นักการตลาดที่เพิ่งเข้ามาทำการตลาดหรือธุรกิจขนาดเล็กที่เจ้าของมาเป็นคนทำการตลาดเองนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต้องทำในไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การต้องลงมือทำงาน และวัดผลตัวเอง โดยเฉพาะคนที่เริ่มทำธุรกิจเองใหม่ ๆ ย่อมมีโอกาสที่จะทำการตลาดได้ผลพลาดจากเรื่องมากมายตั้งแต่มุ่งเป้าหมายที่ผิดพลาดจนทำให้เสียเวลา เสียเงินและเสียทรัพยากรต่าง ๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ในยุคที่การตลาดนั้นแข่งกันอย่างมากมาย และผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากอีกด้วยทำให้คนที่ทำการตลาดเองนั้นหรือนักการตลาดมือใหม่ต้องมีเรื่องราวต่าง ๆ ให้ศึกษาอย่างมากมาย และต้องระวังการทำงานเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการรู้ว่าจะเกิดข้อผิดพลาดหรือมีความเข้าใจผิดอะไรที่จะเกิดขึ้นกับคุณนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาด และทำให้ไม่เสียเวลสา พร้อมทำให้สามารถแข่งขันทางการตลาดได้มีอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวันนี้เราจะมาดู 5 เรื่องง่าย ๆ ที่นักการตลาดมือใหม่หรือเจ้าจองกิจการที่ต้องทำการตลาดเองมักผิดพลาดกัน
1. มัวแต่สร้างการขายไม่สร้างแบรนด์ : กิจการที่กิจการเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ หรือเป็นแบรนด์ SME สิ่งที่เกิดขึ้นคือการมุ่งเป้าหมายหรือมีความเป็นห่วงในเรื่องที่ผิดไป เช่นการที่มุ่งแต่จะขายสินค้า มุ่งแต่จะทำฟีเจอร์ หรือมัวแต่นำเสนอว่าสินค้าตัวเองดีอย่างไร แต่พอ ๆ ทำไป กลับกลายเป็นว่าคู่แข่งก็ทำเหมือนกัน และทำให้คุณกับคู่แข่งไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลย ซึ่งสิ่งที่คุณลืมไปในการทำการขายหรือในระหว่างการนำเสนอคือ คุณไม่ได้สร้างแบรนด์ของคุณเองว่า แบรนด์คุณแตกต่างอย่างไรจากคู่แข่ง และมีกลยุทธ์แบรนด์อย่างไรทมี่จะสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อให้เกิดการจดจำ มีความชอบและเลือกสินค้าคุณในที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเป็นประจำจนสุดท้ายกว่าจะมาทำอะไรก็สายไปแล้ว
2. ต้องการเห็นผลทันที : คนทำการตลาดหลาย ๆ คนที่เป็นมือใหม่ มักจะตกกับดักนี้นั้นคือการที่ทำแล้วต้อแงเห็นผลต่าง ๆ ในระยะเวลาอันสั้นหรือเห็นผลในทันที ว่าทำแล้วยอดขายขึ้นมา แต่เอาเข้าจริง ๆ ในสถานการณ์จริงแล้วหลาย ๆ อย่างต้องใช้เวลาในการสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะแบรนด์ หรือการบอกต่อของผู้บริโภคความน่าเชื่อถือของแบรนด์เช่นกัน การทำการตลาดต้องใจเย็น ๆ และไม่เร่งและรีบร้อนจนเกินไป ด้วยการทำอะไรผ่านเวลาพวกนี้จะสร้างฐานที่แข็งแรงให้กับธุรกิจที่ทำขึ้นมาได้ และในระยะยาวจะทำให้เห็นผลดีกว่าการทำอะไรในระยะสั้นที่เห็นผลเลย
3. ไม่ชินกับการแข่งขัน : การตลาดนั้นไม่ใช่แค่เรื่องทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดลูกค้าขึ้นมา แต่เป็นการที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาดอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้นักการตลาดที่ปกติไม่ต้องแข่งขันอะไร เมื่อเกิดแบรนด์คู่แข่งขึ้นมาในตลาดต่างก็ปรับตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร หรือไม่คิดว่าคู่แข่งจะแย่งตลาดไปได้ หลาย ๆ ครั้งก็ใช้กลยุทธ์ที่แย่กว่าในการไปแข่งในเรื่องราคา โปรโมชั่น ซึ่งเป็นวิธีทำลายตลาดตัวเองลงไปนั้นเอง ทั้งนี้สิ่งที่ควรทำคือการอย่าได้ประมาทตลาดและทำการวิเคราะห์คู่แข่งหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดการแข่งขันได้ขึ้นมา ศึกษาว่าคู่แข่งจะแข่งด้วยอะไร หาข้อแตกต่างข้อดีของคุณและสร้างกลยุทธ์เพื่อรับมือเอาไว้
4. ทำการตลาดผิดช่องทาง : ด้วยสถานการณ์การตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่มีในตอนนี้ หลาย ๆ ครั้งที่เจอกับผู้ประกอบการ SME ที่ทำการตลาดเองคือการเชื่อมั่นในการตลาดที่เคยทำมาหรือเชื่อมั่นในวิธีที่เคยทำมาในอดีต เช่นการขายของผ่านหน้าร้านหรือตัวแทนจำหน่าย แต่ปรากฏว่ายุคนี้คนไปซื้อของผ่านออนไลน์หรือมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นและไม่ยอมทำการตลาดในช่องทางที่ถูกต้องทำให้นักการตลาดพลาดโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและทำการตลาดได้มีประสิทธิภาพได้ ดังนั้นเพื่อที่จะทำการตลาดได้ถูกต้องลองหันมาดูว่ากลุ่มเป้าหมายคุณคือใคร และกลุ่มเป้าหมายคุณสื่อสารกันผ่านช่องทางไหน หรือสถานที่ไหนที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายมารู้จักคุณ
5. เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป : สิ่งหนึ่งที่เจอในหลายๆ จากประสบการณ์ที่เคยเจอกับผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จในอดีตมาและต้องมาเริ่มทำการตลาดเองก็คือ การที่มีอีโก้และเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากโดยไม่ฟังความเห็นของคนๆ อื่น หรือเชื่อมั่นในวิธีการของตัวเองมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มก็คือเชื่อมั่นในคำแนะนำของคนที่ไม่รู้จริงที่มาแนะนำมากเกินไปจนทำลายในธุรกิจตัวเอง ทั้งหมดนี้นำไปสู่การเสียโอกาสในการทำการตลาดอย่างมาก ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดควรจะทำคือการต้องฟังเยอะ ๆ และลดอีโก้ตัวเองลงในการลงมือทำการตลาด
ทั้งนี้นี่คือข้อผิดพลาดเบื้องต้นสำหรับคนที่เพิ่งมาทำการตลาดเองหรือนักการตลาดมือใหม่ที่มักจะพลาดเป็นประจำขึ้นมา ด้วยการรู้ก่อนว่าจะมีข้อผิดพลาดเหล่านี้จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ต่อไป
