ในยุคที่เทคโนโลยี AI เปลี่ยนโลกทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวัน การทำงาน การทำธุรกิจ และยิ่งนับวัน AI ถูกพัฒนาให้มีความฉลาดทางปัญญา หรือ IQ (Intelligence Quotient) สูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างรายงาน Tracking AI ปัจจุบันโมเดล AI ยอดนิยมหลายตัว เช่น GPT 5 Pro, Gemini 2.5 Pro, Claude-4.1 Opus, Grok 4 มีระดับ IQ เฉลี่ยอยู่ที่ 116-122 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของมนุษย์ ซึ่งอยู่ที่ 90-109 อีกทั้งต้นทุนของการเทรน และการจัดจำหน่าย AI ถูกลงทุกปี
จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในโลกที่มีแต่ความวุ่นวาย ยุ่งยาก และ AI ฉลาดขึ้นทุกวันเช่นนี้ คุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์อยู่ตรงไหนในวันที่เราไม่ฉลาดที่สุดอีกต่อไป ? และมนุษย์จะทรานส์ฟอร์มตัวเองให้อยู่รอดอย่างไร ?
ในงาน The Secret Sauce Summit 2025 เซสชั่น Scaling infinitely: a Winning Mindset in the Age of AI โดย คุณณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ViaLink และ Siametrics Consulting ได้ชวนไปค้นหาคุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์ และความกล้าในการทรานส์ฟอร์มตัวเอง
3 แนวโน้มสำคัญยุค AI ถูกแพคขาย และจำหน่ายไปทั่วโลกในต้นทุน-ราคาที่ถูกลง
ทุกวันนี้ “ปัญญา” หรือ “AI” กำลังถูกแพคขาย และจำหน่ายไปทั่วโลก ผู้ใช้งานที่ต้องการใช้ AI จ่ายเงิน 700 – 800 บาทต่อเดือน ก็สามารถใช้ AI ได้ อย่างล่าสุด ChatGPT และ Gemini เปิดแพ็คเกจราคาถูกที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
คาดการณ์แนวโน้ม 3 เรื่องที่จะเห็นมากขึ้นจากนี้ คือ
- ต้นทุนในการ Training และจัดจำหน่าย AI จะถูกลงเรื่อยๆ โดยคาดว่าจะถูกลง 10 เท่าทุกปี
- AI เก่งขึ้นเรื่อยๆ และ AI จะอยู่ในทุกที่ ไม่ว่าจะในแอปพลิเคชัน, หุ่นยนต์, อุปกรณ์ wearable ต่างๆ เช่น แหวน แว่นตา สร้อยคอ
- AI จะก้าวไปสู่ระดับ Operating System ต่อไปจะไม่ได้มีแค่ MacOS หรือ Android OS เท่านั้น
ตัวอย่างเครื่องมือ AI เพื่อตอบโจทย์การทำงานในด้านต่างๆ เช่น
- NotebookLM: ช่วยสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลหรือเนื้อหาที่ผู้ใช้งานป้อนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, ไฟล์ รวมถึงตอบคำถาม
- Gamma: ช่วยทำสไลด์นำเสนองาน, เอกสาร และออกแบบเว็บไซต์
- Claude: เป็น LLM ที่มีความสามารถหลากหลาย เช่น แชทถาม-ตอบ, วิเคราะห์, สร้างสรรค์คอนเทนต์
- Replit: AI สร้างแอปพลิเคชัน
- HubSpot: เครื่องมือด้านการตลาดที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนที่มีแนวโน้มสนใจสินค้า/บริการ (Lead customer)
- ViaLink: เครื่องมือบริหารจัดการไฟล์เอกสารภายในองค์กร เพียงแค่ drag & drop ไฟล์ ตอบโจทย์กระบวนการทำงานที่ง่ายและเร็วขึ้น
“AI ไม่ใช่เรื่องของฝ่าย IT แต่เป็นเรื่องของ CEO เรื่องบอร์ดบริหาร และการใช้ AI ควรโฟกัสที่ปัญหาที่แท้จริง, โฟกัสที่เป้าประสงค์, และโฟกัสที่ความเร็ว แทนการโฟกัสที่ความสมบูรณ์แบบ (perfection) ขณะเดียวกันให้ใช้โซลูชัน AI ที่มีอยู่ในปัจจุบันก่อน”
คุณค่าของมนุษย์ที่อยู่เหนือ AI
คุณณภัทร เล่าแนวคิด “Solo Unicorn” ของ Sam Altman, CEO OpenAI มองว่าบางธุรกิจในอนาคตจะมีมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้โดยมีเจ้าของเป็นพนักงานเพียงคนเดียวของบริษัท
จากแนวคิดดังกล่าว คุณณภัทร จึงท้าทายตัวเองด้วยการทดลองทำ “ธุรกิจใหม่” กำหนดเวลาในการพัฒนาธุรกิจภายใน 1 เดือน โดยได้ไอเดียทำ “ยาดม” ต่อยอดจากที่บริษัทของคุณณภัทรทำยาดมแจกลูกค้าอยู่แล้ว จากนั้นนำไปถาม Gen AI ได้ออกมาเป็น
- ชื่อแบรนด์ “NuaNose”
- คอนเซ็ปต์ยาดมทันสมัย หอม…กลิ่นความเจริญ
- ขายความสนุก ความบ้า เข้าใจคนในวันที่อยู่ยาก
- เน้น Content Marketing และการทำ Collab เพื่อให้ได้กลิ่นแปลกๆ ท้าให้ลอง
- ช่วยคิดกลิ่นและส่วนผสมให้ เช่น กลิ่น PayDay, กลิ่นปางห้ามญาติ, กลิ่นนักรัก, กลิ่นพระราม 2, กลิ่นเดอะแบก, กลิ่นรางวัลที่ 1 เป็นต้น
- ใช้ AI ช่วยออกแบบระบบหลังบ้าน เช่น แบบฟอร์มคำสั่งซื้อสินค้า
- ผลปรากฏว่าจากเดิมกำหนดระยะเวลาพัฒนาสินค้า 1 เดือน แต่ AI สามารถคิดได้ภายใน 1 วัน จากนั้นติดต่อสั่ง OEM ผลิตให้ และจดทะเบียนบริษัท กลิ่นความเจริญ จำกัด
จะเห็นได้ว่า AI เข้ามามีบทบาทแทบจะทุกกระบวนการธุรกิจ ตั้งแต่ช่วยคิดและพัฒนาสินค้า คอนเซ็ปต์แบรนด์ และระบบ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีสิ่งที่ AI ไม่อาจทำแทนมนุษย์ได้ นั่นคือ
1. Branding: การออกแบบโลโก้ของแบรนด์ NuaNose ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณณภัทร
2. Authenticity: ความแท้จริง หรือความจริงใจของมนุษย์ เป็นสิ่งที่คนสัมผัสได้
3. Human Creativity: ความคิดสร้างสรรค์ของคนเป็นสิ่งที่ AI ไม่อาจทำแทนได้
4. อารมณ์ขัน: AI ไม่มีความเข้าใจในอารมณ์ความรู้สึก
5. มนุษย์มีแรงใจ ความอึด และความไม่ย่อท้อ
“แม้เราจะพยายามเรียนรู้และใช้งาน AI ทั้งหมดอาจแค่เสมอตัว แล้ว “คุณค่าของมนุษย์” จริงๆ แล้วอยู่ตรงไหนในวันที่มนุษย์ไม่ได้ฉลาดที่สุดอีกต่อไป ? เพราะฉะนั้นการอยู่รอดในยุค AI ไม่ใช่การพยายามจะเป็น Solo Unicorn ไม่ใช่ความพยายามสู้กับ AI เพราะถึงอย่างไรมนุษย์ก็แพ้ และที่สำคัญคือ “ความกล้า” ที่จะยอมรับในความเป็นมนุษย์ ยอมรับในความไม่ perfect ไม่ฉลาดที่สุด ไม่เก่งที่สุด ไม่เคยทำ
แต่สำคัญที่สุดคือ ความกล้าที่จะ “ละทิ้ง” ความคิดและความจริงเกี่ยวกับศักยภาพเดิมของเราที่เคยทำสำเร็จมาก่อนหน้านั้น พร้อมไปกับการทรานส์ฟอร์มตัวเอง และน้องในทีม เพราะทางรอดเดียว คือ การขยายขอบเขตของความสามารถ ศักยภาพ และความหมายของการเป็นมนุษย์ แม้วันพรุ่งนี้เราจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีปัญญามากที่สุดอีกต่อไป” คุณณภัทร สรุปทิ้งท้ายถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้