3 วิธีที่ Content TV จะอยู่รอดในยุคแห่งออนไลน์

  • 167
  •  
  •  
  •  
  •  

คนทำโทรทัศน์นั้นกำลังร้อน ๆ หนาว ๆ เมื่อไปดูเทรนด์ที่ทุกปีอัตราแนวโน้มการดูโทรทัศน์หรือความนิยมการดูโทรทัศน์นั้นมีเทรนด์ที่ตกลงเรื่อย ๆ และถูกช่องทางดิจิทัลแย่งพื้นที่ความสนใจไป สิ่งที่เกิดขึ้นคือรายได้ทางโทรทัศน์นั้นตกลงเรื่อย ๆ ทำให้ช่องโทรทัศน์หรือรายการโทรทัศน์นั้นขายรายได้ลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ไม่สามารถอยู่ได้และยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

18619905_800721823423109_7686128929661278377_n

ในอดีตนั้นเวลา Agency Media ขายสื่อโฆษณานั้น สื่อออนไลน์จะเป็นสื่อสุดท้ายที่ใส่และเป็นสื่อแรกที่ตัดออก ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นสื่อที่แถมมากับการซื้อสื่ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือสื่อสิ่งพิมพ์ มาในยุคนี้กลายเป้นว่าสื่อโทรทัศน์มีความสนใจน้อยลงอย่างมาก สื่อสิ่งพิมพ์นี้เรียกได้ว่าลมหายใจรวยริน ส่วนสื่อออนไลน์หลายเป็นสื่อที่มาแรงอย่างมาก ยุคนี้ Internet กลายเป็นโทรทัศน์ของคนรุ่นใหม่ขึ้นมา และ internet ในที่นี้ก็คือ Smartphone และ Smartphone ก็ทำหน้าที่คอมพิวเตอร์ในยุคนี้อีกด้วย ยุคนี้กลายเป็นว่าผู้บริโภคไม่สนใจว่าจะหน้าจออะไร เครื่องมืออะไร แต่ขอให้บริโภคสื่อที่ต้องการได้ ซึ่งกลายเป้นว่าไม่มีเส้นคั่นระหว่างหน้าจอและอุปกรณ์อีกต่อไป จากเทรนด์ที่เกิดขึ้นเราจึงได้เห็นเทรนด์ที่โฆษณาออนไลน์นั้นแซงหน้าโทรทัศน์อย่างเห็นได้ช้ดแล้สในปีนี้ และเรตติ้งทีวีที่ตกลงเรื่อย ๆ แถมกระจายตัวแย่งกันระหว่างช่อง Free TV กับ Digital TV อีกตั้งหาก  ทำให้สื่อทีวีที่ไม่รู้จะปรับตัวอย่างไรหรือไม่รู้จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักนั้นกำลังจะตายลง ยิ่งไปกว่านั้นนักการตลาดที่ซื้อสื่อเองไม่ได้อยากจะกวาดกลุ่ม Mass Target อีกต่อไป แต่ต้องการสื่อที่สามารถสื่อสารได้เฉพาะเจาะจงกลุ่มมากขึ้นมีความ Effective มากขึ้น (ในประเทศไทยเอง ยังไม่มีมาตรฐานแบบนี้เหมือนในอเมริกาที่สามารถวัดผลแต่ละบ้านที่ดูโทรทัศน์ จนสามารถซื้อโฆษณาเพื่อส่งไปตามบ้านที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้)

beyond-direct-response-how-to-measure-success-in-programmatic-branding-15-638

eMarketer ได้คาดการณ์ว่า Programmatic TV จะแย่งส่วนแบ่งโฆษณาทีวีดังเดิม 6% ภายในปี 2018 ปัญหาของ Programmatic TV คือการที่ยังไม่สามารถ Scale ไปยังจุดที่เหมือนออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตามก็ยังมีโอกาศมากมายที่นักการตลาดจะจับจองพื้นที่ตรงนี้ และทำให้มีผู้เล่นมากมายที่เข้ามาพัฒนา Programmatic TV  ในตอนนี้ สิ่งสำคัญคือการสร้างมาตรฐานของ Programmatic TV  ที่ในยุคนี้ผู้ชมนั้นสามารถเลือกชมรายการหรือเนื้อหา TV ต่าง ๆ ได้ผ่านระบบ On-demand  หรือ Streaming TV ในแบบต่าง ๆ เช่น HBO เองก็มี HBO go และ HBO now สิ่งที่ Programmatic TV ต้องทำได้คือการเชื่อมพฤติกรรมการดูของผู้ชมเข้ากับเนื้อหาโฆษณาที่นักโฆษณาเลือกไว้ได้ถูกต้อง แต่ปัญหาเหล่านี้ยังมีหนทางอีกยาวนานและเป็นเรื่องปลายทางที่คนทำโทรทัศน์ใช้แก้ปัญหา แต่ปัญหาสำคัญคือการทำอย่างไรที่จะทำให้เนื้อหาตัวเองนั้นสามารถเจาะกลับสู่ฐานคนดูที่นิยมดูผ่านเครื่องมืออนไลน์ต่าง ๆ กัน ซึ่งทางรอดของการทำ  TV นั้นจะมี 3 ข้อต่อไปนี้

1. คิดถึง device-neutral นักการตลาดนั้นต้องลงเงินแยกกันระหว่าง TV มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ หรือคนทำโทรทัศน์เองก็ขายเนื้อหาหรือช่องทางสื่อเหล่านี้แยกกัน แต่จริง ๆ แล้วผู้บริโภคไม่ได้สนใจว่าใครจะลงโฆษราแบบไหน แต่สนใจว่าเนื้อหาที่จะดูนั้นมีอยู่ในทุกเครื่องมือที่ต้องการดูหรือไม่ เพราะฉะนั้นคนทแตำโทรทัศน์ต้องเลิกคิดถึงโทรทัศน์ แต่ต้องคิดว่าเนื้อหาหรือรายการตัวเองจะเข้าไปอยู่ตามเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างไร และทำให้ผู้บริโภคสามารถบริโภคเนื้อหาเหล่านี้แบบ across devices ได้อย่างไร เพราะถ้าไม่เริ่มทำและไม่เริ่มคิดว่าจะกระจายเนื้อหาอย่างไร ในที่สุดเนื้อหาโทรทัศน์นั้นจะหายไปจากความสนใจของผู้บริโภคแน่นอน

2. คิดถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ในยุคที่นักการตลาดหรือคนทำเนื้อหาสามารถเก็บข้อมูลผู้บริโภคได้มากมาย การเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการอะไร เมื่อไหร่และอย่างไรเป็นเรื่องสำคัญ คนทำโทรทัศน์ต้องเริ่มหัดใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสร้าง Content ที่สามารถจับกลุ่มผู้ชมได้ แล้วใช้ข้อมูลออนไลน์และช่องทางออนไลน์มาต่อยอดเพื่อให้ได้กลุ่มผู้ขมให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ข้อดีของออนไลน์คือยังสามารถเทสรายการได้หลาย ๆ แบบเพื่อดูว่าเนื้อหาแบบไหนจะทำงานได้ดีที่สุด

3. สร้างความร่วมมือ ช่องโทรทัศน์ในต่างประเทศนั้นต่างร่วมมือกันเพื่อพัฒนามาตรฐานของการสร้างระบบ Programmatic TV ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักการตลาดและพฤติกรรมการดูของผู้บริโภค ทำให้วงการโทรทัศน์นั้นไม่ได้ตายลงและกลับมาคุกคักมีชีวิตและเม็ดเงินไม่ได้แค่ไหลลงออนไลน์แบบเดิม แต่ไหลสู่ผู้ผลิตเนื้อหาโทรทัศน์ที่สามารถกระจายเนื้อหาไปยังทุกที่ ทุกเวลา อีกด้วย

Screen Shot 2560-05-24 at 6.44.18 PM

ทั้งนี้คนทำโทรทัศน์ยุคนี้ ต้องเลิกคิดถึงการกระจายเนื้อหาของตัวเองแบบโทรทัศนืฉบบเดิม แต่ต้องเริ่มคิดว่าจะกระจายเนื้อหาของตัวเองไปยัง Platform ต่าง ๆ ได้อย่างไร แล้วจะเก็บข้อมูลผู้ขมอย่างไร เพื่อนำมาวัดผล และสามารถทำเนื้อหาที่โดนผู้บริโภคและสามารถให้นักการตลาดซื้อโฆษณาได้แม่นยำและมีมาตรฐานมากขึ้น


  • 167
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ