PropTech มีการพูดกันมานานแล้วถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างจุดขาย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพักอาศัย และเป็นที่ทราบกันว่า “แสนสิริ” เป็นผู้เล่นในธุรกิจอสังหาฯ รายแรกๆ ที่กระโดดเข้ามาในกระแส PropTech จนถึงขนาดตั้งบริษัทใหม่ Siri Ventures เพื่อดูแลเรื่อง PropTech โดยเฉพาะ และดูแลเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ผ่านความร่วมมือกับ Startup ทั่วโลก
ดูเหมือนสิ่งที่ Siri Ventures วางรากฐานได้เริ่มปรากฏชัดเจน เมื่อมีการวางแผนนำ 3 นวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้ในโครงการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย โดย 3 นวัตกรรมใหม่ประกอบไปด้วย รถยนต์ไร้คนขับ (AIROVR) ที่เป็นความร่วมมือกับ สวทช.และ Startup อย่าง AIROVR Startup สัญชาติไทย โดยจะมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับในช่วงเปิดทดลองใช้ คาดว่าจะสามารถใช้บริการได้จริงในช่วงไตรมาสที่ 4 สำหรับรถยนต์ไร้คนขับจะให้บริการภายในโครงการ T44 รวมไปถึงการนำลูกบ้านไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าและนำลูกบ้านกลับเข้าสู่โครงการ
นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (Siri Ventures) มองว่า การใช้รถยนต์ไร้คนขับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบความปลอดภัย และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต โดยจะเริ่มต้นจากการทดลองวิ่งเฉพาะภายในโครงการ T77 ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นการทดลองวิ่งรถยนต์ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในไทย
นวัตกรรมต่อมาคือการใช้ โดรน เดลิเวอรี่ (Drone Delivery) ซึ่งการใช้โดรนเพื่อส่งของอาจไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นครั้งแรกในไทยภายใต้ความร่วมมือกับ Fling อีกหนึ่ง Startup สัญชาติไทย โดยโดรนขนาด 6 ใบพัดจถูกทดลองส่งสินค้าจาก Habito Mall ไปยังโครงการมี่พักอาศัยของแสนสิริในพื้นที่โครงการ T77 ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการขออนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และนวัตกรรม AI ด้านการรักษาความปลอดภัย โดยเป็นความร่วมมือกับ SoundEye Startup ต่างชาติที่พัฒนาแพลตฟอร์ม AI โดย SoundEye จะติดตั้งอุปกรณ์รับคลื่นเสียงในจุดที่ไม่สามารถติดตั้งกล้องได้ เช่น ห้องน้ำ เพื่อตรวจจับเสียงที่ผิดปกติ เช่น เสียงขอความช่วยเหลือ เสียงปืน ซึ่งเมื่อ AI แปลงและประมวลคลื่นเสียงจนมั่นใจว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น AI จะติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดทดลองใช้จริงช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
นอกจากนี้แสนสิริยังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อให้ลูกบ้านสามารถได้รับความสะดวกสบายในการเข้าพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นแอปฯ Virtual Hospital ที่สามารถคุยกับคุณหมอได้แบบ Realtime เมื่อสงสัยอาการผิดปกติ โดยที่ไม่ต้องออกเดินทางไปพบแพทย์ รวมไปถึงแอปฯ ตรวจสอบคุณภาพอากาศ แอปฯ แจ้งเตือนการชำระเงิน และแอปฯ ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน รวมไปถึง Smart Meter ทั้งในระบบประปาและระบบไฟฟ้า เป็นต้น
นอกจากนี้คุณจิรพัฒน์ยังมองว่า ในอนาคตผู้คนจะต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าในปัจจุบัน รวมไปถึงการมองหาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ที่ Location จะไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกต่อไป เมื่อเทคโนโลยีการขนส่งสามารถตอบสนองการเดินทางได้ตามความต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นความปลอดภัยเมื่อออกจากที่พักอาศัย เพื่อไปยัง ระบบขนส่งสาธารณะ และความปลอดภัยในการกลับจากระบบขนส่งสาธารณะมาสู่ที่พักอาศัย จะกลายเป็นเรื่องสำคัญ ในการตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์