5 เหตุผลที่นักการตลาดทำ Social Media Marketing แย่

นักการตลาดหลาย ๆ คนนั้นใช้ Social Media เป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงผู้บริโภคต่าง ๆ ที่อยากจะสื่อสารเรื่องแบรนด์ สินค้าและบริการออกไป แต่หลาย ๆ ครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นคือนักการตลาดหลาย ๆ คนนั้นใช้ Social Media ไม่ได้เป็นดังฝันไว้ ทำให้การตลาดที่ทำนั้นไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ไกลได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดจาก Platform ในหลาย ๆ ครั้ง แต่เกิดขึ้นกับการทำงานของนักการตลาดเอง

การไม่เข้าใจ Social Media หรือทำตามที่ตัวเองเคยชินในแบบที่เคยทำมาในอดีตและเชื่อนั้น ทำให้เกิดความผิดพลาดมากมายในการทำ Social Media Marketing ทำให้สิ่งที่ทำนั้นไม่ได้ตรงกับความต้องการหรือถูกจริตคนใน Social Media เท่าไหร่ แถมยังทำให้นักการตลาดนั้นต้องทำทุ่มงบประมาณมากมายเพื่อทำให้ Social Media ตัวเองนั้นปรากฏให้เห็นต่อกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาดู 5 เหตุผลที่นักการตลาดทำ Social Media Marketing แย่

1. แบรนด์ต้องมีภาพลักษณ์แบรนด์

แบรนด์ต้องมีภาพลักษณ์นี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วในการทำงาน แต่เมื่อคุณต้องกลายเป็นอัตลักษณ์บุคคลที่ต้องสื่อสารกับบุคคล การทำตัวเป็นแบรนด์และมีภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นไม่สามารถทำให้ผู้บริโภครู้สึกเข้าถึงได้ และในบางครั้งแบรนด์ต้องมีความสามารถปรับตัวในการสื่อสารโดยสามารถสื่อสารในรูปแบบที่ผู้บริโภค หรือรูปแบบที่ผู้บริโภคชอบได้ เช่นใน Twitter จะเข้าใจกันดีว่าชอบติดตามเรื่องดาราเกาหลี และอะไรที่เป็นเหมือนการแสดงความคิดเห็น การเอาแบรนด์หรือเรื่องที่กลุ่มคนในนั้นไม่อยากฟังไปพูดจะทำให้ไม่สามารถเชื่อมติดได้ หรือการที่แบรนด์ต้องสามารถใช้เครื่องมือใหม่ ๆ เป็นเช่น Instagram Stories ใส่ Sticker และ Text ในแบบผู้บริโภคสื่อสารเข้าไปได้

2. ไม่ปฏิสัมพันธ์กลับ ไม่สร้างแฟน

ในการทำ Social Media นั้นไม่เหมือนการทำเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือหน้า Content ต่าง ๆ แต่เปรียบเสมือนที่เว็บบอร์ด ที่คนจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ชอบ ไม่เห็นด้วย หรือทำตลอดเวลา ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์และนักการตลาดพลาดตรงนี้ไป ในการทำ Social Media แบบที่โพสข้อความอย่างเดียวขึ้นไปโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาปฏิสัมพันธ์ หรือการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ในโพสนั้นขึ้นมา ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป Social Media ของคุณจะแห้งจนไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไร หรือไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างช่องทางแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายขึ้นมา แล้วสิ่งที่ตามมาคือการที่คุณจะไม่มีฐานแฟนใด ๆ ในการสร้างการกระเพื่อมของการตลาดได้เลย ดังนั้นแบรนด์ต้องเริ่มคิดถึงการทำ SLA ในการตอบกลับข้อความต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อสร้างบทสนาทนาขึ้นมาได้

3. มีคนชอบแต่ไม่เคยใช้ให้ช่วยโปรโมท

หลาย ๆ ครั้งนักการตลาดสร้างแฟนขึ้นมามากมายใน Social Media ของตัวเอง ซึ่งเมื่อโพสออกไปก็มีแฟน ๆ ของ Social Media นั้นเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย และนักการตลาดก็หวังว่าจะเกิดยอด Share หรือกระจายตัวของโพสนั้นออกไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเหล่าคนที่มาปฏิสัมพันธ์นั้นไม่ได้แชร์ออกไปดังใจหวัง ทำให้ยอดการกระจายของ Content นั้นน้อยไป ปัญหานี้นักการตลาดนั้นสามารถช่วยได้ โดยการร้องขอ หรือส่งข้อความไปยัง แฟนพันธุ์แท้ของ Social Media ตัวเองให้ทำการโพสข้อความต่าง ๆ ออกไปได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการเข้าถึงของ Content ขึ้นมาอย่างง่ายได้ โดยแทบไม่ต้องใช้การลงเงินโฆษณาเลยด้วยซ้ำ

4. รู้ว่าอะไรกำลังมา แต่ไม่ทำ

สิ่งที่แย่กว่าการไม่รู้ แล้วไม่ได้ทำ นั้นคือการรู้แต่ไม่ทำ นั้นคือนักการตลาดหลาย ๆ คนปล่อยโอกาสต่าง ๆ ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายออกไปโดยไม่ได้ลงมือทำอะไร หรือลงมือทำให้ถูกทาง ตัวอย่างอย่างง่ายเลย คือการที่รู้ว่ายุคนี้คนใน Social Media Platform บางประเภทนั้นชอบดูวิดีโอ หรือให้ค่าวิดีโอนั้นเป็นพิเศษ แต่กลับคิดว่าวิดีโอไม่จำเป็น และยังทำการโพสข้อความในรูปข้อความ ลิงก์ หรือรูปภาพแบบเดิม ทำให้ยอดการกระจายของข้อความนั้นต่ำกว่าที่ควรเป็น ซึ่งถ้าสามารถทำให้เนื้อหานั้นใช้ format ที่ถูกต้องได้ ก็อาจจะทำให้การสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้หลายเท่าเลยทีเดียว หรืออีกรูปแบบหนึ่งคือการรู้ว่า ยุคนี้ต้อง Persernalisation สร้างข้อความที่ยิงตรงเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่สนใจในเนื้อหานั้นเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นักการตลาดก็ไม่ได้ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการทำงาน ยังคงทำโพสเดียวกระจายให้ทุกคนต่อไป

5. ไม่จัดการตัวเองให้ดี และมาพูดว่าตัวเองดี

ปัญหาที่แย่ ๆ ของแบรนด์ คือการไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นอย่างไร ยังจะทำการตลาดบอกว่าสินค้าและบริการของตัวเองนั้นดีอีก ซึ่งเมื่อโพสข้อความในการโปรโมทตัวเองขึ้นไป ทำให้มีคนมาโจมตีตัวเองมากมาย และทำให้แบรนด์นั้นดูไม่ได้ดีจริงอีกด้วย แย่ไปมากกว่านั้นคือการที่แบรนด์ไล่ลบความคิดเห็นที่โจมตีตัวเองทั้งหลายออกไป ทำให้ผู้บริโภคที่เข้ามาแสดงความเห็นต่างก็จับได้ว่าแบรนด์ที่ไล่ลบความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่มีความจริงใจในการทำงานหรือความจริงใจในการให้บริการอีกต่อไป

ทั้ง 5 ข้อนี้เป็น 5 ข้อเบื้องต้นที่ทำให้นักการตลาดนั้นทำการตลาดผ่าน Social Media ไม่ได้ประสิทธิภาพขึ้นมา ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดจาก Platform แต่เป็นวิธีการทำงานของนักการตลาดเองที่ทำให้การทำ social Media Marketing นั้นไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเอง