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะผู้บริโภคคนไทยให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลตัวเองมากขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นแทบจะทุกกลุ่มอายุ ไม่ว่าจะเป็น วัยรุ่น วัยทํางาน หรือผู้ใหญ่ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลาดบริการเสริมความงามทั้งที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดและที่ต้องใช้การผ่าตัดในประเทศไทย ปี 2020 มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 65,000 ล้านบาท (มูลค่าตลาดเฉพาะคลินิก ไม่รวมบริการความงามจากโรงพยาบาล) จัดได้ว่าตลาดนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตสูงมากและเป็นทะเลเดือด Red Ocean ที่แข่งขันกันสูงเช่นกัน

ดังนั้น ธุรกิจคลินิกความงามจึงต้องทำทั้งโปรโมชั่น แพ็คเก็จราคา กิจกรรมทางการตลาดต่างๆ มากมาย เพื่อใช้ดึงดูดลูกค้า แต่ก็มีหลายรายที่ทำไปอย่างไร้ทิศทางจนเป็นเหตุให้ต้องล้มพับปิดกิจการลงก็มี โดยไม่จำเป็นต้องอ้างถึงผลกระทบจากโควิด-19 เลย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น และการใช้ Big Data เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ จึงกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเป็นตัวช่วยอย่างดีให้กับธุรกิจประเภทนี้ มากไปกว่านั้นคือยังมาช่วยเสริมในการวางยุทธกลยุทธ์ทางการตลาดได้ด้วย หากรู้จักใช้งานให้เป็นก็สามารถขึ้นมายืนหนึ่งเป็นผู้นำในตลาดได้ไม่ยาก

 

Pain Point สำคัญของคลินิกความงาม

 

ผศ.ดร. บัณฑิต ฐานะโสภณ CEO และ Co-Founder  และ คณิน เพียรวิริยะกุลกิจ CTO และ Co-Founder จาก Jera Cloud บริษัทที่เป็นผู้นำด้านการให้บริการคลาวด์ซอฟต์แวร์จัดการคลินิกความงามและสปาให้ความเห็นเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจคลินิกความงามในปัจจุบันว่า เนื่องจากว่าธุรกิจความงามเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง และเป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นค่อนข้างมาก ดังนั้น Pain Point ที่พบส่วนมากก็คือ การที่เจ้าของธุรกิจไม่สามารถหาโปรแกรมที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการระบบหลังบ้านต่างๆ ที่เหมาะสมได้ ที่ผ่านมาก็มักจะใช้วิธีการรูปแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการจดลงบนกระดาษ โปรแกรมเอ็กซ์เซลล์หรือใช้โปรแกรมหลายๆ ตัวมาทำงานร่วมกัน ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก ยิ่งถ้ามีหลายสาขาก็จะยิ่งซับซ้อนวุ่นวาย ข้อมูลเกิดความสับสนและก่อให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย ซึ่งถ้าบริหารจัดการไม่ดีก็มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้มากทีเดียว แต่ถ้านำเอาเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์การบริหารทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านได้ในโปรแกรมเดียว ก็จะช่วยให้การทำงานทุกอย่างง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

(ผศ.ดร. บัณฑิต ฐานะโสภณ CEO และ Co-Founder Jera Cloud)

“ที่สำคัญคือ ธุรกิจคลินิกความงามเป็นธุรกิจที่มีความเฉพาะตัว แตกต่างจากธุรกิจอื่นและแตกต่างจากคลินิกเวชกรรมทั่วไป ดังนั้น การดูแลบริหารงานหน้าบ้านและหลังบ้านจึงมีความสำคัญมาก อย่างบริการของ Jera Cloud ที่ปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามวางใจให้เราไปดูแลระบบให้กว่า 500 แห่ง 300 แบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราได้นำเสนอแพล็ตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน เพื่อความสะดวกสบายในการทำงาน และนอกจากเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์และทำงานได้ทุกที่แล้วข้อมูลยังเชื่อมต่อในทุกสาขาด้วย ดังนั้น ไม่ว่าลูกค้าจะสะดวกเข้าบริการที่สาขาไหนข้อมูลก็จะลิงก์ถึงกันได้หมด ไม่ต้องโทรขอประวัติให้ยุ่งยาก สร้างความสะดวกสบายในการให้บริการลูกค้าและการตรวจรักษาของแพทย์อีกด้วย” คุณบัณฑิต กล่าว

คุณคณิน CTO เสริมว่า สำหรับ Jera Cloud ยังมาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูง โดยข้อมูลของเราจะถูกเก็บอยู่บน Google Cloud ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ป้องกันคอมพิวเตอร์ไวรัส เพิ่มความมั่นใจเรื่องปัญหาการสูญหายหรือรั่วไหลของข้อมูลผู้ป่วยและประวัติการรักษา รวมไปถึงการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล Privacy ของผู้ป่วย และหมดปัญหาเรื่องการถูก Ransomware (มัลแวร์ประเภทหนึ่ง ใช้เรียกค่าไถ่โดยการขู่ว่าจะเปิดเผย ลบ หรือระงับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ)

 

แพล็ตฟอร์มที่ดีต้องช่วยเสริมความแกร่งด้าน CRM และวางแผน Marketing

 

และจากการแข่งขันที่สูงในธุรกิจคลินิกความงาม เรื่องของการวางแผนการตลาดต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ที่ผ่านมาคลินิกส่วนใหญ่จะเน้นจัดโปรโมชั่นหรือหั่นราคาแข่งขันกันอย่างไร้ทิศทาง แต่สำหรับของ Jera Cloud จะมีตัว CRM ที่จะนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์เพื่อวางแผนการตลาดได้ด้วย คุณบัณฑิต อธิบายเพิ่มเติมว่า เนื่องจากเจ้าของกิจการส่วนใหญ่จะเป็นแพทย์ ซึ่งจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานด้านการรักษามากกว่า แต่อาจจะไม่ชำนาญด้านไอทีหรือมาร์เก็ตติ้ง ดังนั้น ระบบของ Jera เราจะช่วยในการนำข้อมูลหรือ Data เข้ามาวิเคราะห์งานทั้งด้าน CRM และทางด้าน Marketing ให้ง่ายขึ้น เพียงแค่กดดูรายงานก็สามารถวิเคราะห์ออกมาเป็นกราฟต่างๆ ได้เลยว่าต่อไปควรจัดโปรโมชั่นอะไร ซีซั่นนี้ควรจะขายอะไร หรือกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของคุณคือใคร ไม่ต้องทำการตลาดอย่างไร้ทิศทางอีกต่อไป

นอกจากนี้ ตัวระบบยังครอบคลุมงานทั้งหน้าร้านและหลังร้าน เช่นการสร้างระบบ OPD แบบไม่ต้องจดลงกระดาษสามารถทำแบบออนไลน์ได้เลย หรือการดูแลระบบหลังร้าน เช่น การควบคุมสต๊อกยา หรือการคิดค่า DF แพทย์ (Doctor fee ค่าธรรมเนียมแพทย์) ซึ่งจะทำให้เจ้าของคลินิกผ่อนเบาภาระจากงานจัดการเล็กๆ น้อยๆ ให้ง่ายขึ้น และมีเวลาไปบริหารงานด้านอื่นได้อย่างสบายใจ

(คณิน เพียรวิริยะกุลกิจ CTO และ Co-Founder Jera Cloud)

 

ธุรกิจความงามต้องตอบเทรนด์ New Normal & Next Normal

 

ในโลกปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจต้องไม่พลาดเรื่องของเทรนด์ New Normal และ Next Normal ซึ่งหากไม่ศึกษาให้ดีธุรกิจก็จะไม่เติบโต ซึ่ง คุณบัณฑิต ให้คำแนะนำว่า การทำธุรกิจคลินิกความงามก็เช่นกัน ยิ่งในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เรื่องของการนัดหมายแพทย์ล่วงหน้า หรือการ Touchless เพื่อลดการแพร่เชื้อสำคัญมากและเชื่อว่าจะเป็นพฤติกรรม Normal ต่อไปในอนาคตด้วย ดังนั้น ด้วยระบบของ Jera จะช่วยในการนัดหมายแพทย์ล่วงหน้า และลูกค้าก็ยังสามารถเช็คการนัดหมายและเลื่อนวันนัดหมายได้ด้วยตัวเอง โดยจะทำการเชื่อมต่อกับ LINE Official Account และ SMS เพื่อแจ้งเตือนวันนัดหมายล่วงหน้า หรือแม้แต่จะเช็คคอร์สคงเหลือที่จะนัดหมายเพื่อเข้าใช้บริการต่อไปก็ได้ นอกจากนี้ ระบบยังสนับสนุนเรื่องลดการสัมผัสเพื่อลดการแพร่เชื่อ โดยใช้ระบบ OPD ออนไลน์ ไม่ต้องคอยส่งกระดาษต่อกันไปมาระหว่างพนักงานกับคนไข้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสได้ หรือแม้แต่สลิปค่าบริการก็สามารถส่งได้ผ่านทั้ง LINE และ SMS ไม่ต้องรับสลิปกระดาษซึ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ ตอบโจทย์ New Normal ในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกัน ในส่วนของ Next Normal มองว่าในอนาคต ธุรกิจ Health Care หรือธุรกิจคลินิกความงามจะเป็นดิจิทัลมากขึ้นไปกว่านี้อีก อย่างเทรนด์ของการรักษาแบบทางไกล หรือที่เรียกว่า Telemedicine ก็มีเพิ่มมากขึ้นทั้งในคลินิกและโรงพยาบาล ซึ่งคุณหมอไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วยอีกต่อไปแล้ว สามารถซักประวัติหรือให้คำปรึกษาได้โดยการคุยผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Google Meeting ก็ได้ โดยที่คุณหมอสามารถบันทึกการรักษาผ่านระบบของ Jera Cloud ได้ในทันที ซึ่งข้อมูลจากการสนทนาจะถูกบันทึกไว้ทันที ตั้งแต่อาการ การสั่งจ่ายยา นอกจากนี้ ข้อมูลจะถูกส่งตรงไปที่คลินิกเพื่อออกใบสั่งยาออนไลน์ และพนักงานก็จะสามารถส่งมอบยาให้กับลูกค้าทางไปรษณีย์ โดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่จำเป็นต้องเข้ามายังคลินิกก็ได้ สะดวกรวดเร็ว และเป็นดิจิทัลมากขึ้น

 

บริการหลังการขายที่เสริมงานด้าน HR

 

คุณบัณฑิต ยังระบุด้วยว่า “อีกปัญหาที่พบบ่อยในธุรกิจคลินิกความงาม คือเรื่องการเทิร์นโอเวอร์สูง พนักงานเปลี่ยนหน้าบ่อย ลาออกเยอะ หรือแม้แต่คุณหมอที่มาร่วมงานด้วยก็มีการเปลี่ยนตัวบุคคลบ่อยๆ เช่นกัน” จึงมักจะเกิดปัญหาเรื่องการใช้งานระบบ ดังนั้น เราจึงพร้อมจัดอบรมการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ให้ฟรีตลอดอายุการใช้งาน โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาหลายคลินิกก็ใช้บริการตรงจุดนี้มากเพราะเปลี่ยนพนักงานค่อนข้างบ่อย ซึ่งหากเป็นที่อื่นบริการตรงนี้ส่วนใหญ่จะจำกัดจำนวนครั้ง แต่เราเข้าใจปัญหาของธุรกิจดีและคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากจึงพร้อมให้บริการอบรมฟรีแบบไม่จำกัดครั้ง

นอกจากนี้ Jera Cloud ยังมีการพัฒนาแพล็ตฟอร์มไม่หยุด ทุกครั้งเวลาที่ลูกค้ามีปัญหาหรือต้องการฟีเจอร์ใหม่ๆ ในการทำงาน เราก็พร้อมที่จะพัฒนาให้ เรียกได้ว่าเราฟังเสียงของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ทำงานบนแนวคิด Customer Centric ซึ่งนอกเหนือจากที่อัพเดทให้เป็นประจำทุกๆ เดือนฟรีตลอดการใช้งานแล้ว ก็ยังคอยอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ไปใช้งานด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าประทับใจในบริการของ Jera

 

ลดปัญหาการทุจริต – เพิ่มรายได้

 

คุณคณิน  กล่าวเสริมว่า นอกจากเรื่องการฟังความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาตัวเองแล้ว อีกสิ่งที่เป็นจุดแข็งและสร้างความประทับใจในตัวระบบก็คือ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ตรงจุด โดยมีเคสหนึ่งที่ ทางคลินิกแจ้งว่าเกิดปัญหาเรื่องพนักงานทุจริต มีการแก้ใบเสร็จหรือเอาใบเสร็จไปซ่อน สูญเงินเป็นหลักล้านบาท เขาต้องการให้ช่วยเหลือตรงนี้ ซึ่งระบบของเราก็เข้าไปช่วยทางคลินิกแก้ไขตรงจุดนี้ เนื่องจากในระบบ Jera Cloud จะสามารถกำหนดสิทธิการอนุมัติได้ การยกเลิกใบเสร็จในระบบต้องขอ OTP ก่อน เพื่อขออนุมัติ จึงจะสามารถแก้ไขได้ ปรากฏว่าหลังจากเราเซ็ตระบบให้แล้วปัญหาการทุจริตก็ไม่มีเลย และกิจการของเขาก็ดีขึ้นและสามารถขยายสาขาออกไปได้อีกถึง 3 สาขา

หรืออีกเคสคือคลินิกต้องการเลิกใช้กระดาษแล้ว เพราะสิ้นเปลืองและยุ่งยาก เราก็จัดทำระบบ OPD ออนไลน์ให้ แต่มากกว่าไปกว่านั้นคือ ระบบของเรายังเข้ามาช่วยดูเรื่องข้อมูลและรายงานต่างๆ ด้วย จนทำให้เขาค้นพบว่า ที่แท้กลุ่มลูกค้าของเขาคือกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่าคนวัยทำงาน ดังนั้น จากที่ผ่านมาคลินิกทำโปรโมชั่นเน้นไปที่กลุ่มวัยทำงานซึ่งไม่ใช่ Target group  แต่พอได้รู้จากข้อมูลในระบบของเรา ก็ช่วยให้เขาวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และสามารถออกโปรโมชั่นได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย หรือหาสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ลูกค้าหลายคนติดใจและบอกต่อถึงความประทับใจในบริการของเรา

 

แพล็ตฟอร์มที่สร้างเพื่ออนาคต สู่การเป็น Smart Clinic

 

สำหรับทิศทางต่อไปในอนาคตของ Jera Cloud คุณคณิน ระบุว่า “เราจะสนับสนุนงานด้าน Marketing และ Advertising ให้กับคลินิกมากขึ้น” ปัจจุบันเราสามารถเชื่อมต่อระบบของเราเข้ากับ LINE ได้แล้ว แต่ก้าวต่อไปที่เราจะทำคือการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook  Instagram และ Twitter  ซึ่งจะช่วยในการยิงโฆษณาหรือโปรโมชั่นที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเป็นการยิงตรงผ่านระบบของ Jera ในแพล็ตฟอร์มเดียวเลย รวมทั้งสนับสนุนงานด้านการตลาดมากขึ้น โดยใช้ Machine Learning ที่สามารถนำข้อมูลมาประมวลผลและวิเคราะห์ในเชิงพยากรณ์ได้ด้วย โดยจะเป็นการให้คำแนะนำว่าควรทำโปรโมชั่นอะไรต่อไป หรือต้องทำโฆษณาเข้าถึงลูกค้ากลุ่มไหนบ้าง ข้อมูลที่ได้จะออกมาในเชิงพยากรณ์แนะนำการทำงานด้านการตลาดที่ครบถ้วนมากขึ้น

สุดท้ายคือการก้าวสู่ Smart Clinic คือ การเชื่อมต่อและลิงก์ทุกอย่างทั้งซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์เข้ากันผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ ที่เรียกว่า เทคโนโลยี IOT (Internet of Things) เช่น การบันทึกข้อมูลวัดส่วนสูงชั่งน้ำหนักลูกค้า ก็สามารถทำได้ง่ายเพียงแค่ยืนบนแท่นเซ็นเซอร์ข้อมูลจะถูกบันทึกเข้าระบบทันทีไม่ต้องเสียงเวลามานั่งจดหรือคีย์ลงบนคอมพิวเตอร์ลดความผิดพลาดและใช้เวลาน้อยลง หรือการนำเทคโนโลยี Beacon มาใช้ในการดูแลการทำงานของพนักงาน ซึ่งสามารถเช็คได้ว่าตอนนี้พนักงานให้บริการอยู่ที่ไหน เดินไปห้องไหนบ้าง เพื่อนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานรวมถึงบอกได้ว่าลูกค้าได้มาใช้บริการถึงกระบวนการไหนบ้างแล้ว ซึ่งเทคโนโลยีแบบนี้ที่เกาหลีใต้เริ่มนิยมใช้งานกันมากแล้ว และเชื่อว่าถ้าคลินิกความงามเมืองไทยนำมาใช้ก็จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ และสร้างให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดูดีมีความทันสมัย ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตจนก้าวสู่ระดับสากลต่อไป

ในตอนท้าย คุณบัณฑิต และ คุณคณิน กล่าวฝากให้คำแนะนำแก่ผู้ที่จะมาทำธุรกิจคลินิกความงามว่า “หากจะตัดสินใจทำธุรกิจนี้การลงทุนเรื่องของเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” เพราะนอกจากจะช่วยให้จัดการธุรกิจง่ายสะดวกรวดเร็ว และสามารถกำหนดกลยุทธ์ในการทำการตลาดได้อย่างแม่นยำแล้ว เรื่องของการส่งเสริมภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่สุดในธุรกิจประเภทนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้ธุรกิจดูดีทันสมัยแล้วยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วย เทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบโจทย์ให้กับธุรกิจได้ในทุกปัจจัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้น หากเลือกลงทุนไปกับการใช้เทคโนโลยีที่ดีแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาจะได้มากกว่าที่ลงไปอย่างแน่นอน


  • 3.9K
  •  
  •  
  •  
  •