นักการตลาดปัจจุบันต้องมี ความเชี่ยวชาญลึก (Deep Expertise) ในด้านใดด้านหนึ่ง และความรู้กว้าง (General Knowledge) อีกหลากหลายด้าน เพื่อให้ร่วมงานข้ามสายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Skill ของนักการตลาดในยุคนี้เหมือนจะเป็นรูป T-Shape ที่นักการตลาดต้องสามารถทำอะไรได้หลากหลายอย่าง แต่เชี่ยวชาญงานของตัวเองอย่างมาก โดย T-Shape Marketer นั้นจะประกอบด้วย
ขีดแนวนอน ของตัว T เปรียบเหมือนทักษะด้านการตลาดโดยรวม อาทิ การตลาดดิจิทัล, Social Media, PR, Data Analysis ฯลฯ ที่มีระดับความรู้พื้นฐานหรือระดับกลางในหลายเรื่อง
ขีดแนวตั้ง ของตัว T คือ “พื้นที่ความเชี่ยวชาญหลัก” ซึ่งมีความสามารถลึกซึ้งกว่าทักษะอื่น และเป็นเสาหลักในการ Contributionให้ทีม
ยกตัวอย่าง หากเป็นผู้จัดการด้าน “Product Marketing” แนวตั้งอาจเป็น “Product Marketing” โดยตรง ขณะที่แนวนอน มีพื้นฐาน PR, e-mail Marketing, event planning และการออกแบบกราฟิกระดับเริ่มต้น ผสมกันไป
ทำไมนักการตลาดต้องเป็น T-shaped เพราะ Marketing ในตอนนี้ต้องอาศัย Skill ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการทำ Content, Graphic design, Data Analysis, VM ไปจนถึงมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า แต่ถ้าพยายามเชี่ยวชาญทุกอย่างถึงขั้น “ชำนาญหรือเชี่ยวชาญทุกด้าน” ก็อาจเป็นไปได้ยาก กลยุทธ์ T-shaped จึงช่วยให้นักการตลาดสามารถ “โฟกัสความเชี่ยวชาญ” ด้านที่ถนัดจริง ๆ และยังรักษาความรู้กว้างในหลายด้านเพื่อทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี
โดยข้อดีของการเป็น T-Shaped Marketer คือ
- เชี่ยวลึก (Vertical Bar) ดึงความโดดเด่น เพราะมีโอกาสเติบโตในสายงานมากขึ้นเพราะความเชี่ยวชาญด้านนึงด้านใดไปเลย หลายคนพบว่า การเน้นจุดแข็งด้านหนึ่งให้ “โดดเด่น” ช่วยสร้างการเติบโตได้มากกว่าการ “เก่งทั่ว ๆ ไป” ในทุกด้าน ดังนั้นการพัฒนาทักษะในด้านที่ถนัดนั้นจะส่งผลอย่างมากในการแข่งขันในการทำงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
- มีความรู้กว้าง (Horizontal Bar) เพื่อ “ร่วมงานได้สุดยอด” แม้ว่าจุดแข็งจะเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อเติบโต แต่ “พื้นฐานข้ามสาขา” ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะทำให้คุยกับคนในทีมอื่น ๆ ที่อยู่คนละแผนกได้อย่างเข้าใจเช่นทีมพัฒนา ทีมข้อมูลและร่วมงานกับคนสายอื่นได้ไม่มีปัญหา พร้อมกับมีมุมมองภาพรวมที่ช่วยให้วางแผนกลยุทธ์ครอบคลุมได้
การมีพื้นฐานหลายด้าน ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นเซียนทุกอย่าง แต่เข้าใจหลักการเพียงพอที่จะสื่อสารหรือช่วยตัดสินใจร่วมกับผู้เชี่ยวชาญได้ดีกว่า และในยุคนี้ที่สามารถใช้ AI เสริมพลัง 2 มิติของ “T” ให้แกร่งขึ้นด้วยการ
- ปิดจุดอ่อนในแนวนอน: ถ้าไม่เก่งกราฟิกหรืออยากเขียนบทความให้ไวขึ้น ก็ใช้ AI เพื่อสร้างภาพหรือร่างเนื้อหา ช่วยทำงานที่ไม่ถนัด ให้สามารถทำงานต่อไปได้หรือร่างแบบขึ้นมาเพื่อทำงานต่อ
- ยกระดับจุดแข็งในแนวตั้ง: ใช้ AI ช่วยระดมไอเดีย หาข้อมูล สรุป ทำให้ความเชี่ยวชาญยิ่งต่อยอดได้ไวและมีประสิทธิภาพ
โลกของการตลาดเปลี่ยนตลอดเวลา มี Platform ใหม่ ๆ ปรากฏขึ้น AI ก็ก้าวหน้าไม่หยุด ตลอดจนความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้น การเพิ่มจุดแข็งในเชิงลึก (Vertical) จะทำให้การทำงานโดดเด่น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดแรงงานยุคนี้ขึ้นมาได้ และ ความรู้รอบ (Horizontal) จะทำให้สามารถปรับตัวได้เร็ว เมื่อกลยุทธ์/เทรนด์/เครื่องมือใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาพร้อมสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ต่าง ๆ เข้ามาให้ทำงานด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานได้ง่าย รวมเร็วมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาในการทำงานลงไปได้อย่างมาก
ดังนั้นจะเห็นแล้วว่า “T-shaped marketer” ช่วยให้นักการตลาดเป็น “ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน” แต่ก็ยังมี “วิสัยทัศน์กว้าง” พร้อมประสานงานได้หลากหลาย นี่แหละรากฐานสำคัญที่จะพานักการตลาดนั้น ไปไกลในอาชีพ Modern Marketing